What’s your perfect relationship look like? หน้าตาของความรักความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบของคุณเป็นแบบไหน? ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยความเร็วของอินเตอร์เน็ต การจะรู้จักใครสักคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก ‘ถ้าไม่ชอบก็ปัดซ้าย ถ้าชอบรู้สึกว่าใช่ก็ปัดขวา สนใจมากๆก็กดส่งดอกไม้ให้ไปเลย’ หากใครเก็ทประโยคนี้ นั้นหมายความว่าคุณรู้จักหรือเคยเล่นแอปหาคู่
แต่เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้ Dating App ได้รับความนิยมลดลงจากผู้ใช้งานโดยเฉพาะจากคนรุ่นใหม่ วัย Gen Z แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นกลุ่มคนที่โตมากับเทคโนโลยี และเปิดรับความทันสมัยใหม่ๆแต่ทำไมพวกเขาเลือกที่เล่นแอปหาคู่ลดลง ?
และในวันที่โลกของเราขับเคลื่อนด้วย ‘โซเชียลมีเดีย’ ชีวิตของเราเหมือนโดนฟิลเตอร์ใส่ ตีกรอบทั้งรูปร่างหน้าตาตาม beauty standard ความสำเร็จในหน้าที่การงาน ชื่อเสียง หน้าตาของวงตระกูล จนบางครั้งเรากลับตั้งคำถามการเลือกคู่จาก ‘ความเหมาะสม’ หรือ ‘ความรัก’
การคลุมถุงชน หรือการจับคู่ผ่านแม่สื่อในอดีต ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยีในวันนี้ที่ได้เกิดธุรกิจที่ช่วยให้คนได้รักกัน หรือ บริษัทจัดหาคู่ นั่นเองรวมไปจนถึงการถือกำเนิดขึ้นของ Dating App ที่กว่าจะมีคู่ชีวิตเราฝากไว้ที่ AI และ อัลกอริทึม เพื่อตามหาสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรัก’
บทความนี้ SPOTLIGHT ชวนทุกคนมาตั้งคำถาม ความรักในโลกทุนนิยม แท้จริงแล้วเป็นแบบไหน ? นี่เป็นคำถามชวนคิดจากการได้ชมภาพยนต์เรื่อง Materialists และเราจะพาทุกคนมาสำรวจธุรกิจที่เกิดขึ้นจากความต้องการของคนที่ต้องการสมหวังในความรัก ที่พัฒนามาตั้งแต่แม่สื่อ บริษัทจัดหาคู่ รวมไปถึงแอปหาคู่ ทำไมเด็กรุ่นใหม่ถึงไม่นิยม Dating App ? โดยเนื้อหาจะมีการสปอยบางช่วงบางตอนของภาพยนต์
ภาพยนต์ Materialists เป็นเรื่องราวของ ลูซี่ (ดาโกต้า จอห์นสัน) นักจับคู่มือหนึ่งของบริษัทจัดหาคู่ที่นิวยอร์ก ความเป็นมือหนึ่งของเธอเกิดขึ้นจากความเป๊ะ ในการคำนวณความเหมาะสมจาก 2 คน เช่น รายได้ อาชีพ หน้าตา สิ่งที่ชอบ ผิวพรรณ ไปจนถึงความสูง
แต่เรื่องราวความสนุกและความลุ้น เกิดขึ้นเมื่อโค้ชได้ลงสนามเอง ในวันที่ลูซี่ได้เจอและต้องเลือกความรักระหว่าง หนุ่มหล่อ perfect (เปโดร ปาสคาล) ที่ในวงการหาคู่เรียกว่าเป็ ยูนิคอร์น ฐานะระดับเศรษฐี กับ จอห์น (คริส อีแวนส์) แฟนเก่าที่เลิกราไปแล้วเพราะความจน แต่พอเจอกันใหม่เขาก็ยังจนเหมือนเดิม สรุปแล้ว ลูซี่ จะเลือกใคร ?
ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากที่ผู้เขียนได้ดูภาพยนต์เรื่องนี่จบ แม้จะเป็นหนัง Romance Comedy ที่ค่อนข้างเบาสมอง แต่ทิ้งความรู้สึกให้กับผู้ชมอย่างหน่วงๆแบบบอกไม่ถูก
ยิ่งในวันที่คุณผ่านความเจ็บปวดกับความรักมา แน่นอนว่าคุณจะต้องเริ่มตั้งคำถามว่าสุดท้ายแล้วความรักคืออะไร? ชีวิตคู่คืออะไร? แล้วยิ่งถ้าต้องเลือกระหว่างคนที่ดีพร้อมเหมาะสม แต่เราไม่ได้รักเขาเท่าอีกคนที่ไม่ได้มีอะไรดีเลย แบบไหนคือสิ่งที่ดีที่สุด?
เหมือนกับเพลงรักแท้...ยังไง ของคุณน้ำชาที่ร้องว่า “รักแท้ รักที่อะไร ตับไตไส้พุง หรือรักกางเกงที่นุ่ง ว่าดูสวยดี รักที่นามสกุล รักยี่ห้อรถยนต์ รักเพราะว่าไม่จน มีสตางค์ให้จ่าย?”
เชื่อว่าทุกคนร้อยทั้งร้อยก็อยากประสบความสำเร็จในความรัก lucky in game lucky in love ไม่อย่างงั้นก็คงไม่มีเทรนด์ ‘I told พระแม่ลักษมี about you’ การขอพรความรักกับพระแม่ลักษมีเทพที่ขึ้นชื่อเรื่องความรัก หรือว่าจะเป็นการใส่กำไลสายมูที่ให้โชคเรื่องความรักที่แม้ราคาจะแพงเท่าไร แต่ศักดิ์สิทธิ์มากเพราะมูมาหลายที่ถึงได้ขายดิบขายดีอย่างทุกวันนี้ ธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะคนอยากมีความรัก มันไม่มีสูตรสำเร็จ แต่ทุกคนอยากได้ทางลัด (ที่ก็ไม่ได้การันตรีใดๆ แต่ดีต่อจิตใจ)
หนึ่งในธุรกิจที่มีอยู่ในภาพยนต์ Materialists นั่นก็คือบริษัทจัดหาคู่ หรือ Matchmaking Company ซึ่งธุรกิจนี้มีมานาน และได้รับความนิยมในหลากหลายประเทศ เช่น
ส่วนในประเทศไทย แม้จะไม่ได้มีบริษัทชื่องดังที่เรารู้จักกันดีในตลาด แต่จากเท่าที่ทีม SPOTLIGHT ได้หาข้อมูลพบว่า มีบริษัทที่มีออฟิศอยู่กลางเมืองและเคลมว่า บริษัทสามารถจับคู่มหาเศรษฐีได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเพศทางเลือก
ส่วนความน่าสนใจที่ทำให้ผู้เขียนตกใจคือ ใครที่จะเป็นลูกค้าของบริษัทนี้ต้องมีทรัพย์สินส่วนตัวหรือครอบครัวรวมอย่างน้อย 20 ล้านบาท (570,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนค่า member นั้นมี package ให้เลือกหลากหลายแบบเริ่มต้นตั้งแต่ระดับ Gold ( มีอายุ 6 เดือน) ราคาอยู่ที่ 590,000 บาท/ 6เดือน ไปจนถึงระดับสูงสุด คือระดับ The First มีราคาอยู่ที่ 5 ล้านบาท/ปี แต่สามารถมี benefit มากกว่า 15 อย่าง เช่น การทำ makeover ทั้งการแต่งตัว แต่งหน้า สอนบุคลิกภาพ, ได้รับการพูดคุยจากโค้ชแบบตัวต่อตัว และคอย monitor ความเคลื่อนไหวตลอดการจับคู่, คลาสสอนเรื่องมารยาทบนโต๊ะอาหาร หรือเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง (เพื่อจับคู่กับชาวต่างชาติ), บริการรถรับส่งทุกครั้งที่ออกเดท, คลาสสอนการเจอพ่อแม่คู่เดท ก่อนจะไปเจอตัวจริง และใช่ค่ะสิ่งนี่เกิดขึ้นที่เมืองไทยไม่ใช่ต่างประเทศ
