วันที่ 4 ก.ย. 68 จากกรณี กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่1 ว่า พบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้ และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย
ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที
ล่าสุด พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ก.ย. 68 กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกัน ในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา
รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า ขอให้กัมพูชายึดถือ และปฏิบัติตามข้อระเบียบต่างๆ ที่กำหนด ทั้งที่เคยได้ให้ไว้ร่วมกัน และที่เป็นสมาชิกภาคีในอนุสัญญาต่างๆ ในระดับสากล ซึ่งกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 1 ยืนยันถึงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ หากตรวจพบการกระทำผิดของประชาชนชาวกัมพูชา ภายใต้ขอบเขตอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ เพื่อดำรงไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ ไม่ให้มีใครมารุกราน ตลอดจนดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยตามแนวชายแดนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
Advertisement