ธุรกิจการตลาด

Louis Vuitton กับสินค้า “ไลฟ์สไตล์” สำหรับคน “มีสตางค์”

19 ธ.ค. 64
Louis Vuitton กับสินค้า “ไลฟ์สไตล์” สำหรับคน “มีสตางค์”

หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) เป็นแบรนด์สินค้าลักซ์ชูรีที่มีอายุกว่า 167 ปี สินค้าของหลุยส์วิตตอง เริ่มมาจากกระเป๋าเดินทาง พัฒนามาเรื่อยมา จนปัจจุบัน มีครบทั้งเสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า น้ำหอม ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ และของแต่งบ้าน ทุกไอเท็มต่างก็มีราคาแรงไม่ธรรมดา

 

7 สินค้าไลฟ์สไตล์ สำหรับแฟนพันธุ์แท้  LV

 louis-vuitton-coloring-pencil

1.ชุดสีไม้ปลุกความติสต์ในตัวคุณ (30,000 บาท)

รูปลักษณ์ภายนอกอาจดูเหมือนสีไม้ทั่วไป แต่ถ้าดูกระเป๋าแล้วรู้แน่นอนว่าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ LV สนนราคาเบาๆ ที่ 30,000 บาทเท่านั้น 

730080

2.เฟสชิลด์สะท้อนโควิด (32,700 บาท)

ในยุคสมัยโควิดเช่นนี้มาสก์และเฟสชิลด์อาจปิดปังใบหน้าคุณได้ แต่คุณสามารถเฉิดฉายออกมาจากคนอื่นด้วยเฟสชิลด์จาก หลุยส์ วิตตอง ที่นอกจากจะทำให้คุณโดดเด่นในวงเพื่อนๆ แล้ว ยังสามารถป้องกันฝอยละอองที่อาจพาเชื้อโควิดมาสู่ตัวคุณอีกด้วย ทั้งสวย ทั้งปลอดภัย เพียง 32,700 บาทเท่านั้น

img_3983

3.เคสใส่ลิปสติกสุดชิค (48,800 บาท)

สำหรับคนที่ปากแห้ง หรือสีปากดรอปบ่อย อาจต้องการตัวช่วยที่ทำให้คุณหยิบลิปสติกแท่งโปรดขึ้นมาทาได้ทุกเมื่อ หลุยส์ วิตตอง ขอนำเสนอ เคสใส่ลิปสติกสุดชิค ตัวช่วยให้คุณทาลิปได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพียง 48,800 บาทเท่านั้น!

img_3981

4.กระจกส่องหน้าน้องเป็ดสุดแนว (67,000 บาท)

เหมาะสำหรับคนที่ชอบเช็คหน้าตัวเองบ่อยๆ แต่ขี้เกียจจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องหน้า ให้ “กระจกส่องหน้าน้องเป็ดสุดแนว” ชิ้นนี้ช่วยให้คุณโดดเด่นจากทุกคนรอบตัว ในราคาเบาๆ เพียง 67,000 บาท

img_3982

5.กระติกน้ำดับกระหาย (67,000 บาท)

เมืองไทยเป็นเมืองร้อน หลุยส์ วิตตอง กลัวคุณจะกระหาย แต่ก็ไม่วายอยากเก๋ จึงได้คิดค้น กระติกน้ำโลหะ พร้อมกระเป๋าสะพายลายเอกลักษณ์ของแบรนด์ มาให้เหล่าแฟนๆ ได้มีไว้ในครอบครองด้วยราคาเกินครึ่งแสนนิดๆ ที่ 67,000 บาท

img_3977

6.เปลญวนสายชิล (1.6 ล้าน)

อยู่ที่บ้าน ก็เสพบรรยากาศสบายๆ เหมือนอยู่มัลดีฟได้ ด้วย”เปลญวนหลุยส์วิตตอง” ที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชื่อดัง เหมาะสำหรับสายชิลล์เช่นคุณ พร้อมราคาที่น่าสนใจ ที่ 1.6 ล้านบาทเท่านั้น

img_3978

7.เต๊นท์ปลีกตัว (3.6 ล้าน)

และมาถึงลำดับสุดท้าย กับไอเทม “ต้องมี” อย่าง เต๊นท์ลายโมโนแกรม อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังเปิดตัวไปเมื่อปี 2020 เป็นเต๊นท์ที่เหมาะกับกิจกรรมเอาท์ดอร์เก๋ๆ หรือวันไหนเบื่อๆ จะกางเต๊นท์นอนเล่นในบ้านก็ได้ ค่าตัวของน้องเต๊นท์ก็สูสีกับบ้านจัดสรร ที่ 3.6 ล้านบาท แต่ใครจะอยากมีบ้าน เมื่อคุณมีเต๊นท์ของหลุยส์ วิตตองได้!

 

img_3974

จากหีบใส่สัมภาระ สู่แบรนด์กระเป๋า-แฟชัน 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์

 

จุดเริ่มต้นของแบรนด์แฟชันไฮเอนด์มูลค่ากว่า 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.86 แสนล้านบาท) เกิดจากช่างทำหีบบรรจุสัมภาระที่มีชื่อว่า มองซิเออร์ “หลุยส์ วิตตอง” ที่เริ่มต้นชีวิตในครอบครัวชนชั้นแรงงานในเมืองชนบทเล็กๆ ที่มีชื่อว่า “อังเชย์ (Anchay)”  พ่อเป็นชาวไร่ แม่เป็นช่างทำหมวก ตรากตรำเดินทางเข้าสู่ ปารีส เพื่อค้นหาชีวิตที่ดีกว่า และในช่วงการเดินทางของเขานี่เอง ที่ทำให้เขาได้พบกับเจ้านายและครูที่ชื่อ มองซิเออร์ “มาแชล” (Monsieur Marechal) ช่างทำกล่องและหีบขนของที่ดังที่สุดในสมัยนั้น

ด้วยความใส่ใจพิถีพิถันในการสร้างผลิตภัณฑ์ รวมดึงดีไซน์ที่ก้าวล้ำนำยุคสมัย ทำให้ชื่อเสียงของหลุยส์ วิตตอง เป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับโอกาสให้เข้าไปถวายงาน เป็นผู้รับใช้ส่วนตัวของราชินีฝรั่งเศส ณ ขณะนั้น ออกแบบกล่องใส่เสื้อผ้าส่วนตัวของพระองค์ จุดนี้เองที่ค่อยๆ ทำให้ชื่อ และสินค้าของเขา กลายเป็นตัวแทนของความหรูหรา เขามีโอกาสได้ทำงานให้บุคคลสำคัญระดับโลกอีกหลายคน พร้อมกับค่อยๆ พลิกโฉมวงการหีบใส่ของไปทีละนิด อย่างเช่นการดีไซน์หีบใหม่จากฝากโค้งแบบทั่วไปให้เป็นฝาแบน เพื่อให้ขนส่งได้สะดวกมากขึ้น การใช้ผ้าใบแทนหนังที่ทำให้ตัวหีบมีน้ำหนักเบาลง กันน้ำ และป้องกันกลิ่น

 

 ด้วยความคิดอันก้าวล้ำ คุณภาพอันไร้ที่ติ และทักษะอันเชี่ยวชาญ ทำให้ผลงานของและชื่อเสียงของเขา ถูกยอมรับในระดับโลก และถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งลายโมโนแกรม และกระเป๋าหนังซึ่งนับว่าเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง ถือกำเนิดในปี 1896 และ 1901 โดยลูกของเขา “จอร์จ วิตตอง” (George Vuitton) ผู้นำตำนานและความเชี่ยวชาญของผู้เป็นพ่อ มาสานต่อ จนกลายเป็นแบรนด์ระดับตำนาน ที่ครองใจคนทั่วโลก โดยปัจจุบัน Louis Vuitton อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทแม่อย่าง LVMH (Louis Vuitton Moet Hennessy) อาณาจักรสินค้าหรูที่มีบริษัทลูกอยู่ในหลากหลายวงการ

 

โควิดกระทบ แฟนคลับงดบินหิ้วกระเป๋าจากยุโรป

 

ช่วงโควิดที่ผ่านมา สินค้าในกลุ่มของหรูหรา ได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ยอดขายของสินค้ากลุ่มเครื่องหนังลักซ์ชูรี่ ทั้งกระเป๋า รองเท้า เข็มขัด ฯลฯ ร่วงฮวบถึง 23% ในปี 2020 ไม่เว้นแม้แต่หลุยส์ วิตตอง

ในสถานการณ์ปกติ แฟนๆ หลุยส์ทั่วโลกมักจะบินไปช็อปสินค้าแบรนด์หลุยส์ ในประเทศต้นกำเนิดอย่างฝรั่งเศสหรือประเทศอื่นๆ ในยุโรป เพราะคอลเล็กชันใหม่ๆ มักจะเปิดตัวในบ้านก่อน แล้วจึงกระจายมายังประเทศอื่นๆ การแพร่ระบาดโควิดจึงกระทบยอดขายในโซนยุโรปอย่างหนัก ร่วงลงถึงเกือบ 1 ใน 4 เทียบกับสถานการณ์ปกติ

อย่างไรก็ตาม ยอดขายในเอเชีย นอกจากจะไม่ลดลงแล้วกลับเติบโตขึ้นถึง 21% สาเหตุหลักคือการที่แฟนหลุยส์ วิตตองชาวเอเชีย พร้อมใจกันช็อปจากบ้าน ดันยอดขายในประเทศให้พุ่งกระฉูด และกลยุทธ์การใช้อินฟลูเอนเซอร์สวมใส่สินค้า แล้วโพสต์รูปลงโซเชียลมีเดีย ก็เป็นตัวกระตุ้นความต้องการซื้อได้จริง ในขณะที่ทุกคนกำลังเบื่อๆ เซ็งๆ กับการต้องล็อกดาวน์อยู่ที่บ้าน

ในเรื่องส่วนแบ่งตลาด หลุยส์ วิตตอง ยังเป็นรอง Gucci (กุชชี่) แบบหายใจรดต้นคอ โดยในปี 2020 ยอดขายของหลุยส์ วิตตองอยู่ที่ราว 2.5 พันล้าน ขณะที่กุชชี่อยู่ที่ 2.7 พันล้าน ซึ่งถ้านับย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2015 หลุยส์ วิตตองครองแชมป์มาตลอด เพิ่งโดนเบียดขึ้นมาในปี 2019 และ 2020 นี้เอง โดยข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์ กุชชี่ครองอันดับ 1 ที่ 17.4% ตามมาด้วย Louis Vuitton ในอันดับ 2 ที่ 15.1%

 

img_3979

ราคาสูงแค่ไหน แต่คนรักก็พร้อมใจซื้อ

 

หลุยส์ วิตตองเป็นแบรนด์ที่ไม่เคย และไม่จำเป็นต้องลดราคา ไม่ใช่เพราะ ไม่ง้อลูกค้า แต่เพราะแบรนด์ใส่ใจเป็นพิเศษ เรื่องคุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำสินค้าแต่ละชิ้น ดีไซน์สุดพิถีพิถัน และความใส่ใจในทุกขั้นตอนของการผลิต ทำให้แบรนด์กล้าตั้งราคาสูงเทียบเท่ากับคุณค่าที่มอบให้กับลูกค้า 

แม้จะไม่เคยจัดโปรโมชัน ไม่มีร้านค้า  Outlet(ร้านขายลดราคาสินค้าที่มีตำหนิ)  แต่ลูกค้าซึ่งเชื่อมั่นในคุณค่าและชื่อเสียงของแบรนด์ ก็พร้อมจ่ายอย่างเต็มที่ ให้กับแบรนด์ที่พวกเขารัก

advertisement

SPOTLIGHT