ทำไมช่วงนี้ฝนตกหนัก แต่ปลายปีอาจหนักกว่านี้ถ้าเกิดปรากฏการณ์ “ลานีญา”
ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเผชิญฝนตกแทบทุกวัน เช่นเดียวกันกับหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่มีฝนตกหนักมาก รวมกับน้ำทะเลที่หนุนสูง ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทำไมฝนจึงตกหนัก
ในช่วงเดือนพฤษภาคม-ตุลาคมของทุกปี ไทยเผชิญกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากมหาสมุทรอินเดีย ที่มีความกดอากาศสูง มรสุมนี้นำความชื้นก่อนใหญ่มาสู่ประเทศไทย ทำให้มีเมฆมากและฝนตกชุก อาทิตย์ที่ผ่านมา ลมมรสุมดังกล่าวพัดผ่านทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยด้วยกำลังปานกลาง
นอกจากนี้ ฝนตกหนักยังเป็นผลมาจากร่องมรสุมพัดผ่านร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
อาทิตย์ถัดไปอากาศจะเป็นอย่างไร
กรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะเผชิญฝนตกหนักถึงหนักมาก และให้ระวังฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะในพื้นที่เชิงเขา ระหว่างวันที่ 8-14 กันยายน 2568
- กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง 60-80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
- ภาคเหนือ ฝนฝ้าคะนอง 40-60% ของพื้นที่ ฝนตกหนักบางแห่ง
- ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ฝนฟ้าคะนอง 60-70% ของพื้นที่ ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
- ภาคตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 60-80% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
นอกจากผลพวงของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และร่องมรสุมตอนนี้ ช่วงปลายปีฝนตกหนักในประเทศไทยประเทศไทยอาจเป็นผลจากส่วนอื่นด้วย
บอกลาสภาพอากาศเป็นกลาง เตรียมรับลานีญา
ข้อมูลจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมชี้ว่า ไทยเผชิญผลของปรากฎการณ์ลานีญาในช่วงต้นปี ลักษณะคืออุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลางและตะวันออกบริเวณเส้นศูนย์สูตรลดต่ำ มักทำให้มีฝนตกหนักในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงไทย
และตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา โลกอยู่ภายใต้สภาวะ ENSO-neutral หรือปรากฎการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำบริเวณเส้นศูนย์สูตรมหาสมุทรแปซิฟิกไม่เข้าเกณฑ์ทั้งปรากฎการณ์เอลนีโญ หรือลานีญา
ผลกระทบของ ENSO-neutral คือ ทำให้คลื่นความร้อนมีแนวโน้มรุนแรง บ่อยครั้ง และยาวนานขึ้น ทำให้ปริมาณฝนตกในแต่ละครั้งเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้ปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปกติ ทำให้เกิดภัยแล้งรุนแรงและยาวนาน และยังอาจทำให้เกิดรูปแบสภาพอากาศใหม่ หรือเพิ่มความรุนแรงให้สภาพอากาศสุดขั้ว
อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายปี มีแนวโน้มว่าโลกจะเผชิญลานีญาอีกครั้ง กรมอุตุนิยมวิทยาโลกพยากรณ์ไว้เมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2568 ว่า ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป สภาพความเป็นกลางจะคลายตัวลง เปิดทางให้ลานีญากลับมา โดยศูนย์การพยากรณ์ตามฤดูกาลของกรมอุตุนิยมวิทยาโลกเผยว่า มีโอกาสมากถึง 55% ที่อุณหภูมิผิวน้ำจะลดต่ำลง ในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้อยู่ 45% ว่า สภาวะความเป็นกลางจะดำเนินต่อไปในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน และโอกาสเกิดลานีญามากขึ้นตามลำดับ
กรมอุตุนิยมวิทยาชี้ถึงผลพวงของปรากฎการณ์ลานีญา พบว่า จากข้อมูลปริมาณฝนและอุณหภูมิรายเดือน ปีที่เกิดปรากฎการณ์ลานีญาจะมีน้ำฝนมากกว่าปกติ เห็นชัดในฤดูร้อนและฤดูฝน และที่ส่งผลมากกว่าคือ อุณหภูมิ ทุกพื้นที่ของประเทศไทยจะมีอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศประเทศไทยระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายนว่า จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าค่าปกติร้อยละ 5 สำหรับทั้งประเทศ และกรุงเทพฯ อาจมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติร้อยละ 10
