แค่ประกาศปิดตัวไปเพราะพิษโควิด ก็ทำให้ชาวฮ่องกงและนักท่องเที่ยวหลายคนใจหายพอแล้ว แต่ล่าสุดมีข่าวว่า ภัตตาคารลอยน้ำสุดหรู "จัมโบ้ คิงดอม" อาจหายไปตลอดกาลเพราะ "จมดิ่งกลางทะเลจีนใต้"
หลายคนที่เคยไปเที่ยว "ฮ่องกง" อาจเคยมีโอกาสได้ไปลองกินข้าวที่ภัตตาคารกลางน้ำสุดหรู จัมโบ้ คิงดอม" (Jumbo Kingdom) แถวอ่าวอะเบอร์ดีนมาแล้ว ร้านนี้เคยเป็นร้านดังระดับแลนด์มาร์กของฮ่องกง เพราะเคยเป็นภัตตาคารกลางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้ต้อนรับคนดังแขกบ้านแขกเมืองมาแล้ว ตั้งแต่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 จนถึงดาราฮอลลีวูดอย่าง ทอม ครูซ
ร้านนี้เคยประกาศปิดตัวชั่วคราวเมื่อปี 2020 เพราะพิษโควิด ก่อนจะมาประกาศปิดตัวถาวร เมื่อเดือน พ.ค. ปีนี้ เพราะหานักลงทุนรายใหม่ไม่ได้ และรัฐบาลฮ่องกงก็ไม่ยอมเอาเงินภาษีประชาชนไปอุ้ม จึงทำให้เจ้าของต้องลากเรือออกไปจากอ่าวอะเบอร์ดีน ไปหาที่จอดใหม่เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา
แต่ดูเหมือนว่าแค่ "จากเป็น" จะยังไม่พอ ตอนนี้จัมโบ้ คิงด้อม "กำลังจากไปตลอดกาลไม่เหลือซาก" เมื่อมีรายงานข่าวในวันนี้ (21 มิ.ย.) ว่า "จัมโบ้ได้จมทะเลไปแล้ว" ในพิกัดบริเวณใกล้หมู่เกาะพาราเซล (Paracel) ที่อยู่ทางใต้ของเกาะไห่หนาน ประเทศจีน
บริษัท อะเบอร์ดีน เรสเตอรองต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ เจ้าของเรือ เปิดเผยว่า ระหว่างที่มีการลากจูงจัมโบ้ออกไปในทะเลจีนใต้เพื่อไปปลดประจำการ ก็เจอปัญหาสภาพอาการเลวร้ายจนเรืออัปปาง และจมลงสู่ทะเลในที่สุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา
ส่วนจะกู้ขึ้นมาได้หรือไม่นั้นน่าจะเป็นเรื่องง่าย เพราะทะเลบริเวณนั้นลึกมากถึงกว่า 1,000 เมตร และที่สำคัญก็คือ ขนาดที่ใหญ่มโหฬารของมัน นี่คือภัตตาคารลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งการจะกู้ภัตตาคารลอยน้ำ 3 ชั้น ขนาด 4,200 ตร.ม ที่จุคนได้มากกว่า 2,300 คน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายหรือคุ้มค่าที่จะกู้ซากขึ้นมา
มีความเป็นได้สูงว่า มันอาจจะกลายเป็น "ซากภัตตาคาร(จมน้ำ)ที่ใหญ่ที่สุด" ไปอยู่ในกลุ่มพวกเรืออัปปางจม (Shipwreck) เช่น เรือไททานิค หรือพวกเรือรบสมัยสงครามโลก ที่นอนจมก้นทะเลอยู่ทั่วโลกในวันนี้
ภัตตาคารลอยน้ำสไตล์เก๋งจีนขนาดมหึมา ถูกออกแบบให้เหมือนพระราชวังในยุคราชวงศ์หมิงของจีน มีความยาว 76 เมตร ขนาดพื้นที่ 4,200 ตร.ม บรรทุกผู้มากินอาหารค่ำได้ 2,300 คน เคยเป็นแลนด์มาร์กสำหรับคนมาเที่ยวฮ่องกง และอยู่คู่กับฮ่องกงมานานถึง 46 ปี ก่อนที่ผลประกอบการจะย่ำแย่ลงตั้งแต่ปี 2013 และมาเจอโควิดซ้ำ จนต้องปิดตัวลงถาวรในปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทผู้เป็นเจ้าของเคยระบุว่า ภัตตาคารแห่งนี้กลายเป็นภาระทางการเงินแก่บรรดาผู้ถือหุ้น เนื่องจากต้องใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ฮ่องกงในการตรวจสอบและซ่อมบำรุง แม้จะไม่สามารถเปิดให้บริการได้แล้วก็ตาม
ตอนนี้โลกโซเชียลต่างก็แสดงความเห็นอาลัยต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของจัมโบ้ หลายคนอวดโฉมรูปถ่ายกับเรือสมัยที่ยังเปิดให้บริการ แต่อีกหลายคนก็ไม่วายแซะว่า มันช่างเหมือนกับ "สภาพของฮ่องกงในปัจจุบัน" ที่กำลังเสื่อมถอยลงไปทุกวัน