ธุรกิจการตลาด

Meta ปิดปากเงียบ ไม่ยอมเผยสาเหตุระบบล่ม ทำหุ้นตก 1.2%

6 มี.ค. 67
Meta ปิดปากเงียบ ไม่ยอมเผยสาเหตุระบบล่ม ทำหุ้นตก 1.2%

จากเหตุการณ์ วุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 4 ทุ่มเวลาประเทศไทย (วันที่ 5 มีนาคม) จากกรณี เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมล่ม สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของโลกออนไลน์ เพียงแค่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียล่ม ก็สร้างผลกระทบต่อผู้ใช้จำนวนมหาศาลทั่วโลก

 

Meta ปิดปากเงียบ ไม่ยอมเผยสาเหตุระบบล่ม ทำหุ้นตก 1.2% Elon Musk แซะ X ว่าเสถียรกว่าเยอะ

Meta ปิดปากเงียบ ไม่ยอมเผยสาเหตุระบบล่ม ทำหุ้นตก 1.2%

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 67 เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ซึ่งเป็นบริการของบริษัท Meta เกิดเหตุขัดข้องทางเทคนิค ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ทั่วโลกนานกว่าสองชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้หลายแสนคน ปัญหานี้เริ่มขึ้นประมาณ 10 โมงเช้าตามเวลาของสหรัฐฯ (ตรงกับประมาณ4 ทุ่มเวลาประเทศไทย) ผู้ใช้หลายคนรายงานบนโซเชียลมีเดียอื่นๆ ว่าพวกเขาถูกบังคับออก (log out) จากบัญชีเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม และไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้อีก ช่วงที่ระบบขัดข้องหนักสุด เว็บไซต์ Downdetector.com ซึ่งติดตามรายงานปัญหาการใช้งานออนไลน์ ระบุว่า มีผู้รายงานปัญหาการเข้าใช้ Facebook มากกว่า 550,000 รายการ และ Instagram ประมาณ 92,000 รายการ โฆษกของ Meta แอนดี สโตน โพสต์ข้อความบน Twitter ว่า "เช้านี้มีปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ผู้ใช้บางท่านเข้าใช้บริการของเราบางรายการได้ยาก ทางเราได้แก้ไขปัญหา... ให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบแล้ว" แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น


Meta ไม่ตอบปัญหาที่เกิดขึ้น ทำหุ้นตก 1.2%

Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ไม่ได้ตอบกลับคำขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิคที่เกิดขึ้น หุ้นของ Meta ลดลง 1.2% ในช่วงบ่ายของวัน ด้านโฆษกของทำเนียบขาวเผยว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กำลังติดตามเหตุการณ์นี้อยู่อย่างใกล้ชิด และยังไม่ทราบเบาะแสของการโจมตีทางไซเบอร์ในขณะนี้

สำหรับแอพพลิเคชั่นต่างของบริษัท Meta มีผู้ใช้งานประจำทุกวันประมาณ 3.19 พันล้านคนทั่วโลก โดยผู้ใช้กระจายอยู่ในหลายแอปของบริษัท เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp และ Threads

 

เรื่องว้าวุ่นตอนระบบ เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมล่ม

Meta ปิดปากเงียบ ไม่ยอมเผยสาเหตุระบบล่ม ทำหุ้นตก 1.2%

ตอน แอพพลิเคชั่น เฟซบุ๊ก ล่มพนักงาน Meta พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่ระบบงานภายในของบริษัทได้ ทำให้เกิดความกังวลว่าพวกเขาอาจจะถูกเลิกจ้าง และรู้หรือไม่การที่ระบบล่มนี้กลายเป็นหัวข้อดังบน X (เดิมคือ Twitter) ซึ่ง Elon Musk เจ้าของคนปัจจุบันของ X ก็ได้โพสต์ขำๆ ว่า "ถ้าคุณอ่านโพสต์นี้ได้ แสดงว่าเซิร์ฟเวอร์เรายังดีอยู่"

นอกจากนี้ การบริการของ X เองก็เคยมีปัญหาหลายครั้งหลังจาก Elon Musk ซื้อกิจการในราคา $44 พันล้าน เมื่อเดือนตุลาคม 2022 โดยในเดือนธันวาคมมีเหตุการณ์ระบบล่มที่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้งานกว่า 77,000 คน ทั้งในอเมริกาและฝรั่งเศส

สุดท้ายนี้เหตุการณ์ เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมล่ม ครั้งนี้คงจะเป็นอีกหนึ่งบทเรียนสำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ ว่าต้องให้ความสำคัญกับเสถียรภาพและความปลอดภัยของระบบ เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

ที่มา Reuters

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT