ดักทาง พิชิต ชิงลาออก ก่อน ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้อง 40 สว.ไม่ช่วยอะไร เพราะความผิดสำเร็จแล้ว ยกคดี ก้าวไกลเทียบเคียง
วันที่ 20 พ.ค. 67 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ที่มีกลุ่ม สว. จำนวน 40 คน ร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนาย เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ นาย พิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เพราะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 นั้น
นายเศรษฐาอาจจะไม่ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ก็อาจเป็นได้ เพราะขนาด พรรคก้าวไกลยังให้เลื่อนตั้งหลายครั้ง ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปแล้วว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลนั้นล้มล้างการปกครอง เซาะกร่อนบ่อนทำลาย
แต่ถ้าดูในข้อเท็จจริงแล้ว นายเศรษฐาต้องถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่ เทียบเคียงสมัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายสมัคร สุนทรเวช หรือแม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่มาแล้ว แต่ถ้านายเศรษฐารอด รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น แสดงว่าฐานข้อมูลเปลี่ยน เพราะถ้าเอาคดีของพรรคก้าวไกลมาเทียบเคียง จะเห็นว่าหนักกว่าและศาลเคยมีคำวินิจฉัยไปแล้ว ก็ยังให้เลื่อนเลย แต่ถ้าเป็นจริงบ้านเมืองจะวิบัติ เพราะศาลต้องตัดสินทุกคนบนพื้นฐานเดียวกัน
ส่วนกระแสที่นายพิชิตอาจจะชิงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ ในวันที่ 23 พ.ค. นี้นั้น ถึงจะลาออกก็ไม่เป็นผล เพราะความผิดสำเร็จไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐาน ไม่ใช่ว่าเมื่อแต่งตั้งผิดหรือพลาดรัฐมนตรีคนนั้นก็ลาออกจากตำแหน่งแล้วให้นายกรัฐมนตรีก็ลอยตัว ตนคิดว่าถ้าเป็นเช่นนี้บ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้
“ผมคิดว่าการที่นายพิชิตปล่อยข่าวว่าจะลาออกนั้น เพื่อลดกระแสสังคม ซึ่งนักการเมืองใหม่จะต้องกล้าเผชิญกับความจริง และสู้กันด้วยพยานหลักฐาน เพราะตราบใดที่ศาลยังไม่ตัดสิน ทุกคนยังบริสุทธิ์ นี่คือบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ จึงอยากเป็นกำลังใจให้นายพิชิตและนายเศรษฐาให้สู้ไปตามความจริง อย่าหนีศาล เพื่อให้กลายเป็นบรรทัดฐานของบ้านเมือง ไม่ใช่ชิงลาออกหนีศาลแบบนี้สังคมจะบิดเบี้ยวได้”