นายกฯ ยินดี 10 ตัวประกันไทย ยัน “ปานปรีย์-ผบ.สูงสุด” รับกลับด้วยตัวเอง

25 พ.ย. 66

 

นายกฯ ยินดีครอบครัว 10 ตัวประกันไทย ยัน “ปานปรีย์-ผบ.สูงสุด” รับกลับด้วยตัวเอง หวัง 20 คนไทยที่เหลือได้รับการปล่อยตัวไวที่สุด 

วันที่ 25 พ.ย. 66 นาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการปล่อยตัวประกันคนไทย 10 คน จากเหตุการณ์สู้รบในอิสราเอลว่า เรื่องนี้ต้องขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานความมั่นคง นำโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านได้ติดตามมาอย่างละเอียด ที่บางช่วงขาดหายไปก็ทำงานอย่างหนัก เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ 

เมื่อวานนี้ตอนเย็นก็มีข่าวกลับไปกลับมาว่าจะมีการปล่อยตัวประกันของไทยหรือไม่ ในที่สุดก็มีการปล่อยออกมาหลาย 10 คน ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ผู้นำหลายองค์กรก็มาแสดงความยินดี ตนขอกราบขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย ถึงทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการที่จะทำให้ผู้บริสุทธิ์ออกมาได้อย่างปลอดภัย

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การทำงานของเรายังเลยตัวประกันอีก 20 คนที่ยังไม่ได้ออกมา เราต้องพยายามต่อไป ตนขอแสดงความยินดีกับญาติพี่น้องของครอบครัวทั้ง 10 คนด้วย ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่ลดละความพยายามที่จะนำตัว 20 คนออกมาให้ได้ ซึ่งขณะนี้ 10 ตัวประกันที่ออกมาแล้วก็ตรวจร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและคนที่ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะบินไปรับด้วยตนเอง พร้อมผู้บัญชาการทหารสูงสุด ส่วนจะกลับมาไทยวันไหนได้นั้น ตนยังไม่ทราบ ต้องขอเจรจาก่อน ทราบว่าตอนนี้มีการตรวจร่างกาย บางคนก็ยังบาดเจ็บ 

ส่วนที่ รมช.ต่างประเทศ ด้านการเมืองของประเทศอิหร่านเดินทางมาประเทศไทย มีความคืบหน้าด้านตัวประกันคนอื่นอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเรียนตามตรงว่าเป็นเรื่องของความมั่นคงและข้อมูลยังไม่อยากพูดออกไป ขอให้เห็นใจคน 20 คน รวมถึงญาติพี่น้องของพวกเขา ซึ่งข้อมูลมีความละเอียดอ่อน 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การเจรจาขอปล่อยตัวประกันได้ดำเนินการควบคู่กันไปตลอดเวลากับทุกหน่วยงานในหลายประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลไหนที่สามารถเปิดเผยได้ ก็จะพยายามเปิดเผยออกสู่สาธารณะ เหนือสิ่งอื่นใด 20 คนที่เหลือต้องออกมาให้ได้เร็วที่สุด 

อย่างไรก็ตาม มีความคาดหวังตลอดเวลาว่า 20 คนที่เหลือจะออกมาได้ ตนขอความกรุณาเราจะทำให้ได้เร็วที่สุด เยอะที่สุดเท่าที่สามารถทำได้  บุคคลที่ถูกจับขอให้ปลอดภัย ตรงนี้ก็จะเป็นการเดินคู่ขนานกันไปด้วย หากบาดเจ็บก็ต้องได้รับการรักษาดูแลอย่างเหมาะสม

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม