เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐฯ เข้าใกล้เวเนซุเอลา ทรัมป์เผยมาดูโรคงอยากคุย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวานนี้ (16 พฤศจิกายน 68) ว่า สหรัฐฯ อาจจะหารือกับประธานาธิบดีนิโกลาส มาดูโรของเวเนซุเอลา ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวทางการทูต ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็เคลื่อนไหวทางทหารไปพร้อม ๆ กัน โดยการส่งกองเรือรบและกำลังพลไปใกล้เวเนซุเอลาแล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้ให้รายละเอียดของการหารือกับมาดูโร เขาเพียงพูดว่า เวเนซุเอลาน่าจะอยากคุย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นควบคู่กับการที่รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดปฏิบัติการโจมตีทางทหารหลายระลอกต่อเรือที่ต้องสงสัยว่าลักลอบขนยาเสพติด โดยกองทัพเรือสหรัฐออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การมาถึงของเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด พร้อมเรือรบลำอื่น ๆ ในอเมริกาใต้ ถือเป็นจุดสำคัญของปฏิบัติการที่รัฐบาลทรัมป์ย้ำว่าเป็นภารกิจปราบปรามยาเสพติด แม้หลายฝ่ายจะมองว่าเป็นแรงกดดันเชิงยุทธศาสตร์ที่ทวีความเข้มต่อประธานาธิบดีมาดูโร แห่งเวเนซุเอลาก็ตาม
เมื่อนักข่าวถามเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทรัมป์หมายความว่าอย่างไรที่กล่าวว่ามาดูโรต้องการเจรจา ทรัมป์ก็ตอบกลับว่า คุณลองบอกผมดูสิ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทรัมป์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ผมคุยกับใครก็ได้ ก่อนทิ้งท้ายว่า เดี๋ยวคอยดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
เรือบรรทุกเครื่องบินพร้อมแล้วในแคริบเบียน
สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์ ฟอร์ด ถือเป็นเรือรบขนาดใหญ่ ถูกส่งมาเพื่อปฏิบัติภารกิจที่มีชื่อว่า “Operation Southern Spear” พร้อมทั้งเรือรบอีกกว่า 10 ลำ และกำลังพลอีกราว 12,000 นาย
การมาถึงของเรือลำดังกล่าวมีขึ้น ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีเรือขนาดเล็กที่ถูกกล่าวหาว่า ลักลอบขนยาเสพติด
นับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ การโจมตีของสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิกตะวันออก มีทั้งหมด 21 ครั้งแล้ว และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 83 ราย
พลเรือตรี พอล แลงซิโลตตา ผู้บัญชาการกองเรือโจมตี ระบุว่า การเสริมกำลังครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองเรือรบของสหรัฐที่ประจำการอยู่แล้วในภูมิภาค เพื่อปกป้องความมั่นคงและความมั่งคั่งของประเทศจากการก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในซีกโลกตะวันตก
ขณะที่พลเรือเอก อัลวิน โฮลซี ผู้บัญชาการที่รับผิดชอบพื้นที่แคริบเบียนและลาตินอเมริกา กล่าวในแถลงการณ์ว่า กองกำลังสหรัฐพร้อมรับมือกับภัยคุกคามข้ามพรมแดนที่ต้องการบ่อนทำลายเสถียรภาพของภูมิภาคเรา
รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่า การเสริมกำลังในภูมิภาคดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งการหลั่งไหลของยาเสพติดเข้าสู่สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานชิ้นใดที่สนับสนุนเหตุผลว่าผู้ที่ถูกสังหารคือผู้ก่อการร้ายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ จะขยับขยายจากทะเลมาสู่บนบก โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาตัดสินใจแล้วว่าจะทำอย่างไรกับเวเนซุเอลาดี
