
12 ธันวาคม 2568 สหรัฐฯ ดำเนินการคว่ำบาตรเรือเพิ่มอีก 6 ลำ อ้างว่าบรรทุกน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา หลังยึดเรือน้ำมันใกล้ชายฝั่งเวเนซุเอลาไปเมื่อวานนี้
การคว่ำบาตรไม่ได้จำกัดเพียงแค่เท่านั้น แต่ยังมีการคว่ำบาตรต่อธุรกิจที่ญาติของประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโรเป็นเจ้าของอีกด้วย ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่าเป็นระบอบอันไม่ชอบธรรม
โฆษกทำเนียบขาว แคโรไลน์ เลวิตต์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเรือลำที่ถูกจับชื่อว่า Skipper เป็นเรือที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันผิดกฎหมาย และจะถูกส่งไปที่ท่าเรือสหรัฐฯ ต่อไป
ด้านเวเนซุเอลาเรียกการยึดเรือน้ำมันของสหรัฐฯครั้งนี้ว่าเป็น “โจรสลัดสากล”
เหตุการณ์นี้ ทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และมาดูโรเพิ่มยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยก่อนหน้านี้ ความตึงเครียดนำไปสู่การโจมตีเรือเวเนซุเอลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน อีกทั้งไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เรือรบสหรัฐฯ ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ภูมิภาคอเมริกาใต้ด้วย
รัฐบาลทรัมป์กล่าวหาเวเนซุเอลาว่าช่วยขนส่งยาเสพติดเข้าสู่สหรัฐฯ ขณะเดียวกัน เวเนซุเอลาซึ่งมีแหล่งน้ำมันสำรองขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กล่าวหาว่าสหรัฐฯ ต้องการขโมยทรัพยากรของตน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมามาดูโรให้คำมั่นว่า เวเนซุเอลาจะไม่มีทางยอมเป็น “อาณานิคมน้ำมัน” ของสหรัฐฯ
ในการแถลงเมื่แวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการ 2 ประการคือ: หยุดการขนส่งยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ และดำเนินการคว่ำบาตร แต่ไม่ได้ระบุว่า สหรัฐฯ มีแผนการจะยึดเรือขนส่งน้ำมันเวเนซุเอลาเพิ่มหรือไม่
“เราจะไม่นิ่งเฉยแล้วแค่ยืนดูเรือที่คว่ำบาตรไปแล้วแล่นขนน้ำมันตลาดมืดเฉย ๆ หรอก กระบวนการนี้จะเป็นเชื้อเพลิงให้พวกก่อการร้ายค้ายาเสพติด ระบอบอันชั่วร้ายและผิดกฎหมายทั่วโลก“ เลวิตต์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เลวิตต์กล่าวว่าจะยึดน้ำมันที่เรือ Skipper ขนส่งเอาไว้ หลังผ่านกระบวนการทางกฎหมายตามขั้นตอน และประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้กังวลเลย ต่อประเด็นที่ว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดีเมียร์ ปูตินได้โทรหามาดูโรคืนก่อนหน้า เพื่อเสนอการสนับสนุนจากรัสเซีย “ท่ามกลางแรงกดดันจากภายนอกที่มากขึ้น”
ด้านสก็อตต์ เบสเซนต์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ชี้ว่า การคว่ำบาตรธุรกิจของหลานชาย 3 คนของภรรยามาดูโร รวมถึงเรือและธุรกิจอีกจำนวนหนึ่ง จะช่วยแก้ปัญหาการควบคุม “อันโหดร้ายและเป็นเผด็จการ” ของผู้นำเวเนซุเอลา
เบสเซนต์กล่าวในโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า รัฐบาลของทรัมป์กำลัง “เอาผิดระบอบการปกครองและผู้สมรู้ร่วมคิด และบริษัทที่ก่ออาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง“
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำเนียบขาวปล่อยวิดีโอคลิปหนึ่งออกมา ฉายภาพทหารในชุดลายพรางโรยตัวลงจากเฮบิคอปเตอร์ลงไปที่ดาดฟ้าเรือ Skipper ชักอาวุธออกมาและเดินไปรอบๆ ดาดฟ้าเรือ
รัฐบาลเวเนซุเอลาประณามการกระทำครั้งนี้อย่างรุนแรง กล่าวว่าสหรัฐฯ ลักพาตัวลูกเรือและขโมยเรือไป
“พวกเขาเป็นผู้นำยุคใหม่เลย” มาดูโรกล่าว “ยุคแห่งโจรสลัดและการปล้นสะดมเรือในแคริบเบียน“
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของเวเนซุเอลา ดิโอสดาโด กาเบโย เรียกสหรัฐฯ ว่าเป็น “ฆาตกร, หัวขโมย, โจรสลัด” และกล่าวว่า นี่คือวิธีการที่สหรัฐฯ ใช้ก่อสงครามกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
สำนักข่าว CBS รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้คว่ำบาตรเรือ Skipper ไปแล้วในปี 2565 ในข้อหาขนส่งน้ำมัน สร้างรายได้ให้กลุ่มติดอาวุธอิซบอลเลาะห์ และกองกำลังพิทักษ์การปฏิวีติอิหร่าน หน่วยรบพิเศษคุดส์
ก่อนการโจมตีไม่กี่วัน กองทัพสหรัฐฯ ได้เพิ่มกองกำลังในทะเลแคริบเบียน ติดกับพรมแดนเวเนซุเอลาทางเหนือ เพียงหนึ่งวันก่อนมีการยึดจับเรือ การเพิ่มกองกำลังมีกแงทหารหลายพันคน และเรือ USS GErald Ford ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในโลก ได้จอดอยู่ในระยะโจมจีต่อเวเนซุเอลา