ทองคำร้อนแรงด้วยดอกเบี้ย FED ผันผวนด้วย Geopolitical risks
ราคาทองคำในเดือนกันยายน 2025 ยังคงมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่งโดยปรับตัวขึ้นมาถึง 344 ดอลลาร์ต่ออออนซ์ (+9.98%) YTD จากระดับ 3,447 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 3,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ วันที่ 23 กันยายน เวลา 16.20 น. ซึ่งนับเป็นการปรับตัวขึ้นในรายเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้ แซงหน้าเดือนมีนาคมที่ปรับตัวขึ้นได้ถึง 9.31%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยมีแรงขับเคลื่อนมาจากภาคแรงงานสหรัฐที่อ่อนแออย่างมีนัยสำคัญในเดือนสิงหาคม ตลอดจนเดือนกันยายนที่การจ้างงานนอกภาคเกษตรยังอ่อนแอลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 22,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ยิ่งไปกว่านั้นกระทรวงแรงงานได้ทำการปรับปรุงข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำปี (เดือนเมษายน 2024 - มีนาคม 2025) ลดลงอีก 911,000 ตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 ปัจจัยเหล่านี้สนับสนุนให้ FED จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินในทิศทางที่ผ่อนคลายลง (Dovish)
นอกจากนี้ ตลาดได้เพิ่มความมั่นใจขึ้นอีกหนึ่งขั้นว่า FED จะมีท่าที Dovish ลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐ (Senate) มีมติรับรองให้ “สตีเฟน มิรัน” อดีตที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจคนสำคัญของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ให้เข้าดำรงตำแหน่ง “ผู้ว่าการเฟด” ในช่วงเวลาเพียงสองวันก่อนการประชุม FED ในวันที่ 17 กันยายน
ท้ายที่สุดแล้ว FED ก็มีทิศทางดอกเบี้ยนโยบายที่ Dovish ลงตามตลาดคาดการณ์ โดยหลังจากที่ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.00%-4.25% แล้วยังมีคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตจาก Dot Plot ที่บ่งชี้ถึงขนาดการปรับลดดอกเบี้ยปี 2025 ที่เพิ่มจากเดิมมองปรับลดเพียง 2 ครั้ง หรือ 0.50% ขึ้นเป็นการปรับลดได้ถึง 3 ครั้ง หรือ 0.75% แม้ว่าในภายหลัง “เจอโรม พาวเวล” จะสกัดความร้อนแรงของตลาดโดยกล่าวว่า เงินเฟ้อจากราคาสินค้าที่รับผลกระทบจากภาษีจะยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้จนถึงปีหน้า
อย่างไรก็ดี “สตีเฟน มิแรน” ได้แสดงความพยายามของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ต้องการให้ FED ทำการปรับลดดอกเบี้ยขนานใหญ่ โดยการโหวตสวนเสียงส่วนใหญ่ว่าให้ FED ทำการลดดอกเบี้ย 0.50% ในครั้งนี้ทันที อีกทั้งใน Dot Plot ยังเป็นคนเดียวที่มีมุมมอง Super Dovish อย่างโดดเด่น โดยโหวตให้อัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สามารถปรับลดลงไปได้อีกถึง 5 ครั้ง หรือ 1.25% สู่ระดับ 2.75-3.00% สถานการณ์ดังกล่าวจึงตอกย้ำความต้องการที่จะมีอิทธิพลใน FED ของ “ทรัมป์” ซึ่งบั่นทอนความเป็นอิสระ และหนุนทองคำเพิ่มเติม
ราคาทองคำ ณ ปัจจุบัน ที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมของสถาบันรายใหญ่หลายแห่งจึงส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้างในระยะสั้น อย่างไรก็ดี กองทุนทองคำ SPDR รายใหญ่ของโลกยังเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง จนยอดการถือครองสะสมกลับมาแตะ 1,000.57 ตัน ณ วันที่ 24 กันยายน เป็นระดับการถือครองสูงที่สุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022
ทั้งนี้ ราคาทองคำในระดับสูงจะมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้นตาม และคาดว่ามีโอกาสที่จะแกว่งตัวตามสถานการณ์ที่ผันผวน จากความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ที่เริ่มคุกรุ่นอีกครั้ง หลังจากเมื่อวันที่ 22 กันยายน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations Security Council (UNSC) ได้จัดการประชุมฉุกเฉิน โดยชาติพันธมิตร NATO ต่างกล่าวหารัสเซียอย่างรุนแรงว่า ได้ละเมิดน่านฟ้าของเอสโตเนียด้วยการส่งเครื่องบินขับไล่ MiG-31 จำนวน 3 ลำ รุกล้ำน่านฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นเวลานานถึง 12 นาที ก่อนจะถูกบังคับให้ออกจากพื้นที่ อีกทั้งในช่วงก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ยังส่งโดรนกว่า 20 ลำ รุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์ ทำให้เครื่องบินรบของ NATO ต้องทำการยิงสกัดบางลำ อย่างไรก็ดี รัสเซียกลับเรียกการประชุมครั้งนี้ว่าเป็น "ละครไร้สาระ (theater of the absurd)”
ในขณะที่ การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ United Nations General Assembly (UNGA) กำลังอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้นำระดับสูงเดินทางมากล่าวถ้อยแถลง โดย “เอ็มมานูเอล มาครง” ปธน.ฝรั่งเศส ได้ประกาศรับรอง "รัฐปาเลสไตน์" กลางเวที ต่อจากสหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย และโปรตุเกส ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่ออิสราเอล ขณะที่ “ทรัมป์” แสดงจุดยืนที่เปลี่ยนแปลงไปโดยหันมาอยู่ข้างยูเครนมากขึ้น พร้อมกล่าวว่ารัสเซียเป็นเหมือน “เสือกระดาษ (paper tiger)”
ฐิภา นววัฒนทรัพย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท YLG Bullion And Future จำกัด
