สถานการณ์ในยุโรปกำลังตึงเครียดอย่างหนักอีกหนึ่งครั้ง นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 หลังโดรนของรัสเซียรุกล้ำเข้าไปยังโปแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต เพราะในเวลานี้ ชาติสมาชิกนาโตชาติอื่น ๆ กำลังส่งกองกำลัง อาวุธ และระบบป้องกันภัยทางอากาศไปยังชายแดนฝั่งตะวันออกของยุโรป
ในช่วงเช้าของวันพุธที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา โดรนของรัสเซีย 3 ลำถูกยิงตก หลังจากข้ามชายแดนเข้ามาในน่านฟ้าของโปแลนด์ นอกจากนี้ ยังมีโดรนลำอื่น ๆ ที่ตกลงสู่พื้น และมีการไปพบในภายหลังบริเวณชายแดนด้านตะวันออกของโปแลนด์
หลังจากนั้นโปแลนด์ยื่นขอเปิดประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมจะมีขึ้นในวันศุกร์นี้ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐฯ หรือประมาณ 02.00 น. ของเช้าวันเสาร์ที่ 13 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นในประเทศไทย
ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรสูงสุดแห่งนาโต เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการรุกล้ำเข้ามาของโดรนรัสเซียเป็นการกระทำโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจกันแน่
เพื่อตอบโต้กับเหตุการณ์ดังกล่าว เนเธอร์แลนด์และสาธารณรัฐเช็กเปิดเผยว่า พวกเขาจะส่งกำลังไปยังโปแลนด์ โดยเนเธอร์แลนด์จะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ อาวุธและทหาร 300 นายมา ส่วนเช็กจะส่งเฮลิคอปเตอร์และทหารอีก 100 นาย
เช่นเดียวกับอังกฤษก็จะส่งเครื่องบินรบมารักษาความมั่นคงของแนวชายแดนตะวันออกของนาโต
ขณะที่ลิทัวเนียจะมีกองกำลังทหารเยอรมนีเข้าประจำการ รวมถึงได้รับการเตือนภัยที่รวดเร็วมากขึ้นหากรัสเซียโจมตียูเครนซึ่งอาจจะมีความผิดพลาดข้ามพรมแดนเข้ามา
เยอรมนียังระบุว่า จะเพิ่มการปรากฏตัวตามแนวชายแดนตะวันออกของนาโต พร้อมทั้งขยายภารกิจลาดตระเวนทางอากาศเหนือดินแดนโปแลนด์ให้เข้มข้นขึ้น
ด้านฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงประกาศว่า ฝรั่งเศสจะส่งเครื่องบินรบราฟาเอล 3 ลำไปช่วยปกป้องน่านฟ้าโปแลนด์ และชี้ว่า จะไม่ยอมแพ้ต่อการข่มขู่ของรัสเซียที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งพยายามจะเป็นตัวกลางหาทางยุติสงครามยูเครนแต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อวานนี้ว่า
การรุกล้ำที่เกิดขึ้นกับโปแลนด์อาจเป็นความผิดพลาด เขาก็ไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่หวังว่าสถานการณ์นี้จะจบลงในที่สุด
โปแลนด์ขอใช้มาตรา 4 ของสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต หลังจากที่พบว่า มีการล่วงละเมิดน่านฟ้าของโปแลนด์ถึง 19 ครั้งโดยรัสเซีย
มาตรา 4 ของนาโตระบุเอาไว้ว่า ชาติสมาชิกจะหารือร่วมกันเมื่อใดก็ตาม ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นว่า บูรณภาพแห่งดินแดน เอกราชทางการเมือง หรือความมั่นคงของชาติสมาชิกใดก็ตามถูกคุกคาม
ดังนั้น ชาติสมาชิกใดก็ตามสามารถหยิบยกประเด็นขึ้นนำเสนอต่อคณะมนตรีแอตแลนติกเหนือ ซึ่งเป็นองค์กรตัดสินใจหลักของนาโต เพื่อหารือและกำหนดแนวทางดำเนินการร่วมกับชาติพันธมิตรต่อไป
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่มาตรา 5 ที่ระบุเอาไว้ว่า การโจมตีประเทศใด ประเทศหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกนาโต หมายความว่าเป็นการใช้กำลังความรุนแรงต่อชาติสมาชิกนาโตทุกประเทศ ดังนั้นการหารือที่เกิดขึ้นตามมาตรา 4 อาจนำไปสู่การตัดสินใจหรือการดำเนินการร่วมกันในนามของพันธมิตรได้ โดยกระบวนการปรึกษาหารือถือเป็นหัวใจสำคัญ เนื่องจากการตัดสินใจทุกเรื่องของพันธมิตรจะต้องอาศัยฉันทามติร่วมกัน
สำนักข่าว Channel News Asia รายงานบทวิเคราะห์ว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น่านฟ้าโปแลนด์ถูกรัสเซียละเมิดนับตั้งแต่เริ่มบุกยูเครน แต่ในช่วงเช้ามืดวันพุธที่ 10 กันยายน หลังจากโปแลนด์ยิงสกัดโดรนรัสเซียในน่านฟ้าของตน แต่นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศสมาชิกนาโตเปิดฉากยิงในสงครามครั้งนี้
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือความผิดพลาด การรุกล้ำของโดรนรัสเซียถือเป็นการยกระดับสถานการณ์อย่างร้ายแรงในสงครามของรัสเซียต่อยูเครน และยังมีความเสี่ยงสูงที่ความขัดแย้งจะลุกลามเข้าสู่น่านฟ้าของนาโต ซึ่งอาจนำไปสู่การเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โปแลนด์ต้องปิดสนามบินหลายแห่งชั่วคราว รวมถึงสนามบินหลักในกรุงวอร์ซอ และสนามบินภูมิภาคทางตะวันออกที่เป็นศูนย์กลางสำคัญในการลำเลียงความช่วยเหลือจากชาติตะวันตกเข้าสู่ยูเครน ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่า โดรนรัสเซียรุกล้ำถึง 19 ครั้ง และทั้งหมดพุ่งเข้าสู่โปแลนด์ ไม่ได้ล้ำไปยังสโลวาเกียหรือฮังการีที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านด้วยซ้ำ ทำให้ความเป็นไปได้ที่จะเป็นเพียงอุบัติเหตุลดลงอย่างมาก
ก่อนหน้านี้ การละเมิดน่านฟ้าอาจถูกมองว่า เป็นเพียงโดรนหรือขีปนาวุธที่หลงทิศ เช่น ในเดือนสิงหาคม โดรนรัสเซียเคยตกในพื้นที่ตะวันออกของโปแลนด์ และในบางครั้งขีปนาวุธก็เคยล้ำเข้ามาในน่านฟ้าโปแลนด์ก่อนพุ่งไปยังเป้าหมายในยูเครน นอกจากนี้ โดรนรัสเซียยังเคยตกในประเทศที่อยู่ชายแดนตะวันตกของยูเครนเช่นกัน ทั้งมอลโดวาซึ่งมีความตั้งใจจะเข้าร่วมสหภาพยุโรป และโรมาเนียที่เป็นสมาชิกทั้งอียูและนาโต