แล้วทำไมการหาคู่ต้องเป็นเรื่องยาก? เมื่อเราทุกคนมีโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต เราจำเป็นต้องจ่ายราคาแพงขนาดหลักแสนถึงหลักล้านบาทเลยหรือ? นี่จึงเป็นที่มาและจุดเริ่มต้นของ Dating App หรือที่เรารู้จักกันว่าแอปหาคู่ free to download and free to use
จริงๆแล้วแอปหาคู่ที่คนไทยนิยมเล่นก็มีหลากหลายแอป เช่น Tinder, CMB (Coffee Meet Bagel) หรือ Bubble ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีคนใช้แอปหาคู่มากกว่า 441 ล้าน active users ในปี 2023 และ 364 ล้าน active users
จากข้อมูลของ Statista พบว่ามูลค่าตลาดแอปหาคู่โลก เติบโตขึ้นทุกปี
และหากเราดูเผินๆอาจจะคิดว่ากลุ่มคนที่เล่นแอปหาคู่น่าจะเป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ หรือ Gen Z แต่จากการสำรวจของ Statista พบว่า ในปี 2023 พบว่า ผู้ใช้แอปหาคู่ในสหรัฐอเมริกาที่มีอายุระหว่าง 30 ถึง 49 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นมิลเลนเนียล คิดเป็น 61% ของผู้ใช้แอปหาคู่ ในขณะที่ Gen Z มีเพียง 26% เท่านั้น
จากข้อมูลผู้ใช้งาน Hinge ในปี 2024 พบว่าผู้ใช้งาน Gen Z หลายคนระบุว่า กลัวการถูกปฎิเสธ ไม่พร้อมรับการเผชิญหน้าที่น่าอึดอึด รู้สึกเขินอาย
หากใครเล่นแอปหาคู่น่าจะต้องรู้กันดี ว่าการเริ่มต้นความสัมพันธ์ในการคุยกันสักคนมันต้องใช้พลังเยอะมาก ตั้งแต่การขยันส่งข้อความเพื่อตามจีบ เอาอกเอาใจสาระพัด แต่สุดท้ายพอไม่เวิร์คก็ต้องนับ 1 เริ่มต้นใหม่กับคนอื่น และส่วนใหญ่ผู้ใช้งานกว่า 80% เผชิญปัญหาการ ghost หรือพูดง่ายๆว่าไม่ตอบ ปล่อยให้งงว่าหายไปไหน และไม่บอกว่าทำไมถึงหาย ทำให้เราต้องเริ่มต้นใหม่จน GEN กว่า 60% รู้สึกเหนื่อยกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์
จากรายงานพบว่า คนเล่นแอปกว่า 7 ใน 10 เมื่อนัดเจอกันนอกแอป แต่ปรากฎว่าตัวจริงที่เจอไม่ตรงกับภาพโปรไฟล์
จากรายงานพบว่า ผู้หญิงที่มีอายุ18-49 ปี กว่า 66% ยอมรับว่าถูกคุกคามหลังใช้งานแอปหาคู่
จากสิ่งเหล่านี้ ทำให้เด็กรุ่นใหม่ มองไม่เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนจะเริ่มต้นจากการใช้แอปหาคู่ได้อย่างไร เลยหันมาจอย social activities อย่าง Run Club ซึ่งเราได้เห็นเทรนด์การใส่เสื้อสีดำเผื่อแสดงตัวว่าโสด ไปจอย Run Club และจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนเคยได้มีโอกาสไปจอย Run Club และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ก่อตั้ง Run Club ผลปรากฎว่าเรื่องจริง ที่คนโสดส่วนใหญ่ใส่ชุดสีดำเพื่อมาหาเพื่อนใหม่ๆจริงๆ และก็ได้เห็นคนที่ได้แฟนจากจาก Run Club จริงๆ
แม้ social activities อย่าง Run Club ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโมเดลที่หาแฟน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วคนโสดก็หากิจกรรมทำเพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองอยู่ดี
อ้างอิง : Time theguardian CNN reuters techcrunch murphymatchmaking kopidate globalloverepor boundless