กาซายังไม่สงบแม้หยุดยิง ทรัมป์ขู่จัดการฮามาส หากยังไม่หยุดเข่นฆ่าปชช.
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ (16 ตุลาคม 2568) ว่า ถ้าหากฮามาสยังคงเข่นฆ่าผู้คนในกาซาต่อไป ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการส่งกำลังเข้าไปและสังหารฮามาส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คำขู่ของทรัมป์มีขึ้นเพียง 3 วัน หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาได้รับการลงนาม ท่ามกลางรายงานว่า นักรบฮามาสเริ่มกลับเข้ามาปรากฏตัวและยึดครองฉนวนกาซาอีกครั้ง และพุ่งเป้าทำร้ายชาวปาเลสไตน์ คนที่พวกเขากล่าวหาว่า สมรู้ร่วมคิดกับอิสราเอลในช่วงสงคราม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังโพสต์ข้อความข่มขู่ในโซเชียลมีเดีย ทรัมป์ก็ออกมาชี้แจงในภายหลังว่า ที่เขาโพสต์ข้อความไปไม่ได้หมายความว่า กองทัพสหรัฐฯ จะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ยังมีกลุ่มอื่นที่อยู่ใกล้ และพวกเขาจะเข้าไป
อย่างไรก็ตาม ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์เริ่มใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าวมากขึ้น โดยส่งสัญญาณว่า อาจอนุญาตให้กองทัพอิสราเอลกลับมาเปิดฉากโจมตีอีกครั้ง หากฮามาสไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง โดยเขากล่าวกับเจ็ค แทปเปอร์ ผู้สื่อข่าวของ CNN เมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สงครามจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่เขาเอ่ยปากพูดแค่คำเดียว
อิสราเอลได้กล่าวหาฮามาสว่าละเมิดข้อตกลง จากการที่กลุ่มติดอาวุธส่งศพตัวประกันกลับคืนอย่างล่าช้า แม้ในช่วงแรกทรัมป์จะแสดงท่าทีไม่ชัดเจนต่อเหตุโจมตีของฮามาสต่อชาวปาเลสไตน์หลังการหยุดยิง แต่ต่อมาเขาก็เตือนว่า ฮามาสจำเป็นต้องปลดอาวุธ มิเช่นนั้นเราจะเป็นฝ่ายปลดอาวุธเขาเอง
ตามรายงานจากแหล่งข่าวในอิสราเอล ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเมื่อวันพฤหัสบดี แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงรายละเอียดของการสนทนา หลังการพูดคุยครั้งนั้น ทรัมป์กล่าวในห้องทำงานรูปไข่ว่า เขามั่นใจว่าข้อตกลงหยุดยิงจะยังคงอยู่ต่อไป
หุ่นยนต์ระเบิดถูกฝังอยู่ทั่วในกาซา
ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสทำให้ประชาชนหลายพันคนกลับเข้าสู่บ้านของตนในเมืองกาซาอีกครั้ง เพื่อประเมินความเสียหาย ค้นหาสิ่งของที่ยังพอเก็บกู้ได้ และเริ่มต้นการสร้างชีวิตขึ้นใหม่
อย่างไรก็ตาม ในหลายพื้นที่ ชาวบ้านต้องกลับว่าพบชุมชนที่ราบเป็นหน้ากลอง และยังพบว่ามี “หุ่นยนต์ระเบิด” จำนวนหนึ่งหลงเหลืออยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง
องค์กร Euro-Med Human Rights Monitor รายงานเมื่อวันที่ 1 กันยายนว่า การใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวของอิสราเอลได้เพิ่มขึ้นสูงสุด ในช่วงก่อนการหยุดยิง โดยระบุว่าพวกมันถูกใช้ในการทำลายบ้านเรือนราว 300 หลังต่อวันในเมืองกาซาและญะบาลิยะ
หุ่นยนต์เหล่านี้เป็นยานหุ้มเกราะติดระเบิด ที่ทหารอิสราเอลบรรจุวัตถุระเบิดไว้ภายใน ก่อนลากเข้าไปยังพื้นที่เป้าหมายด้วยรถหุ้มเกราะ
เมื่อทหารถอยออกมาแล้ว พวกเขาจะจุดชนวนระเบิดจากระยะไกล ส่งผลให้ทุกสิ่งในบริเวณนั้นถูกทำลายราบ
มาห์มูด บาซาล โฆษกหน่วยป้องกันภัยพลเรือนของเมืองกาซา กล่าวกับอัลจาซีราว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับชนิดของระเบิดที่ใช้ หรือว่ามีการปรับเปลี่ยนชนิดของมันหรือไม่ แต่เขายืนยันว่า พลังทำลายล้างของมันรุนแรงมาก โดยอธิบายว่า “รัศมีสังหาร” ของหุ่นยนต์เหล่านี้สามารถครอบคลุมได้ไกลถึง 500 เมตร
