
คลังเผย ‘คนละครึ่งพลัส เฟส 2’ กลุ่มตกหล่นได้เงินมากกว่า เฟสแรกถูกตัดสิทธิ 2.39 แสนรา
กระทรวงการคลังยืนยันเดินหน้าโครงการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ต้นปี 2569 โดยเตรียมปรับหลักเกณฑ์ให้ “กลุ่มตกหล่น” หรือผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิในเฟสแรก ได้รับวงเงินสนับสนุนมากกว่ากลุ่มเดิมที่เคยเข้าร่วม พร้อมย้ำยังไม่มีข้อสรุปเรื่องจำนวนเงินที่จะจ่ายในเฟสใหม่ ขณะเดียวกันเปิดเผยว่าในเฟสแรกมีประชาชนถูกตัดสิทธิไปแล้วกว่า 239,731 ราย หลังไม่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในเวลาที่กำหนด
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงยังอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดของโครงการ “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” ทั้งในส่วนของวงเงินและกลุ่มเป้าหมาย โดยยืนยันว่าข่าวที่ระบุว่ารัฐบาลจะให้เงินคนละ 4,000 บาทนั้น “ไม่เป็นความจริง” เป็นเพียงตัวเลขสมมุติที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาอย่างเป็นทางการ
นายลวรณกล่าวว่า หลักการสำคัญคือจะต้องยุติธรรม คนที่เคยได้รับสิทธิมาแล้วในเฟสแรก หากต้องการเข้าร่วมอีกครั้ง จะได้รับวงเงินน้อยกว่าผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ ส่วนผู้ที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่เคยใช้สิทธิก็ถือว่าเป็นกลุ่มเดิมเช่นกัน พร้อมระบุว่า วงเงินที่จะได้รับจริงในเฟส 2 จะขึ้นอยู่กับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร
นายลวรณเผยว่า โครงการเฟสใหม่ตั้งเป้าเปิดใช้ในช่วงต้นปี 2569 เพื่อให้มาตรการต่อเนื่องจากสิ้นปีนี้และรักษาแรงส่งของการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องการให้โมเมนตัมการจับจ่ายไม่สะดุด และให้ภาคธุรกิจรายย่อย โดยเฉพาะร้านค้าในท้องถิ่น ได้รับผลดีอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังรายงานว่า ตั้งแต่เปิดให้ใช้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึง 11 พฤศจิกายน 2568 มียอดใช้จ่ายสะสมรวม 31,837.1 ล้านบาท โดยเป็นส่วนสมทบจากภาครัฐ 15,711.6 ล้านบาท และส่วนที่ประชาชนร่วมจ่าย 16,125.5 ล้านบาท
มีประชาชนใช้สิทธิจำนวน 19.76 ล้านคน จากผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด ขณะที่พบว่ามีผู้ใช้เงินครบวงเงินที่รัฐบาลสมทบแล้วกว่า 457,151 ราย ซึ่งสะท้อนถึงการตอบรับที่แข็งแกร่งของประชาชนทั่วประเทศ
ด้านร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมีจำนวนทั้งสิ้น 903,480 ร้านค้า ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติครบถ้วน นอกจากนี้ ยังมีการใช้จ่ายผ่านบริการฟู้ดเดลิเวอรีมูลค่ารวมกว่า 486 ล้านบาท ซึ่งช่วยขยายช่องทางการจับจ่ายของประชาชนและสนับสนุนธุรกิจดิจิทัลในประเทศ
นายลวรณระบุว่า เมื่อถึงเวลา 23.00 น. ของวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งเป็นเส้นตายการใช้สิทธิครั้งแรก พบว่ามีประชาชนจำนวน 239,731 ราย ไม่ได้ใช้สิทธิตามเงื่อนไขภายในเวลาที่กำหนด ส่งผลให้ถูกตัดสิทธิออกจากโครงการทันที ตามเกณฑ์ที่ระบุไว้ตั้งแต่ต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในเวลาที่กำหนด จะสามารถใช้สิทธิได้ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าจะใช้ครบวงเงินที่ได้รับ โดยกระทรวงการคลังจะยังไม่เปิดให้ลงทะเบียนรอบเก็บตกสำหรับสิทธิที่ถูกตัดออกในช่วงนี้ แต่จะรวบรวมวงเงินดังกล่าวไว้เพื่อใช้ในการเปิด “คนละครึ่งพลัส เฟส 2” แทน
กระทรวงการคลังประเมินว่า โครงการ “คนละครึ่งพลัส” มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคและกระจายรายได้สู่ระบบเศรษฐกิจระดับชุมชน โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ร้านค้ารายย่อยได้รับอานิสงส์จากกำลังซื้อของประชาชน
นายลวรณกล่าวว่า มาตรการนี้เป็นกลไกที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้จริง เราจะนำบทเรียนจากเฟสแรกมาปรับปรุงเฟสสองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งในด้านความโปร่งใส การเข้าถึง และการสร้างผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในระยะยาว