ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.56 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 32.60 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐ
ดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะยุติการเจรจาการค้ากับแคนาดาเพื่อตอบโต้กรณีที่แคนาดาเก็บภาษีบริการดิจิทัลจากบริษัทเทคโนโลยี และปธน.ทรัมป์อาจพิจารณาทิ้งระเบิดอิหร่านอีกครั้ง โดยวิจารณ์อย่างรุนแรงต่ออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน พร้อมยกเลิกแผนที่จะผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และกล่าวว่าอาจพิจารณาทิ้งระเบิดอิหร่านอีกครั้ง หากอิหร่านเดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถึงระดับที่น่ากังวล
สัปดาห์ที่แล้ว ค่าเงินบาทปรับตัวค่อนข้างผันผวนแต่ในช่วงท้ายของสัปดาห์ เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง จากการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก แรงขายสุทธิทั้งตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทย จากความกังวลปัจจัยการเมืองในประเทศ สำสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามปัจจัยดังกล่าวรวมถึงรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนพ.ค ของประเทศด้วย
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตและบริการ ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือน มิ.ย. ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน/อัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน พ.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน มิ.ย. ของจีน อังกฤษ และยูโรโซน ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. ของยูโรโซน ประเด็นการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า รวมถึงสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ระหว่างวันที่ 23-27 มิ.ย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 3,441 ล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตรไทย 2,513 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.48/ขาย 32.78
* แนะนำ ซื้อ 38.05 /ขาย 38.45
* แนะนำ ซื้อ 0.2235 / ขาย 0.2275
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.52 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.47 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จากความกังวลของนักลงทุนเรื่องการแทรกแซง Fed อาจส่งผล Fed อาจสูญเสียความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายการเงิน และความน่าเชื่อถือในการดำเนินนโยบาย อย่างไรก็ตามประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ยังยืนยันไม่ลดดอกเบี้ย จนกว่าผลกระทบเงินเฟ้อจากภาษีศุลกากรจะชัดเจน ทั้งนี้ นักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม โดยมีโอกาสเพิ่มจาก 12% เป็น 25%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐ (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ สถานการทางตะวันออกกลาง รวมถึงการเมืองในประเทศ ซึ่งยังคงมีความเสี่ยง
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซืัอสุทธิหุ้นไทย 765 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 2,140 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.35 /ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.90/ขาย 38.20
* แนะนำ ซื้อ 0.2240 / ขาย 0.2280
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.50 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักหลังจากนักลงทุนรับถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่กล่าวต่อสภาคองเกรส ขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศว่าอิหร่านและอิสราเอลได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว และสหรัฐฯ มีแผนที่จะเจรจากับอิหร่านในสัปดาห์หน้า และทั้งสองประเทศอาจมีการลงนามในข้อตกลง
ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร นายพาวเวลส่งสัญญาณว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาปรับนโยบาย
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี ซึ่งเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดไว้ จึงไม่ได้ส่งผลต่อตลาดมากนัก
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 1/2568 พุ่งขึ้น 44.3% หรือ 1.382 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 4.502 แสนล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่คาดที่ระดับ 4.433 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.120 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4/2567 ซึ่งมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจพากันเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ มีรายงานยอดขายบ้านใหม่ลดลงสู่ระดับ 623,000 ยูนิตในเดือนพ.ค. โดยลดลง 13.7% เมื่อเทียบรายเดือน และต่ำกว่าที่คาดที่ระดับ 694,000 ยูนิต จากระดับ 722,000 ยูนิตในเดือน เม.ย.
จับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
สถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซืัอสุทธิหุ้นไทย 2651 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 2,493 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.40/ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.80/ขาย 38.20
* แนะนำ ซื้อ 0.2230 / ขาย 0.2280
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.64 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.66 บาท/ดอลลาร์
เมื่อวานนี้เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางเดียวกับ สกุลเงินอื่นในภูมิภาค เนื่องจากตลาดเริ่มคลายความกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐวานนี้ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 93.0 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 98.4 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.5 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี
ทางด้านเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ โดยเขาส่งสัญญาณว่าเฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาการปรับนโยบายของเฟด
ทั้งนี้ พาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาของสหรัฐฯ ในวันนี้ (25 มิ.ย.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
ในวันนี้ ตลาดรอติดตามผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย โดยคาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75%
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซืัอสุทธิหุ้นไทย 240 ล้านบาท และซืัอสุทธิพันธบัตรไทย 41 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50/ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.60 /ขาย 38.10
* แนะนำ ซื้อ 0.2230 / ขาย 0.2280
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.80 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 33.03 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าหลังจากที่นางมิเชล โบว์แมน สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือน ก.ค. หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดของสถานการณ์ในตะวันออกกลางเล็กน้อย
โดยนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ ทั้งนี้ ประธานเฟดจะมีการกล่าวแถลงรอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในวันที่ 24-25 มิ.ย.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงราคาบ้านเดือน เม.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือน พ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ค.
