ข่าวเศรษฐกิจ

จับตาการเมืองในเมียนมา หวั่นทำสินค้าในประเทศขาดแคลน

9 เม.ย. 67
จับตาการเมืองในเมียนมา หวั่นทำสินค้าในประเทศขาดแคลน

สถานการณ์การเมืองในเมียนมากำลังถูกจับตามองหลังจากฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมา ซึ่งก็คือกลุ่มทหารกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยู รวมถึงกลุ่มกองกำลังปกป้องประชาชน หรือพีดีเอฟ ได้เข้ายึดเมืองเมียวดีได้สำเร็จ และเมียวดีคือเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของเมียนมา  ธุรกิจเอกชนไทยคาดว่า เหตุการณ์ในเมียนมาจะมีผลต่อการขนส่งสินค้าของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน และอาจทำให้ 2-3 วันสินค้าในเมียนมาอาจขาดแคลน 

คุณธนิต โสรัตน์ อดีตเลขาธิการสภาธุรกิจไทย-เมียนมาให้ข้อมูลกับทีมSPOTLIGHT ว่า สถานการณ์การขนส่งสินค้าไปยังเมียน มา ขณะนี้มีปัญหาเพราะล่าสุดวันนี้รถขนส่งสินค้าจากประเทศไทยเข้าไปได้แค่เมืองเมียวดี บริเวณที่เป็น Trade Zone เท่านั้น ซึ่งจุดนี้เป็นศูนย์กระจายสินค้า แต่รถขนสินค้าไม่สามารถเข้าไปได้มากกว่านั้น 

เช่น ที่เมืองย่างกุ้ง ไม่สามารถเข้าไปได้ เพราะทหารกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ได้เข้ายึดเมืองกอกาเร็ก ซึ่งห่างจากย่างกุ้งราว 300-400 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากชายแดนไทย70-80 กิโลเมตรเท่านั้นเมืองนี้ถือว่า เป็นเมืองทางเข้าไปย่างกุ้งเลยก็ว่าได้

ทำให้ปริมาณรถที่วิ่งเข้าเมียนมาน้อยลงเหลือแค่ 20% เท่านั้น ดังนั้นหากยังไม่สามารถขนสินค้าเข้าไปได้มากกว่านี้ คาดว่าอีก 2-3 วันจะทำให้สินค้าหลายอย่างในเมียนมาขาดแคลนได้ 

เมียวดี เมียนมา
แฟ้มภาพจาก AFP: ทหารกำลังตรวจเข้มรถที่วิ่งอยู่บนน 

ทั้งนี้สินค้าที่ไทยส่งเข้าไปขายในเมียนมาส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารสด อาหารสำเร็จรูป น้ำมันพืช น้ำมันเชื้อเพลิง เสื้อผ้า ของใช้ต่างๆ โดยเหตุการณ์ความขัดแย้งในเมียนมา ได้ทำให้ค่าขนส่งสินค้าแพงมากขึ้นอยู่แล้ว จาก 7,000 - 8,000 บาทต่อเที่ยว ขึ้นมาเป็น 20,000 - 25,000 บาทต่อเที่ยว ส่วนหลังการยึดเมืองเมียวดีได้สำเร็จแล้ว คงต้องมีการเช็คตัวเลขค่าขนส่งอีกครั้งว่าจะขึ้นไปอยู่ในระดับไหน สูงกว่าเดิมอีกหรือไม่ 

คุณธนิต บอกว่า ขณะนี้ที่บริเวณชายแดน แม่สอด เมืองเมียววดี เจ้าหน้าที่ได้ถูกเปลี่ยนเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาลหมดแล้ว โดยยังมีประเด็นเรื่องอัตราการเก็บภาษีต่างๆที่เปลี่ยนไปจากเดิม ขณะนี้ทางภาคเอกชนไทยกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่จากการทำธุรกิจกับเมียนมามานานคาดว่า เป็นเรื่องยากที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาล จะยึดเมืองที่ราบในประเทศได้สำเร็จ เพราะอาจถูกตอบโต้จากอาวุธของรัฐบาลได้ ฃ

ทั้งนี้ข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ พบว่า  เมียนมา เป็นประเทศคู่ค้าชายแดนอันดับ 3 ของไทย ปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวมอยู่ที่  220,327 ล้านบาท ลด 16.46% ซึ่งเป็นผลพวงมาจากปัญหาเศรษฐกิจและการสู้รบในประเทศเมียนมา โดยด่านศุลกากรแม่สอดมีมูลค่าการค้าชายแดนสูงเป็นอันดับ 2 อยู่ที่ 106,835 ล้านบาท รองจาก ด่านศุลกากรสะเดาที่มีมีมูลค่าการค้าชายแดนสูง 226,254 ล้านบาท  

advertisement

SPOTLIGHT