วอร์เรน บัฟเฟตต์ ขายหุ้น BYD เกลี้ยงพอร์ต ตอกย้ำความท้าทายของ EV จีน
เมื่อ 17 ปีที่แล้ว เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ (Berkshire Hathaway) บริษัทโฮลดิ้งชื่อดังของวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ซื้อหุ้นบริษัทรถยนต์บีวายดี (BYD) ของจีน ตามคำแนะนำของชาร์ลี มังเกอร์ (Charlie Munger) มือขวาของบัฟเฟตต์ ในขณะที่โลกยังไม่รู้จักรถยนต์แบรนด์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
การลงทุนครั้งนั้นเป็นหนึ่งในการลงทุนที่สะท้อนวิสัยทัศน์อันเฉียบคมของบัฟเฟตต์และมังเกอร์อย่างยิ่ง เพราะในช่วงเวลา 17 ปีที่เบิร์กเชียร์ถือหุ้น BYD นั้น ราคาหุ้น BYD เพิ่มขึ้น 3,890%
เบิร์กเชียร์ให้บริษัทลูก คือ เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ เอเนอร์ยี (Berkshire Hathaway Energy) เข้าซื้อหุ้น BYD จำนวน 225 ล้านหุ้น ในปี 2008 ด้วยเงิน 230 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.02 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น)
เมื่อเก็บเกี่ยวกำไรจนพอใจแล้ว เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ ก็เริ่มขายหุ้น BYD ออกในเดือนสิงหาคม 2022 ก่อนจะขายออกอีกเกือบ 76% ในเดือนมิถุนายน 2024 เหลือไว้เพียงไม่ถึง 5% ของทั้งหมดที่เคยซื้อมา
และล่าสุด มีผู้ติดตามความเคลื่อนไหวของบัฟเฟตต์ชี้ว่า เอกสารทางการเงินไตรมาสที่ 1 ของ เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ เอเนอร์ยี ระบุมูลค่าการลงทุนใน BYD เป็นศูนย์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2025 ด้านโฆษกของเบิร์กเชียร์ก็ยืนยันว่าได้ขายหุ้น BYD ออกไปหมดแล้ว
ชาร์ลี มังเกอร์ ผู้แนะนำให้บัฟเฟตต์ซื้อหุ้น BYD บอกกับผู้ถือหุ้นในการประชุมประจำปี 2009 ว่า ถึงแม้จะดูเหมือนว่า “บัฟเฟตต์และผมบ้าไปแล้ว” ที่เข้าไปซื้อหุ้น BYD แต่เขามองว่าบริษัทนี้และหวัง ชวนฟู (Wang Chuanfu) ซีอีโอของบริษัทเป็นอะไรที่ “ปาฏิหาริย์สุดๆ”
เนื่องจากบัฟเฟตต์มีวิสัยทัศน์การลงทุนที่เฉียบคมเสมอมา การที่บัฟเฟตต์ซื้อหรือขายหุ้นบริษัทใดจึงสะท้อนอะไรบางอย่างที่ตลาดต้องตีความต่อ การซื้อหุ้นของบัฟเฟตต์มักจะถูกมองเป็นสัญญาณไฟเขียวต่อหุ้นตัวนั้นๆ และในทางตรงข้าม การขายก็เหมือนเป็นสัญญาณไฟเหลืองหรือไม่ก็ไฟแดง
แล้วการที่บัฟเฟตต์ขายหุ้นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจีนออกทั้งหมด สะท้อนอะไร ?
เหตุผลเบื้องต้น อาจจะมองว่าได้บัฟเฟตต์ทำกำไรจากหุ้น BYD ได้มากในระดับที่พอใจแล้ว แต่หากพิจารณาภาพรวมการลงทุนของบัฟเฟตต์ บัฟเฟตต์ก็ยังคงถือหุ้นหลายตัวที่มูลค่าสูงมีกำไรหลายเท่าตัวเอาไว้ ดังนั้นจึงน่าจะเป็นเพราะเหตุผลอื่นมากกว่า
นักวิเคราะห์ข้อมูลของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) วิเคราะห์ไว้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 ว่า การที่เบิร์กเชียร์ขายหุ้น BYD นั้นเป็นการเน้นย้ำถึงความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน
ตัวบัฟเฟตต์เองไม่เคยอธิบายลงรายละเอียดว่าทำไมจึงขายหุ้น BYD ออกไป แต่เมื่อปี 2023 เขาบอกกับ CNBC ว่า แม้ว่า BYD เป็น “บริษัทไม่ธรรมดา” ที่บริหารโดย “บุคคลที่ไม่ธรรมดา” แต่ “ผมว่าเราน่าจะเอาเงินไปทำอะไรบางอย่างที่ผมรู้สึกดีกว่านี้ได้” สะท้อนว่าบัฟเฟตต์ไม่สบายใจกับการถือหุ้น BYD
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เบิร์กเชียร์ แฮทาเวย์ ได้ขายหุ้นเกือบทั้งหมดของบริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ หรือ TSMC ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากซื้อหุ้นบริษัทโรงงานหล่อชิปนี้มาได้เพียงไม่กี่เดือน
เหตุผลที่บัฟเฟตต์ขายหุ้น TSMC นั้นค่อนข้างชัดเจนว่า เพราะเขาประเมินความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ใหม่ เนื่องจากการที่รัฐบาลจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
“มันเป็นโลกที่อันตราย” บัฟเฟตต์กล่าวถึงความเสี่ยงดังกล่าว
