ข่าวเศรษฐกิจ

พฤษภา "ราคาทมิฬ" สินค้าเกือบ 300 รายการ เดินหน้าขึ้นราคา

9 พ.ค. 65
พฤษภา "ราคาทมิฬ" สินค้าเกือบ 300 รายการ เดินหน้าขึ้นราคา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่า "ทำไมตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. 2565 ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมาถึงขยายตัวลดลง ทั้งที่เราเห็นกันอยู่ว่า ราคาสินค้ากำลังถีบตัวแพงขึ้น"

เรื่องนี้ตอบได้ง่ายๆ ว่า เป็นเพราะตัวเลขที่ลดลงนั้น "เปรียบเทียบกับฐานของเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว" ซึ่งไม่ได้มีปัญหาน้ำมันแพงเหมือนปัจจุบัน ดังนั้น จึงทำให้อัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาขยายตัว 4.65% หรือน้อยกว่าในเดือน มี.ค. ที่ขยายตัว 5.73% นั่นเอง

แต่หากลองดูรายการสินค้าหลายตัวจะเห็นชัดเจนว่า กำลังปรับตัวสูงขึ้น นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผอ.สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยเองว่า" มีสินค้าทยอยปรับขึ้นราคา ตั้งแต่เดือน มี.ค. ถึง 279 รายการไปแล้ว" โดยรายการสินค้าที่ว่านี้มีตั้งแต่กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวแกง น้ำมันพืช รวมไปถึงค่าไฟฟ้า และก๊าซหุงต้ม ซึ่งมีการปรับราคาขึ้นเนื่องจากสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาของรัฐบาลด้วย

ที่สำคัญก็คือ "สินค้าแพงยังไม่จบแค่นี้ แต่จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นอีกหลังเดือน พฤษภาคม 2565" เนื่องจากผลกระทบของราคา "น้ำมันดีเซล" ที่เป็นต้นทุนหลักของค่าขนส่งสินค้า โดยมาตรการตรึงราคาและลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ได้สิ้นสุดลงในเดือนเมษายน และเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ ยังมีการปรับราคาขึ้นแบบขั้นบันไดของก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ในเดือนเมษายน ถึงพฤษภาคม 2565 อีกด้วย

ทีมข่าว SPOTLIGHT ได้รวบรวมมหกรรมของแพงที่เปรียบเทียบกับราคาเมื่อช่วงต้นปีในเดือน ม.ค. 2565 เอาไว้ดังนี้

341484


ค่าไฟฟ้า

ปี 2565 นี้ คนไทยเจอค่าไฟขาขึ้นถึง 2 งวดด้วยกัน ในส่วนของค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) และยังเป็นการขึ้นแบบขั้นบันได ซึ่งหมายความว่า มีแนวโน้มที่ค่าไฟจะปรับขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดไปจนถึงปี 2566 ตราบใดที่สงครามยูเครนยังไม่จบ หรือราคาน้ำมันโลกยังไม่ปรับตัวลง

งวดแรกคือ การขึ้นค่าเอฟทีรอบเดือน ม.ค.-เม.ย. 2565 จากเดิมที่ติดลบ 15.32 สตางค์ ปรับเพิ่มขึ้น 16.71 สตางค์ ไปอยู่ที่ 1.39 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ซึ่งค่าไฟฟ้าเอฟทีที่เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มเกือบ 5%

งวดที่สอง คือ การขึ้นค่าเอฟทีรอบเดือน พ.ค. - ส.ค. 2565 โดยให้เรียกเก็บที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย เป็น 4.00 บาท/หน่วย ซึ่ง "เป็นครั้งแรกของไทยที่ค่าไฟฟ้าทะลุ 4 บาท"

(งวดที่สาม?) หากมีการปรับขึ้นแบบขั้นบันไดในงวดถัดไป คือ ก.ย.-ธ.ค.นี้ จะต้องปรับขึ้นไปอยู่ที่ 64.83 สตางค์ต่อหน่วย หรือขึ้นประมาณ 40 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 จะต้องปรับขึ้นไปอยู่ที่ 110.82 สตางค์ต่อหน่วย หรือขึ้นอีก 46 สตางค์ต่อหน่วย (ตัวเลขดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้) ซึ่งหมายความว่า "เราอาจเห็นค่าไฟฟ้าทะลุ 5 บาท เป็นครั้งแรกในปีหน้า"


น้ำมันดีเซล

เดือนพฤษภาคม นับเป็นเดือนแห่งการดีเดย์ "เลิกตรึงดีเซล 30 บาท" หลังจากที่มาตรการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง 3 บาท/ลิตร สิ้นสุดลง และคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติเห็นชอบปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป ทำให้ราคาดีเซลที่เคยถูกตรึงไว้ 30 บาท/ลิตร ขึ้นมาอยู่ที่ระดับประมาณ "32 บาท/ลิตร" และหลังจากนั้น ทาง กบน. จะพิจารณาปรับราคาเป็น "ขั้นบันได" เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนมากเกินไป

ดังนั้น เราจึงได้เห็นราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นมาแล้ว "3.5 บาท/ลิตร" นับตั้งแต่ต้นปี จาก 28.44 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 65 ขึ้นมาอยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตร ในวันที่ 9 พ.ค. 65

กบน.ย้ำว่า ปัจจุบันหากไม่มีการอุดหนุนจาก "กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง" ราคาน้ำมันดีเซลจะขึ้นไปถึง 40 บาท/ลิตร และจากการอุดหนุนเพียงครึ่งเดียวตามมติคณะรัฐมนตรี จะทำให้เพดานการปรับราคาจะอยู่ที่ประมาณ 35 บาท/ลิตร

4_19

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันนี้ (9 พ.ค. 65) ที่ประชุม กบน. ได้มีมติให้ตรึงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ (9-15 พ.ค. 2565) ไว้ที่ 32 บาท/ลิตร เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพประชาชน และด้วยฐานะกองทุนน้ำมันที่มีอยู่ ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ความผันผวนนี้ได้ แต่หลังจากตรึงราคา 1 สัปดาห์แล้วจะขึ้นต่อหรือไม่นั้น ต้องติดตามสถานการณ์ราคาโลกแบบรายวัน แล้วนำเสนอเข้าที่ประชุม กบน. ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ เพื่อพิจารณาว่าในต้นสัปดาห์ต่อไป จะสามารถตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไว้ หรือต้องปรับขึ้นราคาตามสถานการณ์โลก

ส่วนสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ล่าสุดแบกมาจนถึงวันที่ 8 พ.ค. 2565 ติดลบไป 66,681 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 33,423 ล้านบาท


น้ำมันเบนซิน-โซฮอลล์

ปี 2565 นี้ ยังนับเป็นปีแรกที่คนไทยได้เห็นราคาน้ำมัน "ลิตรละ 50 บาท" นำร่องโดยปั๊มเชลล์ และคาล์เท็กซ์ ที่ราคาเบนซิน 95 ขึ้นไปทะลุ 50 บาท/ลิตร เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ค. ปั๊มคาลเท็กซ์ แจ้งราคาเบนซิน Gassoline 95 ราคาลิตร 50.10 บาท ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะขยับขึ้นอีกเป็น 50.41 บาท เมื่อวันที่ 9 พ.ค.

ส่วนราคาแก๊สโซฮอล์ 95 นั้น ขยับจาก 31.15 บาท เมื่อต้นปีวันที่ 1 ม.ค. 65 ขึ้นไปแตะ 41.85 บาท เมื่อวันที่ 9 พ.ค. รวมแล้วปีนี้ขยับราคาขึ้นไปแล้ว "10.7 บาท"


น้ำมันปาล์ม

161725

น้ำมันปาล์มนับเป็น 1 ในสินค้าที่มีการปรับขึ้นราคามากที่สุดไม่ว่าจะเทียบเฉพาะปี 2565 หรือเทียบย้อนหลัง 1 ปี เพราะราคาปาล์มในตลาดโลกที่สูงขึ้น และการที่น้ำมันปาล์มไม่ใช่สินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ แต่สถานการณ์ยิ่งน่าห่วงขึ้นหลังจากที่ "อินโดนีเซีย" ซึ่งเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันปาล์มมากที่สุดอันดับ 1 ของโลก ในสัดส่วนมากกว่า 50% ประกาศระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มชั่วคราว เนื่องจากเกรงสินค้าในบ้านจะขาดตลาด

สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์ม (ขวด 1 ลิตร) ขยับราคาขึ้นจากประมาณ 55-57 บาท เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้ ขึ้นไปถึง 64 - 68 บาท ในปัจจุบัน หรือรวมแล้วเฉพาะปีนี้ปรับขึ้นไปประมาณ "11 บาท"

ล่าสุดจากการเช็กราคาทางเว็บไซต์ห้างค้าส่งแม็คโคร วันที่ 9 พ.ค. พบว่า ราคาขายปลีกน้ำมันปาล์มยี่ห้อหนึ่ง ได้ปรับขึ้นเป็น 68 บาท/ขวดแล้ว และราคาขายต่อลัง (12 ขวด) ปรับขึ้นเป็น 816 บาท หรือเพิ่มขึ้นมา "36 บาท" จากราคาเดิมซึ่งเคยขายอยู่ที่ 780 บาท/ลัง เมื่อเดือนที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น "ขวดละ 3 บาท" แต่ถึงราคาจะเพิ่มขึ้นมาก สินค้าก็ยัง "หมดชั่วคราว" ขณะที่มีรายงานว่า ราคาขายปลีกของร้านโชว์ห่วยขนาดเล็กบางรายขึ้นไปแตะ 70 บาทแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT