Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เอาไงดี TESGX ซื้อหรือไม่ โอนย้ายจาก LTF ดีหรือเปล่า ?
โดย : ถนอม เกตุเอม

เอาไงดี TESGX ซื้อหรือไม่ โอนย้ายจาก LTF ดีหรือเปล่า ?

3 พ.ค. 68
22:09 น.
แชร์

สำหรับใครที่มีคำถามเกี่ยวกับกองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง TESGX ตอนนี้น่าจะมีคำถามกลับมาอีกครั้ง ว่าควรเอายังไงดี เพราะว่าเข้าสู่เดือนพฤษภาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงที่หลาย ๆ บลจ.กำลังออก กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ มาให้เลือกซื้อหน่วยลงทุน (ซื้อใหม่) และให้โอนย้ายจาก LTF (ที่คงอยู่) มาตัดสินใจกันอีกครั้งหนึ่ง

ก่อนที่จะไปตัดสินใจ เรามาเช็คเงื่อนไขลดหย่อนภาษีของกองทุนนี้กันอีกทีครับ โดยเงื่อนไขตามกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า กองทุนดังกล่าวต้องลงทุนในสินทรัพย์ดังต่อไปนี้ 

  • ลงทุนในหุ้นที่มีคุณสมบัติด้าน ESG ไม่น้อยกว่า 65% ของพอร์ตการลงทุน
  • 80% ของพอร์ตต้องเป็นสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน (รวมถึงตราสารหนี้)
  • ส่วนที่เหลือ 20% ของสินทรัพย์ในการลงทุน ก็สามารถลงทุนในสินทรัพย์อื่นได้

โดยเงื่อนไขในการลดหย่อนภาษีที่ว่า จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ซื้อใหม่ และ สับเปลี่ยน (โอนย้ายจาก LTF)

  • การซื้อใหม่ ลงทุนได้สูงสุด 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 300,000 บาท
  • การโอนย้ายจาก LTF ไป Thai ESG X สำหรับผู้ที่มี LTF อยู่แล้วและยังไม่ขายทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป และใช้มูลค่าสับเปลี่ยนการลงทุน ณ วันทำการสับเปลี่ยนเป็นจำนวนเงินในการลดหย่อนภาษี (ราคา ณ วันใช้สิทธิ์) ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท โดยแบ่งเป็นลดหย่อนสูงสุดจำนวน 300,000 บาทในปี 2568เฉลี่ยใน 4 ปีตั้งแต่ปี 2569-2572 สูงสุดปีละ 50,000 บาท

โดยทั้งสองกรณีนี้ มีช่วงเวลาใช้สิทธิ์เพื่อซื้อหรือโอนย้ายในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 และหลังจากซื้อหรือโอนย้ายแล้วต้องถือครอง 5 ปีเต็มนับจากวันที่ซื้อหรือใช้สิทธิ์

มาถึงคำถามที่หลายคนถามว่าควรทำอย่างไรดี ผมคิดว่าสำหรับคนที่ “ซื้อ” อาจจะตัดสินใจไม่ยากนัก เพราะคำถามที่เราใช้เพื่อตัวเองคงมีไม่มาก เช่น อัตราภาษี (เงินได้บุคคลธรรมดา) ที่เราเสียอยู่ คุ้มค่าไหม เราสนใจลงทุนในหุ้นไทย (กลุ่ม ESG) หรือเปล่า พอร์ตการลงทุน เป้าหมายการลงทุนเป็นอย่างไร และสภาพคล่องไหวหรือไม่ เนื่องจากต้องถือครองไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี  นั่นแปลว่า ถ้าใครมีคำตอบทั้งหมดนี้ได้แบบชัด ๆ ก็ตอบได้ทันทีว่าจะ “ซื้อ” หรือ “ไว้ก่อน” 

แต่ถ้าหากย้อนกลับมาที่ฝั่งของคนที่ตัดสินใจ “โอนย้าย” อันนี้จะตัดสินใจได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ได้ขาย LTF ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป เพราะทางเลือกมีให้ 2 ทาง ดังนี้ครับ

