สงคราม อิสราเอลขยายวงกว้าง คนไทยดับ 18 เจ็บ 9 เร่งช่วยตัวประกัน 11 ราย

10 ต.ค. 66

 

ก.ต่างประเทศ แจ้ง สงคราม อิสราเอล ขยายวงกว้าง พบ คนไทยดับเพิ่ม รวม 18  บาดเจ็บ 9 ราย เร่งประสานช่วยตัวประกัน 11 ราย ขณะที่ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจง ปมขายแรงงาน คือการย้ายงานไปในพื้นที่ปลอดภัย 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ต.ค. 66 ที่ กระทรวงการต่างประเทศ  นาง กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารสนเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะ โฆษก กระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบใน อิสราเอล และกรณีการช่วยเหลือ แรงงานไทยว่า 

สถานการณ์ อิสราเอลขณะนี้ยังมีความรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณ ฉนวนกาซายังคงมีการปะทะกันของทั้งสองฝ่าย ทาง อิสราเอลพยายามเข้าไปยึดพื้นที่ มีการตัดน้ำตัดไฟ ก่อนหน้านั้นได้มีการเคลื่อนย้ายประชาชนออกไปพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีการโจมตีพื่นที่อื่นๆ ขยายวงจาก ฉนวนกาซาไปยัง กรุงเทลอาวีฟ เมืองโดยรอบ และนครเยรูซาเลม ถือเป็นการโจมตีที่มีรัศมีกว้าง และมุ่งทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานของ อิสราเอล และ อิสราเอลก็พยายามโจมตีกลับคืนไปยังพื้นที่ปาเลสไตน์เช่นเดียวกัน 

ทั้งนี้กองทัพ อิสราเอลประกาศว่าสามารถกระชับพื้นที่เขตเมืองต่างๆ ได้สำเร็จ และสามารถอพยพคนออกจากเมืองรอบ ฉนวนกาซาได้แล้วทั้งหมด 15 เมืองจากทั้งหมด 24 เมือง แต่อาจยังมีผู้ก่อการร้ายหลงเหลืออยู่ในพื้นที่บ้าง ทั้งนี้ได้มีการระดมกำลังกองหนุนมากกว่า 3 แสนคน 

นาง กาญจนา กล่าวต่อว่า ส่วนผลกระทบต่อ แรงงานไทยนั้น ได้รับแจ้งจากนายจ้างว่ามี คนไทยเสียชีวิตเพิ่ม 6 ราย จากเมื่อวาน 12 ราย รวมเป็น 18 ราย ได้รับบาดเจ็บรวม 9 ราย และยังถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย ทั้งนี้ล่าสุดได้รับรายงานว่า สามารถอพยพ คนไทยที่อยู่ใกล้รัศมีไม่เกิน 4 กม. รอบ ฉนวนกาซา ออกพื้นที่ได้แล้ว 100 กว่าคน นอกจากนี้มีความพยายามอาศัยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าในการติดตามผู้สูญหาย และผู้ที่ยังติดต่อไม่ได้ระหว่างองค์กรเอกชนและตำรวจอิสราเอล เพื่อไปสำรวจและตรวจสอบบุคคล ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งรายชื่อที่ญาติไม่สามารถติดต่อได้ไปให้ 

ส่วนเรื่องที่ทูตมาเลเซียได้คุยกับทูตปาเลสไตน์นั้น ทางสถานทูตของเราก็ได้พยายามติดต่อกับฝ่ายปาเลสไตน์ที่อื่นด้วย ทั้งประเทศในภูมิภาค เพื่อหาหนทางเจรจายุติความรุนแรงครั้งนี้ ทั้งนี้นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ได้หารือทางโทรศัพท์กับ รมว.ต่างประเทศ อิสราเอล ช่วงค่ำวานนี้ โดยรมว.ต่างประเทศ อิสราเอลได้แสดงความเสียใจและให้คำมั่นว่าจะพยายามดูแลคนไทยใน อิสราเอลอย่างดีที่สุด และแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ขอให้ทางการ อิสราเอลช่วยตรวจสอบข้อมูล และยืนยันรายชื่อผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นทางการให้กับไทยด้วย 

นาง กาญจนา กล่าวว่า สำหรับที่มีข่าวว่า กลุ่มฮามาสบอกว่าถ้า อิสราเอลโจมตีกลับจะทำร้ายหรือสังหารตัวประกันนั้น เท่าที่หารือกับฝ่ายต่างๆ หวังว่า กลุ่มฮามาสไม่น่าจะทำร้ายคนต่างชาติ เพราะไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้อง และคงไม่อยากขยายความขัดแย้ง ทั้งนี้ต้องรอดูเหตุการณ์ต่อไป 

นาง กาญจนา กล่าวต่อว่า ขณะที่การดำเนินการของภาครัฐ ทางสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ จะส่ง แรงงานไทยกลับชุดแรก 15 คน กลับประเทศไทยในวันที่ 11 ต.ค. 66 ด้วยเครื่องบินพาณิชย์สายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 083 ถึงกทม.วันที่ 12 ต.ค. เวลา 10.35 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะมีการจัดเที่ยวกับเพิ่มเติม คาดว่าจะกลับประเทศไทยอีกครั้งในวันที่ 18 ต.ค. จำนวน 80 ที่นั่ง ล่าสุดมีผู้ประสงค์จะเดินทางกลับไทย 3,226 คน 

ด้าน น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กล่าวผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ว่า ขณะนี้ อิสราเอลอยู่ในสภาวะสงคราม โดยมีการแบ่งโซนพื้นที่ดูแล ดังนั้นการช่วยเหลือประชาชนทั้งหมดก็จะช่วยเหลือทีละโซน ซึ่งเราได้ประสานกับทางการ อิสราเอลเป็นระยะๆ ว่าขอให้ช่วยนำ คนไทยออกมา เขาพยายามจัดลำดับไปตามโซนที่อันตรายที่สุดก่อน ขอวิงวอนทุกฝ่ายเข้าใจข้อจำกัดนี้ด้วย 

อย่างไรก็ตามยืนยันว่า คนไทย 15 คนกลุ่มแรกจะขึ้นเครื่องเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 11 ต.ค. 66 แม้ว่าหลายคนจะไม่มีเอกสารติดตัวมา แต่เราจะไปตั้งเคาท์เตอร์ที่สนามบิน เพื่อออกเอกสารเดินทางให้ ยืนยันว่าเราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ 15 แรงงานไทยชุดนี้ขึ้นเครื่องกลับให้ได้ ยกเว้นเหตุสุดวิสัยสนามบินปิด รวมถึงวันที่ 18 ต.ค. ได้เตรียมเครื่องบินพาณิชย์ไว้อีก 80 ที่นั่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าสถานทูตจะดูแล แรงงานไทยทุกคน ทั้งที่เดินทางมาแบบถูกกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมาย เราพยายามหาเที่ยวบินพาณิชย์อื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้คนไทยกลับประเทศได้เร็วที่สุด แม้ว่าบางเที่ยวบินจะจองได้แค่ 1 หรือ 2 ที่นั่ง 

เมื่อถามว่า มีกระแสว่า แรงงานไทยบางคนถูกบังคับให้ใช้แรงงานต่อ แม้สถานการณ์ตึงเครียด และมีรายงานเรื่อง การขายแรงงานต่อให้นายจ้างอื่นๆ หรือไม่ น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า ตนได้ติดต่อทางการ อิสราเอลเรื่องนี้แล้ว ทราบว่าแรงงานที่ถูกนำออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่ง อิสราเอลเป็นประเทศเล็กๆ จึงนำไปฝากไว้กับ คิบบุตซ์ หรือ โมชาฟ ในพื้นที่ปลอดภัย ถือว่าเป็นการย้ายงานไปในพื้นที่ปลอดภัย นายจ้างก็จะรับคนงานเหล่านี้ไปทำงาน เหมือนกับการย้ายสถานที่ทำงาน ส่วนที่แรงงานรู้สึกว่าเพิ่งหนีภัยสงครามมา ทำไมต้องมาทำงานเลย สถานทูตก็ได้แสดงความห่วงกังวล ขอให้มีช่วงพัก หรือช่วงเบรกก่อน ตนก็จะพยายามดำเนินการต่อไป ทางฝ่ายอิสราเอลถือว่าเป็นการให้แรงงานได้ย้ายงาน และแรงงานสามารถมีรายได้ดำรงชีพอยู่ใน อิสราเอลต่อ 

เมื่อถามถึงการดูแลร่างผู้เสียชีวิต น.ส.พรรณนภา กล่าวว่า ตอนนี้ทางการ อิสราเอลขอให้ช่วยเหลือผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาจติดอยู่ในพื้นที่อันตรายก่อน เพราะตอนนี้กำลังพลของ อิสราเอลที่ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ลดลง เนื่องจากถูกนำไปเป็นทหารหมดแล้ว ในส่วนของผู้เสียชีวิตยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพราะต้องใช้เวลาทำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นผู้เสียชีวิตจากภัยสงคราม จะได้รับการดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์จากทางการ อิสราเอล เพราะตอนนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งประเทศมากกว่า 900 คนแล้ว ตนคิดว่ายังไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศได้เร็ว ทั้งนี้ทางสถานทูตพยายามจะเร่งอย่างเต็มที่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส