กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขส่งออกไทยเดือน ธันวาคม 2564 เติบโต24.2%สินค้าทุดหมวดขยายตัวดี เช่นเดียวกับตลาดคู่ค้าฟื้นตัว ขณะที่การส่งออกทั้งปี 2564 เติบโต 17.14% วางเป้าการส่งออกปี 2565 เติบโต 3-4%
21 ม.ค.65 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน ธ.ค. 2564 พบว่า การส่งออกขยายตัวได้ 24.2% มาที่มูลค่า 24,930 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การส่งออกทั้งปี 2564 ขยายตัวถึง 17.14% ทะลุเป้าหมาย คิดเป็นมูลค่ารวม 2.71 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้าในเดือน ธ.ค.2564 ขยายตัว 33.4% มาที่ 25,284.5 ล้านเหรียญสหรัฐ และทั้งปี 2564 การนำเข้าขยายตัว 29.8% มาที่ 2.68 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ไทยขาดดุลการค้าในเดือน ธ.ค.2564 ราว 354.2 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทั้งปี 2564 เกินดุลการค้า 3,573.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับกลุ่มสินค้า พบว่า โดยในเดือน ธ.ค.2564ทุกกลุ่มยังสามารถขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยกลุ่มสินค้าเกษตร ขยายตัว 21.1% สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ทุเรียน, ยางพารา, มะม่วงสด, ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และมังคุด ส่วนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 24.1% สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัว 24% สินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน, เหล็ก, เครื่องปรับอากาศ, คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
ด้านตลาดส่งออกที่เติบโตสูงในเดือนธ.ค.2564 เช่น ออสเตรเลีย ขยายตัว 54.4% รัสเซีย และกลุ่ม CIS ขยายตัว 45.8% สหรัฐอเมริกา ขยายตัว 36.5% ลาตินอเมริกา ขยายตัว 36.5% อาเซียน ขยายตัว 35% แอฟริกา ขยายตัว 34% และตะวันออกกลาง ขยายตัว 29.5%
รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ บอกว่า โดยปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยในปี 64 คือ
- การทำงานร่วมกันของกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชน ในรูปของ กรอ.พาณิชย์ ตลอดจนทีมเซลส์แมนระดับจังหวัด และระดับประเทศ รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าในหลายประเทศ และการเจาะตลาด FTA
- เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าของไทยฟื้นตัวดีขึ้น
- ภาคการผลิตทั่วโลกขยายตัวดีขึ้น
- เงินบาทยังอ่อนค่าอยู่ในระดับที่เอื้อต่อการส่งออก
- ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าส่งออกของไทยที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
สำหรับในปี 2565 กระทรวงพาณิชย์ ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกไว้ที่ ขยายตัว 3-4% คิดเป็นมูลค่าราว 2.79 - 2.82 แสนล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกของไทยที่คาดว่าจะเป็นดาวรุ่งในปี 2565 เช่น ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง, ยาและสินค้าเวชภัณฑ์ เช่น ถุงมือยาง, น้ำตาลทราย, อาหารสัตว์เลี้ยง, รถยนต์, อัญมณี, คอมพิวเตอร์, เครื่องปรับอากาศ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน
ปัจจัยหนุนส่งออกที่สำคัญปี2565
- การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ส่งผลให้มีการนำเข้าสินค้าเพิ่มมากขึ้น
- ค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับที่เอื้อกับการส่งออก
- ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มคลี่คลาย และคาดว่าจะเข้าสู่สมดุลได้ในช่วงกลางปี
- การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล ช่วยหนุนความต้องการสินค้ากลุ่มไอที ซึ่งไทยมีความสามารถในการผลิตและส่งออกสินค้ากลุ่มนี้
- ความรุนแรงของสถานการณ์โควิดทั่วโลกลดลง ซึ่งทำให้ลดอุปสรรคในการเจรจาการค้าลงด้วย
- ข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 65 จะมีส่วนช่วยส่งเสริมให้การส่งออกของไทยไปยังประเทศสมาชิก RCEP มีความคล่องตัวขึ้น เนื่องจากอัตราภาษีเป็น 0%
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่จะมีผลต่อการส่งออกของไทย
- สถานการณ์ระบาดของโควิดในทั่วโลกที่ยังคงอยู่
- ปัญหา Supply chain disruption
- อัตราเงินเฟ้อของต่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง
- ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน