ธุรกิจการตลาด

'Extreme Tourism'ทัวร์คนรวยเสี่ยงตายบูม เศรษฐีกว่า 800 คนแย่งจองตั๋วไปอวกาศ

23 มิ.ย. 66
'Extreme Tourism'ทัวร์คนรวยเสี่ยงตายบูม เศรษฐีกว่า 800 คนแย่งจองตั๋วไปอวกาศ

กรณีมหาเศรษฐี 5 คนเสียชีวิตในเรือดำน้ำขณะลงไปชมซากเรือไททานิคจุดประเด็น “การท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์ตรีมเสี่ยงตาย” ของคนรวย ที่ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ จากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ทำให้มนุษย์ธรรมดาสามารถใช้เงินซื้อทริปเพื่อให้คนพาเข้าไปถึงในที่ๆ เสี่ยงอันตรายได้

โดยนอกจากทริปลงลึกใต้มหาสมุทรแบบนี้แล้ว อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในฝันของเหล่ามหาเศรษฐีก็คือ ‘อวกาศ’ ซึ่งมี 3 มหาเศรษฐี คือ เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) ซีอีโอของ Amazon, อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของ Tesla, และ ริชาร์ด แบรนสัน (Richard Branson) นักลงทุนเจ้าของ Virgin Group จากอังกฤษ กระโดดลงมาเป็น 3 ผู้เล่นแรกในตลาดแล้วด้วยการเปิดธุรกิจพาคนรวยด้วยกันไปทัวร์อวกาศ

ปัจจุบัน ในบรรดา  3 บริษัท คือ Blue Origin ของเบโซส์, SpaceX ของมัสก์, และ Virgin Galactic ของแบรนสัน มีเพียง Blue Origin เท่านั้นที่เคยพาผู้โดยสารขึ้นไปอวกาศได้สำเร็จ โดยได้พามหาเศรษฐีถึง 31 คนขึ้นไปเที่ยวอวกาศสำเร็จมาแล้วถึง 6 รอบ รวมไปถึง แฮมิช ฮาร์ดิง (Hamish Harding) มหาเศรษฐีนักผจญภัยชาวอังกฤษที่เสียชีวิตไปในเรือดำน้ำไททันนี้ด้วย

327d2tu-highres

อย่างไรก็ตามในวันที่ 27-30 มิถุนายนที่จะถึงนี้ บริษัท Virgin Galactic ของแบรนสัน กำลังจะเปิดให้ผู้โดยสารล็อตแรกขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศไร้แรงโน้มถ่วงพร้อมชมวิวจากนอกโลกเป็นเวลา 90 นาที หลังจากมีการทดสอบนำเครื่องบินของบริษัทที่ชื่อว่า VSS Unity ไปกลับอวกาศเป็นที่สำเร็จมาแล้ว 5 รอบ ซึ่งก็น่าจะทำให้คนทั้งโลกติดตามภารกิจสุดท้าทายครั้งนี้แน่นอน

จากการรายงานของ CNBC พบว่ามีมหาเศรษฐีทั่วโลกถึง 800 คนแล้วที่จ่ายเงินเพื่อไปเที่ยวอวกาศกับ Virgin Galactic ซึ่งค่าโดยสารก็ไม่ใช่น้อยๆ เพราะสื่อนอกรายงานว่าแต่ละคนจ่ายไปถึง 250,000 - 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 8.8 - 14 ล้านบาทเลยทีเดียวเพื่อให้ร่วมทัวร์

9ef7xw-highres

นอกจากนี้ บริษัทที่ยังทดสอบจรวดไม่ผ่านซักทีอย่าง SpaceX เองก็ไม่น้อยหน้า เพราะถึงยังไม่มีวี่แววว่าจะได้พาคนขึ้นไปเที่ยวจริง ก็มีมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งแล้วมาเหมาที่นั่งของเที่ยวบินแรกของ SpaceX ที่จะพาผู้โดยสารไปเดินทางวนรอบดวงจันทร์เป็นเวลา 3 วัน ก่อนกลับมายังโลก

 

ทำไมคนรวยถึงอยากไปเที่ยวแบบเสี่ยงตาย?

หลังจากมีข่าวเรือดำน้ำไททันออกมา หลายๆ คนก็ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคนรวยพวกนี้จึงยอมเสียเงินหลายล้านบาทไปเที่ยวในที่เสี่ยงอันตราย ที่ถ้ามีอะไรผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจจะได้กลับบ้านเก่าได้ บางคนถึงกับเอามาวิพากษ์วิจารณ์ว่าทริปแพงแถมเสี่ยงตายแบบนี้ คนยอมไปนอกจากจะรวยแล้ว คงยังต้องโง่มากๆ ด้วย

อย่างไรก็ตามในทางจิตวิทยา ความชอบไปเที่ยวในที่เสี่ยงอันตรายของคนรวยก็มีเหตุผลของมันอยู่ โดยจากความเห็นของ Scott Lyons นักจิตวิทยาที่ให้สัมภาษณ์กับ The Daily Mail สาเหตุที่ทำให้คนรวยนิยมไปเที่ยวแบบเสี่ยงภัยมีหลายประการด้วยกัน คือ

1) คนรวยมักจะเป็นผู้ที่ชอบความเสี่ยงอยู่แล้วจากพฤติกรรมในการทำธุรกิจ 

2) คนรวยส่วนมากรู้สึกเบื่อหน่ายกับการท่องเที่ยวแบบเดิมๆ เพราะเคยไปเที่ยวไปเห็นมาหมดแล้ว ทำให้ต้องการความตื่นเต้นจากการเสี่ยงอันตราย

3) คนรวยต้องการทำอะไรที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนรวยด้วยกัน จึงตัดสินใจไปในที่ๆ แม้แต่เศรษฐีบางคนก็ยังไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะไป

afp.com-20210720-ph-gty-13297

Lyons กล่าวว่า ‘ความเบื่อหน่าย’ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มหาเศรษฐีเหล่านี้ดั้นด้นไปที่ๆ น้อยคนจะได้ไป เพราะพวกเขาไม่ต้องนั่งเครียดหรือกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของตัวเองอย่างที่คนธรรมดาทำ และไม่ตื่นเต้นกับอะไรที่คนธรรมดารู้สึกว่าน่าตื่นเต้นเพราะได้ไปประสบพบเจอมาหมดแล้ว ทำให้สิ่งที่พอจะทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาได้บ้างก็คือการได้ไปในที่ๆ พวกเขารู้สึกว่าเสี่ยงอันตราย และเป็นที่ๆ ไม่ค่อยมีใครได้ไป

จากการคาดการณ์ของ Grand View Research อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบเอ็กซ์ตรีมจะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 3.22 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2022 ไปเป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกด้วยว่ายอดซื้อทริปผจญภัยผ่านแพลตฟอร์ม Squaremouth.com เพิ่มขึ้นถึง 46% ในปี 2022 ซึ่งส่วนมากเป็นทริปไปสถานที่อย่างแอนตาร์กติกา และป่าซาฟารีในแอฟริกาใต้ เคนยา และแทนซาเนีย

ที่มา: CNBC, The Wall Street Journal, Daily Mail

VDO ที่เกี่ยวข้อง

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT