
วันที่ 18 ธ.ค. 68 สำนักข่าว AFP รายงานข่าวว่า ไต้หวันอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อนุมัติการขายอาวุธมูลค่า 11.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
รัฐบาลทรัมป์อนุมัติการขายอาวุธมูลค่า 11.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 61 พันล้านเรียลไต้หวัน ให้แก่ไต้หวัน ซึ่งเป็นการส่งมอบอาวุธครั้งที่สองนับตั้งแต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับเข้ารับตำแหน่งที่ทำเนียบขาวในเดือนมกราคม รัฐบาลไทเปประกาศเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 68
เกาะที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้กำลังพยายามเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร เนื่องจากความตึงเครียดกับจีนทวีความรุนแรงขึ้น จีนอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตน และไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะเข้าควบคุม รวมถึงการใช้กำลัง
ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมไต้หวัน แพ็กเกจที่วอชิงตันอนุมัติประกอบด้วย 8 รายการ รวมถึงระบบจรวด HIMARS กระสุนต่อต้านรถถัง โดรน และชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์ทางทหารอื่นๆ
การประกาศดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้จีน ซึ่งเรียกร้องให้วอชิงตันหยุดจัดหาอาวุธให้แก่เกาะที่ปกครองตนเองแห่งนี้
"จีนเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิบัติตามหลักการหนึ่งจีน (...) และหยุดการกระทำที่เป็นอันตรายในการจัดหาอาวุธให้ไต้หวันโดยทันที" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กัว เจียคุน กล่าว วอชิงตันไม่ยอมรับไต้หวันเป็นประเทศ แต่มีหน้าที่รับผิดชอบหลักด้านความมั่นคงของเกาะนี้ การจัดหาอาวุธยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการยับยั้งการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นจากปักกิ่ง
"นี่เป็นการขายอาวุธครั้งที่สองให้แก่ไต้หวันซึ่งประกาศในระหว่างวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของสหรัฐฯ ต่อความมั่นคงของไต้หวัน" กระทรวงการต่างประเทศในไทเปแถลง
กระทรวงกลาโหม ระบุว่า คาดว่าการขายจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในอีกประมาณหนึ่งเดือน
แม้ว่าข้อตกลงยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ แต่ก็ไม่น่าจะถูกวีโต้ เนื่องจากความเห็นพ้องต้องกันระหว่างฝ่ายต่างๆ เกี่ยวกับการป้องกันประเทศของไต้หวัน
รัฐบาลของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ แห่งไต้หวันได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการลงทุนในเทคโนโลยีทางการทหารเพื่อรับมือกับแรงกดดันจากจีน
เกาะแห่งนี้มีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของตนเอง แต่กองทัพของไต้หวันจะเสียเปรียบอย่างมากหากเกิดความขัดแย้งกับจีน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ไต้หวันยังคงพึ่งพาอาวุธจากสหรัฐฯ อย่างมาก
Advertisement