ส่วนปัจจัยในประเทศ คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1.75% ในการประชุมวันที่ 25 มิ.ย. แต่อาจจะเน้นการสื่อสารสำหรับการลดดอกเบี้ยในการประชุมในระยะข้างหน้า ขณะที่ปัจจัยการเมือง ยังคงเพิ่มความเสี่ยงด้านขาลงต่อเศรษฐกิจ
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,318 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 913 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.65 / ขาย 32.95
* แนะนำ ซื้อ 37.60 / ขาย 38.10
* แนะนำ ซื้อ 0.2220 / ขาย 0.2260
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.88 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.75 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่าเกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาจนถึงเปิดตลาดในเช้าวันนี้ จากปัจจัยลบเพิ่มเติมในประเด็นทางการเมืองภายในประเทศ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เริ่มส่งสัญญาณแข็งค่าขึ้นจากความกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิหร่านและอิสราเอล และสัญญาณจากประธานFED ที่สะท้อนว่า FED อยู่ระหว่างรอประเมินผลกระทบจากภาษีและยังไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย แม้ผลการประชุมรอบนี้จะมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50% และ dot plot สะท้อนโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ตามเดิม โดยตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อและ dot plot ล่าสุด บ่งชี้ว่า FED มีแนวโน้มลดจำนวนรอบของการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าลง
คาดว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 25 มิ.ย.นี้ กนง. มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% หลังปรับลดมาแล้ว 0.50% ตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเชื่อว่า กนง.จะรอประเมินผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ รวมทั้งติดตามสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ซึ่งจะมีผลต่อราคาน้ำมันและเงินเฟ้อของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 121 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 3,756 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.75
* แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 37.90
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.77 บาท/ดอลลาร์
(*เมื่อวานนี้ตลาดเงินของสหรัฐฯ ปิดทำการ เนื่องในวันจูนทีนธ์ (วันรำลึกถึงการสิ้นสุดของการค้าทาสในอเมริกา)
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค อยู่ในกรอบ 32.60-32.95 จากความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน สถานการณ์ในตะวันออกกลาง ล่าสุดสหรัฐกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการโจมตีอิหร่านที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ได้แจ้งกับคณะที่ปรึกษาว่า เขาได้อนุมัติแผนการโจมตีอิหร่านแล้ว แต่ยังไม่ได้อนุมัติจะให้เริ่มปฏิบัติการ เพื่อรอดูว่าอิหร่านจะยอมละทิ้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่
เมื่อวานนี้มีธนาคารกลางหลายแห่งประกาศคงอัตราดอกเบี้ย อย่างเช่น ธนาคารกลางไต้หวันที่ระดับ 2% ธนาคารกลางตุรกีที่ ระดับ 46% ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-3 ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.25% ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงสู่ระดับต่ำที่ 0% ประเทศอื่นๆ กำลังต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ แต่สวิตเซอร์แลนด์กลับเผชิญกับ "ภาวะเงินฝืด"
ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามทิศทาง Fund Flow ปัจจัยการเมืองในประเทศ และสถานการณ์ในตะวันออกกลาง
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 693.28 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 2108.03 ล้านบาท
*แนะนำทยอยซื้อที่ 32.60/ขาย 32.95
* แนะนำซื้อ37.40 /ขาย 37.90
* แนะนำซื้อ0.2230/ ขาย 0.2275
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.72 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศคงดอกเบี้ย ท่ามกลางความกังวลเรื่อง “stagflation” หรือภาวะเศรษฐกิจชะลอแต่เงินเฟ้อสูง โดยคาดว่า GDP ปีนี้จะโตเพียง 1.4% และเงินเฟ้อจะสูงกว่าคาดในปี 2025–2027 ขณะที่อัตราว่างงานมีแนวโน้มขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่งอยู่
นักลงทุนยังคงต้องติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง สเถียรภาพการเมืองในประเทศ และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสำคัญ
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,139 ล้านบาท และซื้อสุทธิพันธบัตรไทย 829 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50/ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.30 /ขาย 37.70
* แนะนำ ซื้อ 0.2230 / ขาย 0.2270
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.55 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุม วันที่ 17-18 มิ.ย.นี้ และรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด รวมทั้งรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ในการประชุมสองวันที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. ลงกว่าที่คาดว่าจะทรงตัว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. และตัวเลขยอดค้าปลีกร่วงลง 0.9% ในเดือนพ.ค. ลดลงกว่าคาดว่าลดลงเพียง 0.6% หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนเม.ย.โดยมีสาเหตุจากมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 607 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 3,865 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.50/ขาย 33.00
* แนะนำ ซื้อ 37.20 /ขาย 37.70
* แนะนำ ซื้อ 0.2220 / ขาย 0.2270
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.48 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่ตลาดติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเป็นหลัก เนื่องจากจะส่งผลต่อราคาทองคำ นอกจากนี้ตลาดรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 17 - 18 มิ.ย. นี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 3,530.45 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 680 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60
