ล่าสุด บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ประกาศข่าวใหญ่พร้อมบุกตลาดตะวันออกกลาง เปิดตัวรีสอร์ทและสวนสนุก Disneyland แห่งที่ 7 ของโลก ที่นครอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นการประกาศในรอบ 15 ปีหลังทำดิสนีย์รีสอร์ทที่เซี่ยงไฮ้ จีนเมื่อ ปี 2010 ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการ ‘ดิสนีย์แลนด์ อาบูดาบี’ บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ จะร่วมมือกับบริษัท Miral ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทีม Disney Imagineers จะเป็นผู้นำด้านการออกแบบและวางแผนดำเนินงานทั้งหมด ส่วนบริษัท Miralจะเป็นผู้พัฒนา ก่อสร้าง และบริหารรีสอร์ท โดยคาดว่ารีสอร์ทแห่งนี้จะเปิดให้บริการได้ในช่วงต้นปี 2030 หรือในปี 5 ปีข้างหน้า ซึ่งหลังจากประกาศโครงการ ‘ดิสนีย์แลนด์ อาบูดาบี’ ไม่นานพบว่าหุ้น DIS พุ่งขึ้นทันทีถึง 10%
โดยรีสอร์ทนี้จะเป็นรีสอร์ทดิสนีย์แรกที่สร้างติดริมทะเล ที่จะตั้งอยู่บนเกาะยาส ซึ่งเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของอาบูดาบี เช่น SeaWorld, Warner Bros. World และ Yas Waterworld พื้นที่นี้อยู่ห่างจากตัวเมืองอาบูดาบีเพียง 20 นาที และใช้เวลาเดินทางจากดูไบประมาณ 50 นาทีเท่านั้น
จอช ดิอมาโร ประธานฝ่าย Disney Experiences ได้เล่าว่า ทุกครั้งที่ดิสนีย์สร้างสวนสนุกใหม่ สวนสนุกนั้นๆจะต้องสะท้อนถึงวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆทุกครั้ง โดย ‘ดิสนีย์แลนด์ อาบูดาบี’ จะเป็นสวนสนุกที่ล้ำสมัยที่สุดที่บริษัทเคยสร้างมา โดยจะมีการผสานแนวคิดเทคโนโลยีเข้ากับสถาปัตยกรรมแห่งอนาคตตะวันออกกลาง ปราสาทหลักในสวนสนุกก็จะเป็นโครงสร้างแก้วทรงเกลียว ที่แตกต่างจากปราสาทเทพนิยายแบบคลาสสิกตามฉบับของดิสนีย์ที่หลายคนคุ้นเคย "ดิสนีย์แลนด์ อาบูดาบี จะถูกดีไซน์แบบฉบับของ Disney และมีเอกลักษณ์แบบเอมิเรตส์"
นอกจากนี้ โรเบิร์ต ไอเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวอลต์ ดิสนีย์ กล่าวว่าการวางแผนเปิดสวนสนุกแห่งใหม่นี้ถือเป็น ช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นสำหรับบริษัท และ Disneyland Abu Dhabi จะยังคงต้นแบบของดิสนีย์แท้ๆ แต่ก็มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับของเอมิเรตส์ ส่วนสาเหตุที่เลือกสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เนื่องจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์เป็น “ประตูสำคัญสู่การท่องเที่ยว" ในแต่ละปีมีผู้โดยสารเดินทาง ผ่านสนามบินในเมืองอาบูดาบีและดูไบ มากกว่า 120 ล้านคน ทำให้เอมิเรตส์เป็นศูนย์กลางการบินระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด ส่วนอาบูดาบีเป็นทำเลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับดิสนีย์ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่พร้อมอยู่แล้ว โดยดิสนีย์ประเมินว่ามีผู้คนมากถึง 500 ล้านคน ในภูมิภาคนี้ที่สามารถเดินทางมาสวนสนุกได้อย่างสะดวก
ที่มา : Walt Disney CNN