  • ขายทิ้งปล่อยจอยให้สบายใจ อันนี้คือไม่ใช่สิทธิ์ส่วนนี้แน่นอน แต่ก็ต้องย้อนกลับมาถามว่า เอ๊ะ แล้วทำไมไม่ขายก่อนหน้านี้ (ช่างมันครับ ฮา) ซึ่งถ้าใครเลือกเงื่อนไขนี้ อาจจะมองว่า เอาเงินไป “ซื้อ” (ถ้าอยากซื้อ) ในจำนวนเงินที่ควบคุมได้ เป็นการเริ่มใหม่ไป หรือ เอาเงินไปทำอย่างอื่น

สำหรับคนที่เลือกกลุ่มนี้ มักจะมีเงื่อนไขร่วมกัน คือ มีจำนวน LTF คงเหลือในมูลค่าที่มากกว่า 500,000 บาท ซึ่งได้พิจารณาแล้วว่าไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี, การถือครองที่ลดสภาพคล่อง และความต้องการลงทุนในหุ้นไทย (กลุ่ม ESG) รวมถึงปัจจัยและทางเลือกอื่น ๆ ที่มีในการจัดการเงินตามเป้าหมาย 

  • โอนย้ายไปดีกว่า น่าจะดี กลุ่มนี้จะมองกลับด้านกันกับกลุ่มก่อนหน้า นั่นคือ มูลค่า LTF คงเหลืออยู่นั้นคุ้มค่าในการตัดสินใจ อยู่ในช่วงไม่เกิน 500,000 บาท หรือเกินมาไม่มากนัก สิทธิ์ลดหย่อนภาษีทีไ่ด้รับคุ้มค่า วางแผนลงทุนในหุ้นไทย (กลุ่ม ESG) อยู่แล้ว และถือได้ไม่ต้องเกรงใจสภาพคล่อง ก็จะพิจารณาในแง่มุมนี้ได้ครับ

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมอยากแนะนำเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มที่กำลังตัดสินใจว่า โอนย้าย ดีไหม มีเงื่อนไขเพิ่มเติมตามนี้ครับ 

  • สิ่งทีต้องระวัง คือ ความเสียดายสิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี ที่อาจจะไม่คุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีมูลค่า LTF น้อยหรือมากกว่า 500,000 บาทก็ตาม อยากให้พิจารณาถึงความต้องการลงทุนในหุ้นไทย (กลุ่ม ESG) เป็นหลักที่จะตัดสินใจ มากกว่าสิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่ได้รับ เพราะการลงทุนนั้นมีความเสี่ยง และสุดท้ายจะพูดเหมือนกับตอนซื้อ LTF ว่า “รู้งี้ไม่น่า…” เลย 
  • พิจารณาปัจจัยเรื่องการ “โอนย้ายกองทุน LTF”  ระหว่างการโอนย้ายไปกองทุนใหม่ใน บลจ. เดิม กับการโอนย้ายไปกองทุนใหม่ ในบลจ.ใหม่ ตรงนี้ต้องเช็กเงื่อนไขของแต่ละกองทุนของ บลจ. ว่าเป็นอย่างไร ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใด (ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เรารับได้) และมีแนวทางปฎิบัติอย่างไรบ้าง  เพื่อให้สามารถที่จะใช้สิทธิ์ได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด

สุดท้าย ต้องบอกว่าแนวทางทั้งหมดนี้เป็นแนวทางที่ผมใช้พิจารณากับตัวเองในการลงทุนนะครับ หากท่านใดมีความเห็นแตกต่าง หรือ เป้าหมายการลงทุนที่ต่างออกไป ขอให้เลือกพิจารณาตามความเสี่ยง และผลตอบแทนที่ท่านต้องการ เพื่อให้ลงทุนและวางแผนภาษีได้อย่างมีความสุขครับ 

ถนอม เกตุเอม

ถนอม เกตุเอม

ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี เจ้าของเพจ TAXBugnoms

แชร์
เอาไงดี TESGX ซื้อหรือไม่ โอนย้ายจาก LTF ดีหรือเปล่า ?