มีข่าวออกมาว่า Starbucks ได้ติดต่อนักลงทุนที่สนใจธุรกิจในจีนของบริษัทเพื่อขายหุ้น โดยยังไม่มีการเปิดเผยสัดส่วนความเป็นเจ้าของที่บริษัทจะขายออกไป
โดยที่ผ่านมา Starbucks มีสาขาอยู่ในจีนมากสุดเป็นอันดับ 2 จากทั่วโลก
3 ประเทศที่ Starbucks มีสาขามากสุด (ปี 2024)
- อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา 16,935 สาขา
- อันดับ 2 จีน 7,594 สาขา
- อันดับ 3 เกาหลี 1,890 สาขา
โดยรูปแบบการบริหารของสาขาที่เปิดในจีนจะเป็นแบบบริหารเองทั้งหมด ต่างจากในสหรัฐอเมริกาที่เกือบครึ่งจะเป็นการขายสิทธิบริหาร และ เกาหลีที่จะเป็นการขายสิทธิบริหารล้วน
แต่ถึง Starbucks จะมีสาขาในจีนจำนวนมากและบริหารเองด้วย แต่บริษัทกลับมีสัดส่วนรายได้จากจีนอยู่ที่ 8% เท่านั้น
แปลว่ายอดขาย 100 บาทของ Starbucks มาจากในจีนแค่ 8 บาท
ที่ผ่านมาธุรกิจของ Starbucks ในจีนต้องเจอกับการแข่งขันรุนแรงจากร้านกาแฟท้องถิ่นทั้ง Luckin Coffee และ Cotti Coffee ที่เน้นขายกาแฟคุณภาพดี ราคาถูก
ส่วนกรณีการขายธุรกิจในจีนของแบรนด์อเมริกันแบบนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับทั้ง McDonald และ Yum! Brands เจ้าของ KFC, Pizza Hut ที่ขายหุ้นธุรกิจในจีนบางส่วนให้กับบริษัท private equity ไปช่วยบริหารจัดการต่อ
ความกังวลด้านการแข่งขัน และ ความไม่แน่นอนที่ธุรกิจร้านกาแฟใหญ่สุดของโลกอย่าง Starbucks ต้องเจอในวันนี้ ก็ทำให้ราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปีของบริษัท -6% ไปแล้ว
ที่มา: bloomberg.com, Starbucks earning release Q2 2025, statista.com