Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ทรัมป์โวจีนจะไม่บุกไต้หวันในสมัยของเขา เผยสี จิ้นผิงรู้ถึงผลที่จะตามมา
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ทรัมป์โวจีนจะไม่บุกไต้หวันในสมัยของเขา เผยสี จิ้นผิงรู้ถึงผลที่จะตามมา

3 พ.ย. 68
10:56 น.
แชร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการ CBS 60 Minutes ที่ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้รับรองกับเขาว่า รัฐบาลปักกิ่งจะไม่พยายามรวมไต้หวันเข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ ในขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ยังคงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะพวกเขารู้ถึงผลที่จะตามมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากที่สองผู้นำมหาอำนาจพบปะกันที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการประชุมมุ่งเน้นไปที่ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มากกว่าที่จะเป็นเรื่องความมั่นคงทางทหาร ซึ่งทรัมป์เผยว่า ข้อพิพาทเรื่องการรุกรานไต้หวัน "ไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นหัวข้อเลยด้วยซ้ำ" เมื่อเขาพบกับสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้

เมื่อถูกถามในการสัมภาษณ์ว่า เขาจะสั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการหรือไม่ หากจีนเคลื่อนไหวทางทหารต่อไต้หวัน ทรัมป์ก็ปฏิเสธที่จะตอบอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ได้รักษา นโยบาย "ความคลุมเครือเชิงยุทธศาสตร์" (strategic ambiguity) ต่อไต้หวันมาโดยตลอด ซึ่งพยายามที่จะไม่เผยท่าทีว่า สหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือไต้หวันอย่างไร หากถูกรุกรานจากจีนจริง

แม้คำพูดของทรัมป์จะฟังดูเป็นเชิงข่มขู่ที่ระบุว่า “สี้ จิ้นผิงรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น” แต่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะอธิบายว่าเขาหมายถึงอะไรในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ อ้างว่าเขาไม่สามารถเปิดเผยความลับของสหรัฐฯ ได้ แต่อีกฝ่ายรู้ดีอยู่แล้ว" อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ มีความกังวลมานานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จีนจะใช้กำลังทหารต่อไต้หวันตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ พระราชบัญญัติความสัมพันธ์ไต้หวัน (Taiwan Relations Act) ปี 1979 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ควบคุมความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับเกาะแห่งนี้ ไม่ได้กำหนดให้ สหรัฐฯ ต้องเข้าแทรกแซงทางทหารหากจีนรุกราน แต่กำหนดให้เป็นนโยบายของสหรัฐฯ ที่จะต้องสร้างความมั่นใจว่าไต้หวันมีทรัพยากรในการป้องกันตนเอง และป้องกันการเปลี่ยนแปลงสถานะทางการเมืองแต่ฝ่ายเดียวโดยรัฐบาลปักกิ่ง

ผู้นำจีนพูดจริงไหม ใครยืนยันได้บ้าง?

หลิว เผิงอวี่ โฆษกสถานทูตจีนประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ไม่ได้ตอบคำถามจากสำนักข่าว AP ว่า ทรัมป์ได้รับการรับรองใด ๆ จากสี จิ้นผิง หรือเจ้าหน้าที่จีนเกี่ยวกับไต้หวันหรือไม่ แต่เขาได้ยืนยันในแถลงการณ์ ระบุว่า จีน "จะไม่มีวันอนุญาตให้บุคคลหรือกำลังใด ๆ แยกไต้หวันออกจากจีนด้วยวิธีการใด ๆ ปัญหาไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน และเป็นแกนหลักของผลประโยชน์หลักของจีน วิธีการแก้ไขปัญหาไต้หวันเป็นเรื่องของประชาชนชาวจีนเอง และมีเพียงประชาชนชาวจีนเท่านั้นที่สามารถตัดสินใจได้" 

ขณะที่ทำเนียบขาวก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลาที่สี จิ้นผิง หรือเจ้าหน้าที่จีนได้แจ้งให้ทรัมป์ทราบว่า การดำเนินการทางทหารต่อไต้หวันจะไม่เกิดขึ้น ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

การสัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ถือเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของทรัมป์ในรายการนี้ นับตั้งแต่ที่เขาได้ ยุติคดีฟ้องร้องกับ CBS News เกี่ยวกับการสัมภาษณ์รองประธานาธิบดีในขณะนั้นคือ กมลา แฮร์ริส ทรัมป์กล่าวหาว่า การสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกตัดต่ออย่างหลอกลวงเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพรรคเดโมแครตก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 ในตอนแรกทรัมป์เรียกร้องค่าเสียหาย $10,000 ล้าน ก่อนที่จะเพิ่มการเรียกร้องเป็น $20,000 ล้าน แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจไม่ดำเนินคดีต่อ

จีนไม่บุก แต่กดดันไม่หยุด

ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อของไต้หวัน ประกาศกร้าวว่า ไต้หวันไม่ต้องการแนวทางหนึ่งประเทศ สองระบบของจีน เพราะต้องการยึดมั่นในเสรีภาพและประชาธิปไตย พร้อมมุ่งมั่นที่จะปกป้องตัวเอง โดยปฏิเสธความพยายามล่าสุดของรัฐบาลปักกิ่งที่จะให้เกาะแห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของจีน แลกกับการไม่โดนบุกรุกทางทหาร

นายไล่ ชิงเต๋อ ซึ่งถูกเพ่งเล็งจากรัฐบาลจีนในฐานะ“ผู้แบ่งแยกดินแดน” ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า “การยอมรับข้อเรียกร้องของผู้รุกรานและการละทิ้งอำนาจอธิปไตยย่อมไม่อาจนำไปสู่สันติภาพได้ ดังนั้น เราต้องธำรงไว้ซึ่งสถานะเดิมด้วยศักดิ์ศรีและความมุ่งมั่น คัดค้านการผนวกดินแดน การรุกราน และการบังคับให้เกิดการรวมชาติอย่างเด็ดขาด”

เขาเคยประกาศว่า “การที่ชาวไต้หวันปกป้องอธิปไตยและธำรงไว้ซึ่งวิถีชีวิตประชาธิปไตยและเสรีภาพของตน ไม่ควรถูกมองว่าเป็นการยั่วยุ การลงทุนด้านการป้องกันประเทศคือการลงทุนเพื่อสันติภาพ” พร้อมให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารเป็นร้อยละ 5 ของ GDP ภายในปี 2030 เพื่อเสริมสร้างการป้องกันของเกาะให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในการรับมือกับภัยคุกคามจากจีน

จนถึงขณะนี้ ไต้หวันได้รับรถถัง M1A2T ที่สั่งซื้อไปแล้ว 80 คัน จากทั้งหมด 108 คันจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนระดับนานาชาติและซัพพลายเออร์อาวุธที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน แม้ว่าไต้หวันจะไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับสหรัฐฯ

แชร์
ทรัมป์โวจีนจะไม่บุกไต้หวันในสมัยของเขา เผยสี จิ้นผิงรู้ถึงผลที่จะตามมา