Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทรัมป์ฟ้องบีบีซีปมตัดต่อคลิปปลุกม็อบ เรียกค่าชดเชย 5,000 ล้านเหรียญฯ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทรัมป์ฟ้องบีบีซีปมตัดต่อคลิปปลุกม็อบ เรียกค่าชดเชย 5,000 ล้านเหรียญฯ

16 ธ.ค. 68
12:59 น.
แชร์

ทรัมป์ฟ้อง 5,000 ล้าน ข้อหาหมิ่นประมาท

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ยื่นฟ้องสถานีโทรทัศน์ BBC เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ธันวาคม) ในข้อหาหมิ่นประมาท จากคลิปคำปราศรัยที่ถูกตัดต่อ ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าเขาได้สั่งการให้ผู้สนับสนุนบุกเข้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยเรียกร้องค่าเสียหาย 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นการเปิดศึกระหว่างผู้นำสหรัฐฯ และสื่อยักษ์ใหญ่จากสหราชอาณาจักร 

ทรัมป์กล่าวหาองค์กรกระจายเสียงสาธารณะของอังกฤษว่าหมิ่นประมาทเขา โดยการนำส่วนต่าง ๆ ของคำปราศรัยเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 มาตัดต่อรวมกัน ซึ่งรวมถึงส่วนหนึ่งที่เขาสั่งให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนไปยังอาคารรัฐสภา และอีกส่วนที่เขาพูดว่า "สู้สุดชีวิต" (fight like hell) แต่ตัดส่วนที่เขาร้องขอให้มีการประท้วงอย่างสันติออกไป

BBC ได้กล่าวขอโทษต่อทรัมป์ ยอมรับความผิดพลาดในการตัดสิน และยอมรับว่า การตัดต่อดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเขาเรียกร้องให้มีการใช้ความรุนแรงโดยตรง อย่างไรก็ตาม ทาง BBC กล่าวว่า ไม่มีมูลเหตุทางกฎหมายสำหรับการฟ้องร้อง ทั้งนี้ BBC ได้รับเงินทุนจากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่บังคับเก็บจากผู้ชมโทรทัศน์ทุกคน ซึ่งทนายความในสหราชอาณาจักรกล่าวว่า การจ่ายเงินใด ๆ ให้กับทรัมป์อาจมีความยุ่งยากทางกฎหมายและการเมือง

ผู้บริหารระดับสูงบีบีซีลาออกเซ่นคดี

การยื่นฟ้องของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นับเป็นวิกฤตการณ์ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ 103 ปีของ BBC ก่อนหน้านี้ที่ทรัมป์และทีมทนายของเขาได้แจ้งเตือนล่วงหน้าว่าจะฟ้องร้อง BBC ก็ได้ออกมายื่นจดหมายขอโทษอย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่นำคลิปที่ตัดต่อและเนื้อหาจากรายการที่เป็นประเด็นมาออกอากาศซ้ำในแพลตฟอร์มใด ๆ ของตน

ยิ่งไปกว่านั้น ข้อพิพาทเกี่ยวกับคลิปนี้ ซึ่งนำเสนอในรายการสารคดี "Panorama" ของ BBC ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ไม่นาน ก่อให้เกิดวิกฤตความสัมพันธ์สาธารณะสำหรับสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ จนนำไปสู่การลาออกของผู้บริหารระดับสูงที่สุด 2 คน ได้แก่ ทิม เดวี ผู้อำนวยการใหญ่ของ BBC และเดโบราห์ เทอร์เนส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายข่าวของ BBC เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ

ก่อนหน้านี้ ทนายความของทรัมป์กล่าวว่า BBC ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและการเงินของทรัมป์อย่างมหาศาล ทำให้สารคดีนี้ตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยที่ปรึกษาด้านมาตรฐานภายนอก อีกทั้งยังเกิดการรั่วไหลของบันทึกภายใน BBC  ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับการตัดต่อสารคดีดังกล่าว นำไปสู่การสอบสวนในวงกว้างขึ้นเกี่ยวกับอคติทางการเมืองในองค์กรกระจายเสียงที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสาธารณะ อย่างไรก็ตาม สารคดีนี้ไม่ได้ออกอากาศในสหรัฐอเมริกา

การดำเนินคดีในสหรัฐฯ และมาตรฐานทางกฎหมาย

กฎหมายหมิ่นประมาทในสหราชอาณาจักร มีข้อจำกัดด้านเวลา โดยกำหนดให้ต้องยื่นฟ้องภายในหนึ่งปีนับจากการเผยแพร่ ซึ่งกรอบเวลาสำหรับเนื้อหาที่เผยแพร่ในรายการ "Panorama" ได้สิ้นสุดลงแล้ว ทีมทนายของทรัมป์จึงเลือกใช้กลยุทธ์ในการฟ้องศาลสหรัฐฯ แทน

แต่การฟ้องร้องในสหรัฐฯ ก็มาพร้อมกับความท้าทาย นั่นคือการที่ทรัมป์จะต้องเอาชนะ การคุ้มครองทางกฎหมายของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ว่าด้วยเสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ผู้ถูกฟ้องเป็นสื่อมวลชน ทรัมป์จึงมีภาระในการพิสูจน์ที่สูงมาก เขาไม่เพียงแต่ต้องแสดงให้เห็นว่าการตัดต่อวิดีโอนั้นเป็นเท็จและเป็นการหมิ่นประมาท แต่ยังต้องพิสูจน์ด้วยว่า BBC มีเจตนาร้าย จงใจทำให้ผู้ชมเข้าใจผิด หรือแสดงความประมาทเลินเล่อ

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายกล่าวว่า BBC อาจโต้แย้งว่าสารคดีดังกล่าวเป็นความจริงในสาระสำคัญ และการตัดสินใจในการตัดต่อไม่ได้สร้างความเข้าใจผิด นอกจากนี้ ยังสามารถอ้างได้ว่ารายการนี้ไม่ได้ทำลายชื่อเสียงของทรัมป์

ทั้งนี้ BBC ไม่ใช่สื่อเจ้าเดียวที่มีปัญหากับทรัมป์ แตาสื่ออื่น ๆ ได้บรรลุข้อตกลงกับทรัมป์แล้ว รวมถึง CBS และ ABC เมื่อทรัมป์ฟ้องร้องพวกเขานับตั้งแต่ชัยชนะในการกลับมาในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน 2024 นอกจากนี้ ทรัมป์ได้ยื่นฟ้อง New York Times, Wall Street Journal และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในไอโอวา โดยทั้งสามฉบับได้ปฏิเสธการกระทำผิด


แชร์
ทรัมป์ฟ้องบีบีซีปมตัดต่อคลิปปลุกม็อบ เรียกค่าชดเชย 5,000 ล้านเหรียญฯ