
แม้ว่าปีนี้อาจไม่ใช่ปีที่ดีของตลาดคริปโตในแง่ของราคา แต่ถือเป็นปีที่ได้เห็นพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีรวมถึงกฎระเบียบใหม่ การเข้าถึงของสถาบันการเงินต่างๆ ส่วนในปี 2026 สำนักวิเคราะห์ต่างๆได้มองถึง Narrative ใหม่ที่น่าสนใจไว้ตามนี้
ปี 2025 นี้ได้เกิดเทรนด์ใหม่ขึ้นในโลกคริปโตคือการเปิดแพลตฟอร์มสำหรับการคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับตลาดการลงทุน เช่น คาดการณ์การตัดสินใจนโยบายดอกเบี้ยของ FED คาดการณ์ทิศทางราคาสินทรัพย์ต่างๆ โดยแพลตฟอร์มการลงทุนในโลกของ Web2 ได้เพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าวนี้ลงไป ขณะที่แพลตฟอร์ม Web3 เองก็เติบโตด้านการใช้งานและจำนวนธุรกรรมมากขึ้น แม้กระทั่งสำนักข่าวอย่าง CNN ยังเพิ่มการใช้งานของแพลตฟอร์ม Prediction Market ลงไป
แนวโน้มของ Prediction Market ที่กำลังขยายตัวทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเส้นแบ่งระหว่างการคาดการณ์กับการพนันมันมีความหนาหรือบางแค่ไหน
ตลาดกู้เงินแบบไม่มีหลักประกัน (unsecured) อาจเป็นการเติบโตใหม่ของ DeFi และในปี 2026 อาจได้เห็นโมเดลที่ผสานการทำงานบนบล็อกเชนเข้ากับข้อมูลนอกเชน เพื่อเกิดการปล่อยกู้แบบไม่มีหลักประกันในระดับใหญ่ โดยแค่ในสหรัฐฯ ก็มีวงเงินสินเชื่อไร้หลักประกันกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ที่คริปโตสามารถเข้ามาแย่งตลาดได้ ความท้าทายสำหรับผู้สร้างคือการออกแบบโมเดลบริหารความเสี่ยงที่ขยายได้จริง หากสำเร็จ DeFi จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานการเงินที่สามารถแข่งขันกับระบบธนาคารแบบดั้งเดิมได้
ช่วงปี 2016-2017 ถือเป็นยุคทองของการระดมทุนด้วยวิธีการ ICO ก่อนที่จะหมดยุคฟองสบู่จากการที่โปรเจกต์ส่วนใหญ่ทีระดมทุนไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามกระแสดังกล่าวอาจกลับมาอีกครั้งโดยผู้นำคือ Coinbase ที่เปิดให้โปรเจกต์ต่างๆสามารถระดมทุนได้ในรูปแบบเดียวกับ ICO นำโดยโปรเจกต์แรกอย่าง Monad และการที่ตลาดคริปโตเติบโตขึ้น การระดมทุน ICO ที่มีคุณภาพอาจทำให้กระแสกกลับมาอีกครั้งก็เป็นได้
Perpetuals คือตราสารอนุพันธ์ประเภทที่ไม่มีวันหมดอายุต่างจากประเภทที่มีกำหนดวันหมดสัญญาชัดเจน จากเดิมที่ในโลกคริปโตมีให้ซื้อขายเฉพาะเหรียญต่างๆ แต่มีโอกาสสูงที่สินทรัพย์อ้างอิงประเภท Exotics หรือพวกดัชนีชี้วัดต่างๆที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบ Physical จะถูกนำมาอยู่บนบล็อกเชนและซื้อขายในรูปแบบ Perpetuals ไม่ว่าจะเป็น ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ อัตราเงินเฟ้อ อัตรดาอกเบี้ย ผลตอบแทนพันธบัตร ดัชนีความผันผวน (VIX Index) ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำว่าสินทรัพย์ในโลกดั้งเดิมจะเข้ามาอยู่ในโลกของบล็อกเชนมากขึ้น
ปี 2025 นี้ถือเป็นปีที่แพลตฟอร์มซื้อขาย Perpetuals DEX เติบโตอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็น Hyperliquid Aster หรือ Lighter โดยปริมารการซื้อขายอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ต่อเดือน และโต 300% จากปีก่อนหน้า โดยปี 2026 นี้จะเริ่มเห็นฟีเจอร์ใหม่ๆในแพลตฟอร์ม
Perpetuals DEX ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยกู้และรับผลตอบแทน เครื่องมือในการ Hedging ความเสี่ยง
เมื่อ AI เติบโตอย่างต่อเนื่อง ตลาดกำลังมองไปสู่พรมแดนเทคโนโลยีถัดไป โดยมีความเห็นร่วมกันมากขึ้นว่า “หุ่นยนต์” อาจเป็นตัวกำหนดยุคถัดไปของนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม ช่องว่างสำคัญคือการขาดแคลนชุดข้อมูลสำหรับฝึก AI ที่อยู่ในหุ่นยนต์ (embodied AI) โดยเฉพาะข้อมูลเชิงกายภาพละเอียด เช่น แรงกด การหยิบจับ การจัดการวัตถุหลายชิ้น หรือวัสดุเปลี่ยนรูป เช่น ผ้า สายเคเบิล ฯลฯ
แม้โจทย์นี้จะเกินกว่าขอบเขตคริปโต แต่โมเดลการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่มีแรงจูงใจ (แนว DePIN) อาจเป็นโครงสร้างที่ช่วยขยายการเก็บข้อมูลเชิงกายภาพคุณภาพสูงได้จริง ช่วยให้พัฒนาหุ่นยนต์ขั้นสูงได้เร็วขึ้น
ข้อดีของบล็อกเชนคือการเป็นแพลตฟอร์มเปิดสามารถตรวจสอบได้ แต่ย่อมมีผู้ใช้งานบางส่วนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว (Privacy) โดยไม่อยากจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทั้งหมดเพียงแค่ยืนยันตัวเองถูกต้องก็พอ เทคโนโลยีZK จะทำให้เกิด "Privacy Pools" ที่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของที่มาเงินได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด (Compliance-friendly Privacy) ทำให้สถาบันต่างๆ กล้าใช้งานมากขึ้น
ภาพรวมคือบล็อกเชนและคริปโตจะถูกนำมาใช้กับระบบการเงินดั้งเดิมตลอดจนการใช้งานในชีวิตประจำมากขึ้น ตลอดจนนำไปใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นๆ โดยแรงหนุนสำคัญมาจากกฎระเบียบด้านคริปโตของสหรัฐฯที่จะมีความชัดเจนมากขึ้นในปี 2026

Founder Ricco และ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย