“ประยุทธ์” ไม่สนใจพรรคอื่นเริ่มจับขั้ว ชี้ยังไม่รู้เลยใครได้เท่าไหร่ ทุกอย่างต้องประเมินสถานการณ์ รับถ้า รทสช.ได้มาก ก็สบายกว่า ไม่ขอตั้งเป้าได้กี่ที่นั่ง รำคาญเกทับกันไปมา รอความเป็นจริงอยู่ที่ประชาชน ลั่นไทยต้องไปต่อ ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วทำได้รักษาความสงบ
เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2566 ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.2 เขตดินแดง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางมาพร้อมกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และแกนนำพรรค เพื่อมายื่นสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯของพรรค
โดย พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งตอบคำถามเรื่องการจัดเรียงลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อย่างไรบ้าง ว่า ไม่มีกลุ่ม เป็นการเรียงตามลำดับ โดยดูจากผลการปฏิบัติหน้าที่ทำงานร่วมกัน คิดว่าก็ทำมากันทั้งหมด
เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ตั้งเป้ากี่ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไปพูดทำไมพูดไปเกทับกันไปมา รอความเป็นจริงนะจ๊ะ อยู่ที่ประชาชน เข้าใจกันก็จบ ใครได้ไม่ได้ก็ว่ากันอีกที โอกาสทำการเมืองก็มีเยอะแยะ
เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจว่าอย่างไรก็เป็นรัฐบาลต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถามว่าตั้งเป้าไหม ไปถามทุกพรรคในที่นี้ก็ตั้งเป้าทั้งหมด ไม่ตั้งเป้าจะมาทำไม ถามแปลก ๆ
ส่วนกรณีมีบางพรรคการเมืองเริ่มจับขั้วกันแล้วนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่รู้ ไม่สนใจ ใครจับใคร ยังไม่ได้จับ จะจับได้อย่างไร ไม่รู้ใครได้เท่าไหร่ จริงไหม ทุกอย่างต้องประเมินสถานการณ์
ถามย้ำว่า แสดงว่าเข้าได้กับทุกพรรคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน แล้วแต่สมาชิกเขาว่าไง ต้องถามพวกเขา ถามสมาชิกคนเดียวได้ที่ไหน ต่างคนต่างฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน ถามไปแล้วไงว่า ถ้าเกิดเราได้มาก เราก็สบายกว่า ไม่งั้นก็ไปหาใหม่
เมื่อถามว่า ถ้ายังไม่มีคนชวนจับขั้ว แต่มีคนเทียบเชิญ หรือพูดคุยบ้างแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่พูดกับใครอยู่แล้ว ทำพรรคตัวเองให้ดีสุด พูดหลายอย่าง บ้านเมืองเรา ไม่เดินต่อได้อย่างไร ใช้คำว่าประเทศไทยต้องไปต่อ ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มีบทเรียนมาแล้ว แล้วจะให้มันกลับมาแบบเดิมหรือ เป็นอย่างนั้นเหมือนที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องไปไหน ทำอะไรให้ใครได้เลย ทำไม่ได้ เพราะทะเลาะกัน ทุกฝ่าย ทุกคนที่เกิดขึ้น มีอนาคต ตายดับสิ้นกันหมด พูดแค่นั้น ต้องทำให้บ้านเมืองสงบตลอด ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าทำได้
ส่วนบรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เป็นอีกแบบ ที่ผ่านมาเป็นทหารมาทั้งชีวิต ทหารไม่เหมือนกัน ทหารมีกรรมการพิจารณา ให้คุณให้โทษ ทุกอย่าง แต่มานี่ก็โอเค จะได้เข้าถึงกระบวนการทางการเมือง เห็นภาพมีขั้นตอนนะจ๊ะ สำคัญหลังจากตรงนี้ไปแล้ว ทำดีเหมือนเดิมหรือไม่ อยู่ที่ใจ อยู่ที่การกระทำ อยากให้การกระทำอดีต ปัจจุบัน อนาคตไปด้วย
เมื่อถามว่าอารมณ์ทางการเมืองขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง เห็นเมื่อวาน (3 เม.ย.) วันสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต มีการร้องเพลง ปลุกใจ อยากมีอารมณ์ร่วม แสดงว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้วหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อารมณ์เดิม เป็นคนอารมณ์ดีอยู่แล้ว ไม่ใช่คนขี้โมโห เว้นแต่บางอย่างยั่วอารมณ์อยู่นั่นแหละ
