กัมพูชาโต้ ‘ไม่ย้าย’ ปมผู้ว่าฯ สระแก้วขอย้ายชาวเขมรออกจากพื้นที่รุกล้ำ
ภายหลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายปริญญา โทธิสัตย์ ได้ลงนามหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา ขอความร่วมมือดำเนินการย้ายชาวกัมพูชา 170 ครอบครัวที่รุกล้ำพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นดินแดนของราชอาณาจักรไทย และเป็นพื้นที่นอกพื้นที่อ้างสิทธิตามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย – กัมพูชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุด ทางการกัมพูชามีท่าทีที่จะไม่ให้ความร่วมมือโดยไม่ยอมย้ายชาวเขมรออกจากพื้นที่รุกล้ำดังกล่าว เช้าวันนี้ 4 กันยายน 2568 ฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้โพสต์ภาพหนังสือที่ นายโอม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย โต้ตอบกลับต่อคำขอของไทย
ในเนื้อหาของหนังสือฉบับดังกล้าวระบุไว้ว่า การดำเนินการฝ่ายเดียวใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และผลประโยชน์ของประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว ถือเป็นการละเมิด MOU 2000, ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, เจตนารมณ์ของการประชุมวิสามัญคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) กัมพูชา-ไทย เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย และเจตนารมณ์ของการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) ของทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568
นายโอม เรียตรีย์ ระบุในจดหมายตอบกลับเพิ่มเติมว่า ขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้โปรดรักษาเสถียรภาพสถานการณ์ชายแดนในปัจจุบันและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนไว้ก่อน และมอบหมายให้ GBC และ JBC ซึ่งเป็นกลไกที่เหมาะสมเป็นผู้แก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
สื่อกัมพูชาโหมข่าว รัฐบาลหนุนทหาร-พลเรือนเต็มที่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางข่าวลือในกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทย ที่พยายามเดินทางกลับเข้าบ้านเกิด เนื่องจากได้ยินคำขู่ที่ว่าหากไม่ออกจากราชอาณาจักรไทย รัฐบาลกัมพูชาอาจยึดที่ดิน และรุกรานครอบครัวของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา สื่อกัมพูชารายงานข่าวที่รัฐบาลกัมพูชาเปิดจุดลงทะเบียนให้ประชาชนเพื่อจัดหางานที่เหมาะสมรองรับ
รวมถึงข่าวลือในหมู่ครอบครัวทหารที่กังวลว่าทหารเขมรอาจไม่ได้รับการดูแลที่ดีจากรัฐบาล สื่อกัมพูชาอย่าง Khmer Times ได้ออกมาโหมข่าวการสนับสนุนของรัฐบาลกัมพูชาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรายงานข่าวที่ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบอง นายสก หลู และนายเอย เรย ประธานสภาจังหวัด ได้นำคณะผู้แทนไปเยี่ยมและแสดงความยินดีกับกองกำลังติดอาวุธที่ประจำการอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การแจกเงินเยียวยาจากผู้บริจาค
ผู้ว่าราชการจังหวัดพระตะบองได้แสดงความขอบคุณต่อผู้บริจาคทุกท่านที่ร่วมบริจาค ไม่เพียงแต่เพื่อสนับสนุนแรงงานข้ามชาติชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการช่วยเหลือกองกำลังแนวหน้าด้วย
กัมพูชาเปิดรับสมัครเยาวชนร่วมกองทัพ
กองทัพกัมพูชาได้เปิดตัวโครงการรับสมัครอาสาสมัครรุ่นเยาว์อย่างเป็นทางการเพื่อทำหน้าที่ในกองทัพกัมพูชา (RCAF) โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศ
การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติของรัฐบาลและประกาศของกระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการกองทัพบกได้จัดตั้งคณะกรรมการสรรหาอาสาสมัครขึ้น เพื่อกำกับดูแลการสมัคร ตรวจสอบประวัติ และคัดเลือกผู้สมัครให้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 1-10 กันยายน ทั้งนี้ ผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการบรรจุเข้าประจำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 กันยายน
เกณฑ์คุณสมบัติประกอบด้วยชายชาวกัมพูชาอายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี มีการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือสูงกว่า มีส่วนสูงอย่างน้อย 160 เซนติเมตร สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีประวัติอาชญากรรม และต้องแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐบาล
