ผลตรวจแลปข้าว10ปีออกแล้ว! อธิบดีกรมวิทย์ฯ ยัน มีคุณค่าทางโภชนาการทางอาหารอยู่ครบ ไม่ต่างจากข้าวสารในท้องตลาด และยังไม่พบสารเคมี
นายแพทย์ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงผลการตรวจข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์ทางด้านสารเคมีตกค้าง การปนเปื้อนสารพิษ จากเชื้อรา และคุณภาพของข้าวด้านสารอาหารและอื่นๆด้วยระบบคุณภาพตามมาตรฐานISO/IEC17025
โดยก่อนการแถลงข่าวได้นำตัวอย่างข้าวมาจัดแสดง ซึ่งเป็นข้าวสารที่นำออกมาจากโกดังเพื่อนำมาส่งตรวจ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 และข้าวสารที่ซื้อมาจากร้านค้าทั่วไป ที่ประชาชนนำไปบริโภค
นายแพทย์ยงยศ ระบุว่า ห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีเครื่องมือการตรวจที่ทันสมัยที่สุดและ ยินดีให้สื่อมวลชน เข้าไปดูระบบ ปฏิบัติการ ที่นำตัวอย่างข้าวมาพิสูจน์ 2 กิโลกรัมและ 5 กิโลกรัม เพื่อให้มั่นใจห้องแลปของเรา
สำหรับการตรวจข้าว 2 ตัวอย่าง จากตัวแทนของกระทรวงพาณิชย์ที่กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ได้รับเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม
การตรวจจะตรวจทั้งหมดตามมาตรฐาน ISO 17025 จะตรวจทางด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อมคือดูลักษณะทั่วไป ของตัวอย่างที่ได้รับตรวจทั้ง 2 ถุง ทั้งตาเปล่า ดมและกล้องจุลทรรศน์กำลังขยาย 30 เท่าและ 50 เท่า และความปลอดภัย ทั้งสารที่เป็นพิษจากเชื้อราที่เกิดขึ้นได้บ่อยในพืชตระกูลข้าว สารออกซิน สและสารเคมีที่มีข้อกำหนดในการตรวจใช้ในการเกษตรทั้ง 250 ชนิด ซึ่งเราตรวจทั้งหมด และตรวจเรื่องของโลหะหนัก เพราะว่าเป็นมาตรฐานสินค้าบริโภค
และที่สำคัญคือ การตรวจคุณค่าสำคัญทางโภชนาการ ของข้าวสาร 2 ตัวอย่างที่ได้รับ จะกระทรวงพาณิชย์ เทียบเคียงกับข้าวอีก 2 ตัวอย่างที่ซื้อมาจากร้านค้าข้างนอก เพื่อให้เห็นชัดเจน ว่าเราไม่ได้ตรวจเฉพาะข้าวสาร 2 ตัวอย่างที่ได้รับมาเท่านั้น แต่ตรวจข้าวสารที่ประชาชนซื้อบริโภคในชีวิตประจำวันด้วย
ขั้นตอนการตรวจ จะต้องมีการเตรียม 4 ตัวอย่าง ข้าวที่ซื้อมาจากร้านค้าทั่วไปสีขาวๆ และข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์สีขาวน้อยกว่า โดยใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์สำหรับการทดสอบที่มีมูลค่าแพงที่สุดในประเทศ "จะเห็นว่าข้าวที่ได้รับจากกระทรวงพาณิชย์มีวัตถุ และสิ่งแปลกปลอมทั้งสิ่งมีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต เศษซากของมอด ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่มอดทั้ง 3 ชนิดจะพบบ่อยในข้าวสาร ขณะที่ข้าวสารเก่าที่ซื้อจากร้านค้า ก็มีมอดบนอยู่บ้าง แต่ไม่มาก"
ส่วนผลการตรวจหารเคมี และสารอื่น ๆ ผลปรากฏว่า การตรวจสารออกซิน "ไม่พบ" ในข้าวได้รับจากกระทรวงพาณิชย์
สารรมควันข้าวที่เก็บไว้ในโกดัง ก็ไม่พบ รวมถึงสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช 250 ชนิด ก็ไม่พบ รวมทั้งโลหะหนัก ตะกั่ว แคดเมียม ปรอท สารหนู ก็ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่มีอันตราย
ส่วนคุณค่าทางโภชนาการ จะเห็นว่าข้าวจาก 4 ตัวอย่างที่กระทรวงพาณิชย์ส่งให้ตรวจและข้าวที่ซื้อจากร้านค้าพบว่า "คุณค่าของโภชนาการไม่แตกต่างกัน" จึงเชื่อว่าข้าวยังสามารถให้คุณค่าทางอาหารได้ เพียงแต่ไม่ได้มาตรฐาน ของข้าวหอมมะลิที่ มอก.ระบุไว้ว่ ไม่อนุญาตให้มีสิ่งปนเปื้อน หรือวัตถุแปลกปลอมมาประกอบ (มีมอด)
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจวิตามินที่จะเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ก็จะเห็นว่าข้าวทั้ง 4 ตัวอย่าง มีคุณลักษณะที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ก็คือคุณค่าทางโภชนาการวิตามิน แร่ธาตุ เกลือแร่ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายนั้น "ไม่แตกต่างกัน" ทั้ง 4 ตัวอย่าง นี่คือสิ่งที่กรมวิทยาศาสตร์ได้ตรวจมาตลอดในช่วงระยะเวลา 10 วันที่ผ่านมา
ขณะที่นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่า ตอนนี้ข้าวในสต๊อกของรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าว มีอยู่ทั้งหมด 2 คลัง 15,013.24 ตัน คิดเป็น 145,590 กระสอบ ซึ่งเป็นข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลล็อตสุดท้ายแล้วซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการว่าข้าวเก็บมานานแล้ว และการเก็บนั้นก็มีค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นภาระของผู้ประกอบการที่จะต้องดำเนินการ ลมยาแล้วก็ดูแลรักษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ตรงนั้นไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ จึงเป็นที่มา ว่ารัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์อยากจะนำเข้ามาระบาย และนำเงินกลับมาคืนเป็นรายได้ของรัฐเอง และอยากให้สื่อมวลชนว่ามั่นใจว่า ข้าวไทยของเราต้องไปต่อ คาดว่าจะมีการประกาศขายระบายข้าวภายในสิ้นเดือนพ.ค.นี้
