ทางการเยอรมนีเตรียมมอบอำนาจให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในการยิงโดรนลงได้ หลังเกิดเหตุการณ์โดรนต้องสงสัยรบกวนตามท่าอากาศยานแห่งต่าง ๆ ในหลายประเทศยุโรป และผู้นำบางประเทศเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นการทำสงครามผสมผสาน หรือ Hybrid War ของรัสเซีย
กฎหมายใหม่นี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐบาลเมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม) และกำลังรอรัฐสภาลงนามรับรอง โดยจะมอบอำนาจให้ตำรวจสามารถทำลายโดรนที่ละเมิดน่านฟ้าของเยอรมนีได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ใช้ปืนยิงให้ตกในกรณีที่เป็นภัยคุกคามหรือทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง ใช้เลเซอร์ หรือส่งสัญญาณรบกวน เป็นต้น
ด้านนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ฟรีดริช แมร์ซ โพสต์ข้อความลงบน X ว่า สถานการณ์เรื่องโดรนคุกคามความมั่นคงของประเทศ และเยอรมนีจะไม่ยอมเช่นนั้น โดยทางการกำลังเพิ่มอำนาจให้ตำรวจ เพื่อให้สามารถตรวจเจอโดรน และรับมือได้อย่างรวดเร็วในอนาคต”
กฎหมายฉบับใหม่นี้มีขึ้น หลังเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (3 ตุลาคม) สนามบินมิวนิกต้องยกเลิกหรือเปลี่ยนเส้นทางบินเครื่องบินหลายสิบลำ ส่งผลทำให้มีผู้โดยสารตกค้างกว่า 10,000 คน หลังมีการพบเห็นโดรน
นายกฯ ของเยอรมนีคาดการณ์ว่า รัสเซียน่าจะอยู่เบื้องหลังโดรนจำนวนมากที่บินอยู่ในน่านฟ้าของเยอรมนี แต่โดรนที่พบ ไม่มีลำใดเป็นโดรนติดอาวุธ และเหมือนจะทำหน้าที่เป็นโดรนสำรวจมากกว่า
บรรดาผู้นำสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ EU มองว่า รัสเซียเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อความมั่นคงของทวีปยุโรป หลังจากมอสโกเปิดฉากบุกยูเครนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2022 และยุโรปเองก็ให้การสนับสนุนรัฐบาลยูเครนอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเดือนที่แล้ว เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เรียกร้องให้จัดตั้งสิ่งที่เธอเรียกว่า “กำแพงโดรน” (drone wall) ขึ้นมา โดนกำแพงโดรนที่ว่าจะทำหน้าที่เป็นเหมือนเซนเซอร์และคอยตรวจจับ ติดตาม ทำลายโดรนที่รุกล้ำ เพื่อปกป้องแนวชายแดนด้านตะวันออกของยุโรป
อย่างไรก็ตาม มีบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า โดรนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ล่าสุดบางลำอาจถูกปล่อยมาจากภายในสหภาพยุโรปเอง
อเล็กซานเดอร์ โดบรินด์ท์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของเยอรมนี เปิดเผยว่า รัฐบาลจะจัดตั้ง “หน่วยต่อต้านโดรน” ภายใต้สังกัดตำรวจสหพันธรัฐ พร้อมทั้งจะให้ทีมนักวิจัยร่วมมือกับอิสราเอลและยูเครน ซึ่งมีความก้าวหน้ามากกว่าในด้านเทคโนโลยีโดรน