Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
สหรัฐฯคว่ำบาตร19สแกมเมอร์กัมพูชา-เมียนมา ทำชาวมะกันสูญกว่า3แสนล้านบาท
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

สหรัฐฯคว่ำบาตร19สแกมเมอร์กัมพูชา-เมียนมา ทำชาวมะกันสูญกว่า3แสนล้านบาท

9 ก.ย. 68
13:15 น.
แชร์

สหรัฐอเมริกาลงดาบเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สั่งคว่ำบาตรทางการเงินและการทูตต่อบริษัทและบุคคลเกือบ 20 รายในเมียนมาและกัมพูชา หลังสืบพบว่ามีส่วนพัวพันกับอุตสาหกรรมหลอกลวงข้ามชาติ มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เติบโตบนซากชีวิตของเหยื่อค้ามนุษย์นับแสนคน ซึ่งถูกบังคับใช้แรงงานในสภาพไม่ต่างจากทาสยุคใหม่

เมื่อวันจันทร์ที่ 8 กันยายน ตามเวลาสหรัฐฯ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการลงโทษครั้งใหญ่ต่อเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมเป้าหมาย 9 รายในเมียนมา และอีก 10 รายในกัมพูชา ภายใต้กฎหมายแม็กนิตสกี (Magnitsky Act) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตร้ายแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน  

ภายใต้มาตรการดังกล่าว บุคคลและนิติบุคคลในรายชื่อคว่ำบาตรจะไม่สามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ และถูกตัดลจากระบบการเงินโลกอย่างเด็ดขาด ส่งสัญญาณชัดเจนว่าสหรัฐฯ ตั้งใจใช้แรงกดดันทั้งทางเศรษฐกิจและการทูต เพื่อหยุดยั้งเครือข่ายสแกมที่กำลังเฟื่องฟูและกัดกินความมั่นคงทั้งทางการเงินและการเมืองในภูมิภาค

จอห์น เค. เฮอร์ลีย์ รัฐมนตรีช่วยการคลังสหรัฐฯ ด้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงิน แถลงว่า “อุตสาหกรรมสแกมไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เพียงคุกคามความมั่นคงทางการเงินของชาวอเมริกัน แต่ยังทำให้ผู้คนนับพันต้องตกเป็นทาสสมัยใหม่” พร้อมเปิดเผยว่าเพียงปี 2567 ที่ผ่านมา ชาวอเมริกันต้องสูญเงินกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ให้กับปฏิบัติการหลอกลวงที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรรมในภูมิภาคนี้ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนปัญหาที่ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อผู้บริโภคสหรัฐฯ แต่ยังเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมการเงินใต้ดินระดับโลกที่กำลังขยายตัว

ในเมียนมา รายชื่อเป้าหมายของสหรัฐฯ ประกอบด้วยบุคคลและบริษัทที่ทำงานเชื่อมโยงกับกองทัพกะเหรี่ยง (Karen National Army) เช่น ทิน วิน, ซอ มิน มิน อู และบริษัทชิตลิน มยิ้ง ซึ่งถูกระบุว่ามีบทบาทในการคุ้มกันและจัดหาทรัพยากรให้กับเครือข่ายสแกมขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน เชอ จือเจียง นักลงทุนเชื้อสายจีน ผู้พัฒนาโครงการ “Yatai New City” ในเมืองชเวก๊กโก (Shwe Kokko) เมืองใหม่ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นศูนย์กลางกิจกรรมผิดกฎหมาย ก็ถูกขึ้นบัญชีดำพร้อมบริษัทในเครือที่ทำหน้าที่เป็นช่องทางฟอกเงิน

ส่วนในกัมพูชา มาตรการลงโทษครอบคลุมบุคคลสำคัญอย่าง ต่ง เหล่อเฉิง, ซวี ไอมิน, เฉิน อัล เหลิน และซู เหลียงเซิง รวมถึงบริษัทอีก 6 แห่งที่ถูกระบุว่ามีบทบาทในการปรับเปลี่ยนโรงแรม อาคารสำนักงาน และคาสิโน ให้กลายเป็นคอมพาวด์สแกมที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้กิจกรรมทางธุรกิจถูกกฎหมาย เครือข่ายเหล่านี้ไม่เพียงใช้แรงงานบังคับจากเหยื่อการค้ามนุษย์ แต่ยังสร้างรายได้จากการฟอกเงินข้ามชาติที่ซับซ้อน

‘เมียนมา-กัมพูชา’ เครือข่ายสแกมที่ฝังราก

มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ แม้จะเข้มงวด แต่สะท้อนเพียงส่วนเล็ก ๆ ของปัญหาที่หยั่งรากลึก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมียนมา กัมพูชา และลาว ได้กลายเป็นฐานหลักของอุตสาหกรรมสแกมข้ามชาติที่ดำเนินการโดยเครือข่ายอาชญากรรมทรงอิทธิพล และได้รับการเอื้อประโยชน์จากรัฐบาลท้องถิ่น โดยเฉพาะกองทัพเมียนมาซึ่งถูกกล่าวหาว่าหาผลประโยชน์จากการจัดเก็บส่วยและค่าคุ้มครอง

หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดคือ KK Park คอมเพล็กซ์ขนาดมหึมา 210 เฮกตาร์ ริมแม่น้ำเมย ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จากทุ่งโล่งเมื่อห้าปีก่อน บัดนี้พี้นที่เหล่านี้ถูกพัฒนาเป็นเมืองจำลองที่มีโรงพยาบาล ร้านอาหาร ธนาคาร และวิลล่าหรูเรียงรายภายในรั้วสูงแน่นหนา ภายนอกดูคล้ายวิทยาเขตเทคโนโลยีในซิลิคอนวัลเลย์ แต่แท้จริงแล้วคือแนวหน้าของอุตสาหกรรมสแกมระดับโลกที่มีการใช้แรงงานบังคับจำนวนมหาศาลในการปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์

รายงานของ Australian Strategic Policy Institute (ASPI) ระบุว่า ตั้งแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจในปี 2564 จำนวนศูนย์สแกมตามแนวชายแดนไทย-เมียนมาเพิ่มจาก 11 แห่งเป็น 27 แห่ง และยังขยายพื้นที่เฉลี่ยเดือนละกว่า 5.5 เฮกตาร์ ภาพถ่ายดาวเทียมและโดรนล่าสุดเผยให้เห็นการก่อสร้างต่อเนื่องใน Tai Chang complex รวมถึงท่าเรือลอยน้ำที่สร้างขึ้นใหม่เพื่อขนส่งเสบียงจากฝั่งไทย อีกทั้งยังพบการติดตั้งเสาสัญญาณดาวเทียมที่เชื่อว่าเป็นเครือข่าย Starlink เพื่อรักษาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง แม้ทางการไทยจะตัดไฟฟ้า ก๊าซ และอินเทอร์เน็ตข้ามแดนเมื่อต้นปี การปรับตัวเช่นนี้สะท้อนศักยภาพและความยืดหยุ่นของเครือข่ายสแกมที่มีเงินทุนมหาศาลหนุนหลัง

ด้านคอมพาวด์อื่น ๆ อย่าง Dongmei Park ถูกเสริมแนวรั้วสูง ป้อมยาม และหอเฝ้าระวังรอบพื้นที่ เพื่อควบคุมแรงงานและป้องกันการหลบหนี ขณะที่ผู้บริหารอาชญากรรมอาศัยอยู่ในบ้านหรูซึ่งมักถูกใช้เป็นฉากหลังในการวิดีโอคอลกับเหยื่อ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของ “นักลงทุนมั่งคั่ง” และสร้างความน่าเชื่อถือ กระบวนการทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมสแกมในภูมิภาคไม่ได้เป็นเพียงอาชญากรรมไซเบอร์ธรรมดา แต่เป็นระบบเศรษฐกิจใต้ดินที่ฝังรากลึก เชื่อมโยงกับการเมืองท้องถิ่น เครือข่ายอาวุธ และการค้ามนุษย์ในระดับอุตสาหกรรม

กลโกง “Pig-Butchering” และความรุนแรงในค่ายสแกม

Al Jazeera รายงานว่า หัวใจของอุตสาหกรรมนี้คือกลโกง “เชือดหมู” (pig-butchering) โดยมิจฉาชีพจะสร้างความสัมพันธ์เสมือนจริงกับเหยื่อออนไลน์ ผ่านแชทหรือโซเชียล ก่อนโน้มน้าวให้โอนเงินเข้าลงทุนในโครงการที่ไม่มีอยู่จริง ผลลัพธ์คือเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่เครือข่ายเหล่านี้ทุกปี

นอกจากนี้ เบื้องหลังผู้ที่ส่งข้อความหลอกเหยื่อจำนวนมากกลับไม่ใช่อาชญากร แต่คือเหยื่อค้ามนุษย์เอง ตัวอย่างเช่น มาเตโอ (Mateo) ชาวฟิลิปปินส์ที่คิดว่าได้งานบริการลูกค้าในไทย แต่กลับถูกลักลอบพาข้ามพรมแดนไป KK Park หนังสือเดินทางถูกยึด เขาถูกบังคับให้ส่งข้อความหาชายอเมริกันวันละหลายร้อยคน หากไม่ทำตามเป้า เขาจะถูกลงโทษด้วยเครื่องช็อตไฟฟ้าหรือถูกบังคับให้ทำงานหนักกลางแดด

ผู้ที่รอดออกมาเล่าว่าภายในคอมพาวด์เต็มไปด้วยความรุนแรง บางเหยื่อถูกทรมานจนพิการ สูญเสียอวัยวะหรือดวงตา องค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่ามี เหยื่อกว่า 150,000 คนติดอยู่ในคอมพาวด์ในกัมพูชา และอีกราว 100,000 คนในเมียนมา แม้เมื่อต้นปีจะมีการช่วยเหลือราว 7,000 คน ผ่านความร่วมมือระหว่างไทย จีน และประเทศต้นทางอื่น ๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่านั่นเป็นเพียง “หยดน้ำในมหาสมุทร”

สำหรับกองทัพเมียนมา ซึ่งกำลังสูญเสียพื้นที่ควบคุมหลังรัฐประหาร เครือข่ายสแกมเหล่านี้ได้กลายเป็น “ความจำเป็นในการอยู่รอด” ในเศรษฐกิจสงคราม นักวิเคราะห์จาก ASPI มองว่ากองทัพไม่สามารถจัดการคอมพาวด์เหล่านี้ได้โดยไม่กระทบความสัมพันธ์กับกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นที่ได้ประโยชน์จากธุรกิจเหล่านี้

เหยื่อรายหนึ่งที่เพิ่งรอดออกมาเล่าว่า สำหรับหัวหน้าแก๊ง “เงินสำคัญกว่าชีวิตคน พวกเขาไม่สนว่าจะเหยียบใคร ตราบใดที่ได้เงิน” ขณะที่เหยื่ออีกคนบรรยายว่าภายในคอมพาวด์นั้น “เหมือนรวมเอาความชั่วร้ายทั้งหมดของโลกไว้ในที่เดียว”


อ้างอิง: Al Jazeera, The Guardian

แชร์
สหรัฐฯคว่ำบาตร19สแกมเมอร์กัมพูชา-เมียนมา ทำชาวมะกันสูญกว่า3แสนล้านบาท