Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
คนแห่สั่งคนละครึ่งพลัส ผ่านแกร็บฟู้ดทุบล้านออเดอร์! ดันยอดร้านเล็กโต
โดย : ปาณิสรา สุทธิกาญจนวงศ์

คนแห่สั่งคนละครึ่งพลัส ผ่านแกร็บฟู้ดทุบล้านออเดอร์! ดันยอดร้านเล็กโต

12 พ.ย. 68
18:59 น.
แชร์

กระแสโครงการ “คนละครึ่งพลัส” มาแรงไม่หยุด โดยข้อมูลจากกระทรวงการคลัง วันที่ 12 พ.ย.68 เวลา 17.00 น. พบว่า เกิดยอดการใช้จ่ายในโครงการฯ ผ่าน Food Delivery Platform กว่า 542.1 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินที่รัฐบาลร่วมจ่าย 265.7 ล้านบาท และเงินที่ประชาชนจ่าย 276.4 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน แกร็บ แอปสั่งอาหารชื่อดัง ยังได้เปิดเผยว่าตอนนี้คนผู้ใช้งานแห่อาหารเดลิเวอรีผ่านผ่านแกร็บฟู้ด ทุบ 1 ล้านออเดอร์นับตั้งแต่เริ่มโครงการฯ ดันยอดขายให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปกติ โดยร้านที่ขายดีที่สุดมียอดเติบโตมากถึง 18 เท่า พบอินไซต์ผู้บริโภคนิยมใช้คนละครึ่งพลัสสั่งอาหารในมื้อเที่ยงมากที่สุด โดยมียอดสั่งเฉลี่ยต่อออเดอร์ประมาณ 80 - 120 บาท โดยเฉพาะอาหารจานเดียวอย่างส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว และไก่ทอด ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ขณะที่ชาไทยยังคงยืนหนึ่งเครื่องดื่มยอดนิยม และคนกรุงเทพฯ ครองแชมป์การใช้คนละครึ่งพลัสผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีมากที่สุด รองลงมาคือ ชลบุรี ขอนแก่น โคราช และเชียงใหม่

  • คนส่วนใหญ่นิยมสั่งอาหารเดลิเวอรีผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสด้วยมูลค่าประมาณ 80 - 120 บาทต่อออเดอร์ รองลงมาคือมูลค่า 120 - 150 บาทต่อออเดอร์ 
  • ออเดอร์ที่มีมูลค่าสูงสุด คือ เมนูสเต็กเนื้อ จากร้านเฮงเจริญ บุชเชอรี่ ในย่านลาดพร้าว ด้วยมูลค่ารวม 2,935 บาท
  • มื้อกลางวันคือช่วงเวลาที่มีคนสั่งอาหารเดลิเวอรีผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสมากที่สุด โดยเฉพาะระหว่างเวลา 11.00 - 12.00 น.
  • โครงการคนละครึ่งพลัสช่วยกระตุ้นให้มีความถี่ในการสั่งอาหารเดลิเวอรีเพิ่มขึ้น โดยพบว่า มีคนสั่งอาหารตั้งแต่ 2 ออเดอร์ต่อวันขึ้นไปเพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปกติ
  • เมนูอาหารที่คนนิยมสั่งผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสมากที่สุด คือ ส้มตำ รองลงมาคือ ก๋วยเตี๋ยว และ ไก่ทอด ขณะที่ ชาไทย ยืนหนึ่งในฐานะเครื่องดื่มยอดนิยม ตามมาด้วย ชาเขียวหรือมัทฉะ และโกโก้เย็น
  • ร้านอาหารที่มียอดขายเติบโตสูงสุดจากโครงการคนละครึ่งพลัส คือ “ร้านอยู่นี่ ตามสั่ง ข้าวผัด สเต็ก” ในกรุงเทพฯ โดยมียอดขายเติบโตถึง 18 เท่าจากช่วงปกติ จากยอดขายหลักร้อยกลายเป็นหลักหมื่นต่อวัน  
  • ขณะที่ “ร้านพาสต้า บ่?” ในย่านจรัญ 35 ทำสถิติสร้างยอดขายสูงที่สุดจากการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ด้วยยอดขายเฉลี่ยต่อวันสูงกว่าครึ่งแสนบาท 
  • 5 จังหวัดที่มีการสั่งอาหารเดลิเวอรีผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ ชลบุรี ขอนแก่น โคราช และเชียงใหม่

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า “ในเฟสนี้มีร้านอาหารที่ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ กับแกร็บเพิ่มขึ้นกว่า 50%  โดยเฉพาะร้านขนาดเล็กและสตรีตฟู้ด ขณะเดียวกันเราได้เห็นความคึกคักของฝั่งผู้บริโภคนับตั้งแต่วันแรก สะท้อนผ่านการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยมีผู้ใช้บริการสั่งอาหารผ่านโครงการคนละครึ่งพลัสกับแกร็บจนมากกว่า 1 ล้านออเดอร์ในช่วงเวลาไม่กี่วันนับตั้งแต่เริ่มโครงการฯ ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยดันยอดขายให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการฯ เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่า ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สะท้อนความสำเร็จของนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาลด้วย”

โดยโครงการคนละครึ่งพลัสไม่เพียงช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มผู้บริโภค และสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นให้กับร้านอาหาร แต่ยังส่งผลเชิงบวกไปถึงคนในอีโคซิสเต็มอย่างไรเดอร์ผู้จัดส่งอาหาร ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 13% นับตั้งแต่เริ่มโครงการฯ นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายวัตถุดิบสำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องยังได้รับอานิสงส์ไปด้วย

 

แชร์
คนแห่สั่งคนละครึ่งพลัส ผ่านแกร็บฟู้ดทุบล้านออเดอร์! ดันยอดร้านเล็กโต