คลื่นความร้อนจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รวมกับโดมความร้อนทรงพลัง ทำให้ยุโรปหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณทางใต้ของทวีป อย่าง สเปน โปรตุเกส กรีซ และฝรั่งเศส เผชิญสภาพอากาศร้อนจัดมานานเกือบสัปดาห์
เมื่อวานนี้ (1 มิถุนายน 2568) ยอดหอไอเฟล ที่ปกตินักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเยี่ยมชมได้ ปิดการให้บริการชั่วคราว เนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มสูง แถลงการณ์จากเว็บไซต์หอไอเฟลกล่าวว่า
“สืบเนื่องจากคลื่นความร้อนที่กำลังเกิดขึ้น หอไอเฟลจึงดำเนินมาตรการเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้เยี่ยมชมและเจ้าหน้าที่”
อย่างไรก็ตาม ชั้น 1 และ 2 ของหอ ยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่หอไอเฟลแจ้งให้ผู้มาเยือนที่ไม่ได้จองตั๋วเข้าชมล่วงหน้าเลื่อนการเข้าชมออกไปก่อน
อุณหภูมิในกรุงปารีส ฝรั่งเศส เพิ่มสูงถึง 36 องศาเซลเซียสช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนทางตอนใต้ของประเทศเพิ่มสูงถึง 40 องศาเซลเซียส รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศเตือนภัยจากคลื่นความร้อนใน 84 แคว้นทั่วประเทศ
ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคยังเผชิญปัญหาเดียวกัน โดยวัดความร้อนได้มากที่สุดที่เมืองกรานาดา ประเทศสเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยอุณหภูมิสูงถึง 46 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเป็นเดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดตั้งแต่มีการบันทึกไว้
กลับกัน อเมริกาใต้กำลังเผชิญปัญหาตรงกันข้าม คืออากาศหนาวจัดตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หลายประเทศในอเมริกาใต้เผชิญกับอากาศหนาวที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน เมื่อวานนี้ (อังคารที่ 1 มิถุนายน) อุณหภูมิในกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ในช่วงกลางคืนบางพื้นที่มีอุณหภูมิลดต่ำถึงติดลบ 2 หลัก อย่างเช่นที่เมืองปูเอร์โต นาตาเลส ที่วัดได้ถึง -15.7 องศาเซลเซียสเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเดือนมิถุนายนถึง 14 องศาเซลเซียส
นอกจากนี้ ประเทศข้างเคียงอย่างชิลีและอุรุกวัยก็กำลังเจอกับก้อนความหนาวเย็นเฉียบพลันนี้เช่นเดียวกัน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ในทั้งสองประเทศมีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงนี้ของปีกว่า 10–15 องศาเซลเซียส แม้ทวีปอเมริกาใต้จะกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวในขณะนี้ เนื่องจากมีฤดูกาลตรงข้ามกับซีกโลกเหนือ แต่สภาพอากาศเช่นนี้ก็เกิดขึ้นได้ยาก แม้แต่ในประเทศชิลีที่ช่วงต้นหน้าหนาวมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 0 องศาอยู่บ้าง
กรมอุตุนิยมวิทยาอาร์เจนตินาประกาศเตือนภัยจากลมหนาวจัดแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติชิลีได้ออกประกาศเตือนเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเน้นย้ำถึงความเสี่ยงของน้ำค้างแข็งรุนแรง
มีการคาดการณ์ว่าอาจมีหิมะตกในบางพื้นที่ พร้อมทั้งมีลมเย็นจากมหาสมุทรแอนตาร์กติกาพัดเข้ามาสมทบ ทำให้มีการคาดการณ์ว่าอากาศจะหนาวเย็นลงอีก
นอกจากนี้ บริเวณตะวันออกเฉียงใต้สุดของโบลิเวีย และทางใต้ของบราซิลยังมีพายุฝนตกหนักตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีปริมาณน้ำฝนถึง 92 มิลลิเมตรภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงในวันอาทิตย์ ก่อนหน้านี้หนึ่งสัปดาห์ ในบริเวณเดียวกันเพิ่งเผชิญน้ำท่วมหนัก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และประชาชนกว่า 6,000 คนต้องอพยพ