* แนะนำ ซื้อ 37.20 /ขาย 37.70
* แนะนำ ซื้อ 0.2220 / ขาย 0.2270
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.44 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังเกิดความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรง ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
การเปิดเผยรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ชะลอตัว และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ตลอดจนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงนั้น ได้ช่วยลดความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคาจากภาษีนำเข้า โดยคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย นี้ และคาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือน ก.ย. และจะปรับลด 2 ครั้งในปีนี้
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (17-18 มิ.ย.) ประเด็นเกี่ยวกับนโยบายภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับคู่ค้า และสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือน พ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (16-17 มิ.ย.) ธนาคารกลางอังกฤษ (19 มิ.ย.) และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน (20 มิ.ย.)
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 329 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 245ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.30
* แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 37.20
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2230
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.38 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.50 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น หลุดแนวรับ 32.50 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งค่าตามทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค จากตัวเลขเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นเดียวกันกับเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศในวันทำการก่อนหน้า อีกทั้งยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า โดย US Dollar Index ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ลงมาต่ำกว่า 98 แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหกสัปดาห์
การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับผลกระทบจากความคาดหวังเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้โดยคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนก.ย. และจะปรับลด 2 ครั้งในปีนี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย.
เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,639 ล้านบาท แต่ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 731 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.30
* แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 37.70
* แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2250
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.56 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.3% ในเดือน เม.ย. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือน พ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.2% ในเดือนเม.ย.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือน พ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.9% จากระดับ 2.8% ในเดือน เม.ย. และเมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือน พ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.2% ในเดือน เม.ย.
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,928 ล้านบาท และ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 234 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.50/ ขาย 32.75
* แนะนำ ซื้อ 37.20 / ขาย 37.70
* แนะนำ ซื้อ 0.2250/ ขาย 0.2300
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต ( ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.63 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาด เมื่อวานนี้ที่ระดับ 32.67 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเทียบกับสกุลเงินหลัก ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์นั้นปรับตัวลง มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ โดยอาจจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน และธันวาคม และรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยจะมีการปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,830 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,400 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.50 / ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.10 / ขาย 37.60
* แนะนำ ซื้อ 0.2240 / ขาย 0.2280
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.68 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาด เมื่อวานนี้ที่ระดับ 32.67 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามการปรับตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งปรับตัวไร้ทิศทางเช่นกัน
ทั้งนี้ตลาดรอติดตามความคืบหน้า การเจรจามาตรการภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ-จีน โดยเป็นการเจรจาระหว่าง "สก็อตต์ เบสเซนต์" รมว.คลังสหรัฐ ฯ กับ "เหอ หลี่เฟิง" รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า การเจรจาการค้าน่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจโลกให้แข็งแกร่ง และจะช่วยให้อุปสงค์สินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งรวมถึงน้ำมัน ปรับตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อย
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มเข้าสู่ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Blackout Period) ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในสัปดาห์หน้า
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. และ ธ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งจะประกาศในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขณะที่มีการคาดกันว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือน พ.ค.
เมื่อวานนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,133 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 203 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.50 / ขาย 32.80
* แนะนำ ซื้อ 37.05 / ขาย 37.55
* แนะนำ ซื้อ 0.2240 / ขาย 0.2280
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.75 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวานศุกร์ที่ระดับ 32.60 บาท/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้มีความหวังน้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้
ล่าสุดกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าตำแหน่งงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ค. สูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 130,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ 4.2% ตามคาด
ข้อมูลที่ออกมาตามคาดหรือดีกว่าคาดแบบนี้ เป็นผลลบต่อราคาทองคำ เพราะบ่งชี้ว่า เฟดอาจจะยังไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะรอจนถึงเดือน ก.ย.ก่อนถึงจะลดดอกเบี้ยลง และอาจปรับลดอีกครั้งในเดือน ธ.ค.
โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสหรัฐ เปิดเจรจาการค้ารอบใหม่กับจีนที่ลอนดอนในวันจันทร์ที่ 9 มิ.ย. นี้ โดยระบุว่าผู้นำจีนเห็นด้วยที่จะกลับมาส่งออกแร่หายากเข้าสู่สหรัฐฯ อีกครั้ง
สัปดาห์นี้ มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้า
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน พ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน มิ.ย.
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ระหว่างวันที่ 4-6 มิ.ย. นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,377 ล้านบาท และมีสถานะ Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 185 ล้านบาท
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.60/ขาย 32.90
* แนะนำ ซื้อ 37.00 /ขาย 37.50
* แนะนำ ซื้อ 0.2250 / ขาย 0.2300
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.60 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขานรับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อคืนนี้ ซึ่งการสนทนาที่เป็นไปด้วยดี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อันจะทำให้ได้ข้อสรุปที่ดีสำหรับทั้งสองประเทศ
ขณะเดียวกันนักลงทุนพากันเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังคลายความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงหลุดระดับ 3,390 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามความอ่อนแอของตลาดแรงงานสหรัฐฯ จะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีการเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 8,000 ราย สู่ระดับ 247,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 130,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 8 นับตั้งแต่ ECB เริ่มวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.2567 ซึ่งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนชะลอตัวสู่ระดับ 1.9% ในเดือน พ.ค.
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 3,060 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 116 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.45 / ขาย 32.75
* แนะนำ ซื้อ 37.05 / ขาย 37.55
* แนะนำ ซื้อ 0.2250 / ขาย 0.2290
ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.60 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากราคาปิดตลาดเมื่อวานที่ระดับ 32.70 บาท/ดอลลาร์ ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้น โดยยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideways บนความผันผวนสูงในลักษณะ Two-Way Volatility โดยยังคงปรับตัวขึ้นกับทิศทางของราคาทองคำเป็นหลัก ส่วนแรงกดดันจากขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอลงโดยเฉพาะพันธบัตรซึ่งต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 32.50- 32.80
แนะนำ ทยอยซื้อที่ระดับ 32.50
EUR/THB 36.90-37.30
แนะนำ ทยอยขายที่ระดับ 37.30
JPY/THB 0.2260-0.2300
แนะนำ ทยอยซื้อ 0.2260
GBP/THB 44.00- 44.40
AUD/THB 21.00- 21.40
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.63 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันทำการก่อนหน้าที่ระดับ 32.85 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าท่ามกลางสัญญาณชัดเจนว่าสงครามการค้าที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก่อขึ้น เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนัก และบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังข้อมูลชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯ หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในเดือน พ.ค. ประกอบกับปัญหาความขัดแย้งด้านภาษีส่งผลให้ซัพพลายเออร์ใช้เวลาในการจัดส่งสินค้านานขึ้น ขณะนี้นักลงทุนกำลังจับตาดูตัวเลขคำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันนี้ ตามด้วยข้อมูลการจ้างงานในช่วงปลายสัปดาห์
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 7,166 ล้านบาท และ ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 11,093 ล้านบาท
*แนะนำ ซื้อ 32.50/ ขาย 32.75
* แนะนำ ซื้อ 36.80 / ขาย 37.30
* แนะนำ ซื้อ 0.2250/ ขาย 0.2300