ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปเยือนสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงครั้งใหญ่ พร้อมเข้าพบเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ซึ่งกำลังถูกจับตามองหลังมีข่าวทรัมป์จะปลดออกจากตำแหน่งอ้างเหตุผล พบความผิดปกติจากการใช้งบประมาณปรับปรุงอาคารแห่งนี้สูงเกินไป
ทรัมป์ปรากฏตัวในชุดสูท สวมหมวกนิรภัยท่ามกลางเสียงสว่านและฝุ่นของไซต์ก่อสร้าง พร้อมคณะผู้ติดตามและหน่วยอารักขา เขาเดินตรวจพื้นที่และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ค่าใช้จ่ายของโครงการนี้มันบานปลายเหลือเกิน ประมาณ 3.1 พันล้านดอลลาร์ได้”
ขณะที่เจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ได้ส่ายหน้าปฏิเสธตัวเลขนั้น พร้อมตอบกลับว่า “ผมไม่เคยได้ยินตัวเลขนั้นมาก่อนเลย”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามตรง ๆ ว่า เรื่องค่าใช้จ่ายการก่อสร้างที่บานปลายถือเป็น “ความผิดร้ายแรงที่ควรโดนปลดหรือไม่” ทรัมป์ตอบเพียงว่า “ผมไม่อยากจัดเรื่องนี้ไว้ในหมวดนั้น” ก่อนจะเสริมว่า “ผมก็แค่ไม่คิดว่าจำเป็นต้องปลดเขา”
ทรัมป์ใช้โอกาสนี้กดดันเฟดแบบตัวต่อตัว โดยบอกกับนักข่าวภายหลังว่า เขาได้พูดคุยกับพาวเวลล์เรื่องอัตราดอกเบี้ย และเรียกการสนทนานั้นว่า “productive talk” ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า พาวเวลล์จะเป็นผู้แสดงความเห็น ในงานแถลงข่าวครั้งถัดไปของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ทั้งนี้เฟดมีกำหนดประกาศมติอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปในวันที่ 29-30 ก.ค. 2568 โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันอยู่ที่ 4.25-4.50% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงสะท้อนภาพแข็งแกร่ง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ขยับขึ้น สะท้อนผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของทรัมป์
นักวิเคราะห์มองว่า ประเด็นการตรวจสอบพาวเวลล์เกี่ยวกับการปรับปรุงอาคาร FED เป็นข้ออ้างของทรัมป์มากกว่า แท้จริงแล้วเค้าต้องการให้ พาวเวลล์ ลดดอกเบี้ยลงมาอีกก่อนที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะสะเทือนจากนโยบายสงครามการค้าของทรัมป์เอง
สำหรับตัวตัวอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟดที่กำลังถูกปรับปรุง ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โครงการนี้มีมูลค่าประมาณ 2.5 พันล้านดอลลาร์ และถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930 โดยเฟดให้เหตุผลว่า การรวมสำนักงานและระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกันจะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แต่ตั้งแต่ได้รับอนุมัติโครงการในปี 2017 งบประมาณก็พุ่งสูงขึ้นจากเดิม 1.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 2.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญคือ การปรับแบบก่อสร้างตามข้อเสนอของหน่วยงานตรวจสอบ และความคลาดเคลื่อนระหว่างงบประมาณเดิมกับต้นทุนจริง
ที่มา : CNBC , AFP