Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดแผล 'ฮุน เซน' คดีไหนโดนนานาชาติจับตา เขมรแดง-ฆ่าศัตรู-ล่าฝ่ายค้าน
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เปิดแผล 'ฮุน เซน' คดีไหนโดนนานาชาติจับตา เขมรแดง-ฆ่าศัตรู-ล่าฝ่ายค้าน

30 ก.ค. 68
08:57 น.
แชร์

แม้ว่า ‘ฮุน เซน’ จะส่งมอบตำแหน่งผู้นำสูงสุดของกัมพูชา ให้บุตรชายอย่างฮุน มาเนต ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ 26 กรกฏาคม พ.ศ. 2566 แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอำนาจและอิทธิพลของเขายังมีอยู่เต็มทุกอณูการเมืองกัมพูชา เนื่องจากปัจจุบัน เขายังดำรงตำแหน่งอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่ครองอำนาจ, ประธานองคมนตรี และประธานวุฒิสภา ซึ่งเขายังคงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางนโยบายและควบคุมการเมืองของกัมพูชาอยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้นในขณะนี้

ฮุน เซน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2528 เรียกได้ว่ากุมบังเหียนประเทศมาแล้ว 40 กว่าปี และก่อนหน้าที่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำ เขามีเส้นทางการเมืองและทหารที่ยาวนานและซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่กัมพูชาเผชิญกับความวุ่นวายและสงครามกลางเมือง เขามักเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้กัมพูชาเกิดการเปลี่ยนแปง

Spotlight ชวนย้อนรอยเส้นทางผู้นำกัมพูชาของฮุน เซน ที่ทรงอิทธิพลสุด ๆ ในเวลานี้ ย่อมแลกกับอะไรมาบ้าง ที่เขาไม่อยากเปิดเผย ในบทความ “เปิดแผล ฮุน เซน คดีไหนโดนนานาชาติจับตา” โดยเริ่มต้นจากแผลเก่าที่ไม่ว่าจะผ่านมานานเท่าไร ผู้คนก็ยังไม่ลืม

เข้าร่วม-แปรพักตร์ แผลช้ำหนักจาก “เขมรแดง”

Human Rights Watch เผยแพร่บทความ “30 ปีของฮุนเซน ความรุนแรง การปราบปราม และการทุจริตในกัมพูชา” โดยตอนหนึ่งบทความรายงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขาต่อกลุ่มเขมรแดง ระบุว่า ฮุน เซน เข้าร่วมกับเขมรแดงหลังจากที่กองทัพกัมพูชาโค่นล้มเจ้าชายนโรดม สีหนุ ในปี พ.ศ. 2513 รายงานฉบับนี้ได้อธิบายบทบาทของเขาในฐานะผู้บัญชาการเขมรแดง ในพื้นที่ที่เกิดอาชญากรรมต่อมนุษยชาติกับชาวจามมุสลิมไปจนถึงการบังคับใช้แรงงานและการจำคุกผู้เห็นต่าง

แม้รายงานจากต่างประเทศฉบับอื่น ๆ จะบอกไว้อย่างชัดเจนว่า เขาเป็นถึงผู้บัญชาการ แต่เจ้าตัวปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าทหารธรรมดาคนหนึ่ง BBC ไทย ระบุว่า ในสมัยการปกครองอันโหดร้ายของนายพอล พต อดีตผู้นำเขมรแดง ช่วงปลายทศวรรษที่ 1970 ซึ่งมีชาวกัมพูชาถูกสังหารไป 2 ล้านคนนั้น นายฮุน เซน หลบหนีไปเข้าร่วมกับฝ่ายที่ต่อต้านเขมรแดงในเวียดนาม และจากจุดที่เขาแปรพักตร์นี้เอง สร้างความชอบธรรมว่าเขาต่อต้านขบวนการสังหารหมู่อันเหี้ยมโหด เมื่อเวียดนามตั้งรัฐบาลใหม่ในกัมพูชา เขาถึงมีโอกาสกลับบ้านในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ 

การร่วมทัพเขมรแดง แม้จะในช่วงต้น แต่ก็ไม่อาจทำให้นานาชาติมองข้ามไปได้ว่าครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าร่วมขบวนการคอมมิวนิสต์ที่โหดร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นแผลใหญ่ที่เขาพยายามปกปิด และจากการเข้าร่วมในครั้งนี้ยังสร้างแผลที่ตาซ้ายของเขา ซึ่งได้รับบาดเจ็บขณะสู้รบในสงครามกลางเมืองกัมพูชา ในวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นวันก่อนที่เขมรแดงจะยึดกรุงพนมเปญได้สำเร็จ บาดแผลนี้ทำให้ดวงตาซ้ายของเขาบอดสนิท

แผลเก่าจากตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรีคนที่ 2” แห่งเดียวในโลก

ภายหลังการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไม่กี่ปี เมื่อนายกรัฐมนตรีจัน ซี เสียชีวิตในระหว่างดำรงตำแหน่ง รัฐสภาภายใต้ระบบพรรคเดียวของพรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา ได้แต่งตั้ง ฮุน เซน ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยอายุเพียง 33 ปี นับเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น 

หลังจากการลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี 1991 และการเข้ามาของสหประชาชาติ (UNTAC) เพื่อจัดการเลือกตั้งในปีพ.ศ. 2536 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคฟุนซินเปกของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ชนะการเลือกตั้ง แต่ฮุน เซน ปฏิเสธผลการเลือกตั้งและใช้การบีบบังคับทางการเมืองและการทหาร จนในที่สุดมีการจัดตั้งรัฐบาลผสม โดยสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 และ ฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 

แผลปิดไม่มิด รัฐประหารทำทั่วโลกคว่ำบาตร

ในปี พ.ศ.2540 ฮุน เซน ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจ บีบให้สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ต้องเสด็จออกนอกประเทศ และรวมอำนาจไว้ในมืออย่างสมบูรณ์ แต่เหตุการณ์นั้น ได้รับการประณามอย่างกว้างขวางจากประชาคมระหว่างประเทศ และส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ของกัมพูชากับโลกภายนอก

สหรัฐอเมริกาประณามการกระทำของฮุน เซน ว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทำลายประชาธิปไตยที่เพิ่งเริ่มก่อร่างสร้างตัวในกัมพูชาจากการสนับสนุนของสหประชาชาติ และยังตัดความช่วยเหลือส่วนใหญ่แก่กัมพูชาทันที ทั้งความช่วยเหลือด้านการทหารและด้านมนุษยธรรม ขณะที่ ASEAN ก็ลงโทษด้วยการเลื่อนรับกัมพูชาเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนออกไปอย่างไม่มีกำหนด รวมไปถึงสหภาพยุโรป สหประชาชาติ   องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เช่น Human Rights Watch, Amnesty International

ล่าฝ่ายค้าน-ไล่ถอดสัญชาติ แผลที่ยังคงกัดกิน

ผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชาที่สำคัญและถูกขับไล่ไปต่างประเทศในขณะนี้คือ สม รังสี (Sam Rainsy) เป็นอดีตผู้นำพรรคกู้ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักที่ถูกยุบโดยคำสั่งศาลในปีพ.ศ. 2560 และเขาเองก็เผชิญกับข้อหาทางกฎหมายมากมายในกัมพูชา ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ทำให้เขาต้องลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งมีรายงานว่าส่วนใหญ่เขาใช้ชีวิตในประเทศฝรั่งเศส

ล่าสุด ในกรณีข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา สม รังสี ได้โพสต์ข้อความเย้ยหยันว่า การถอดสัญชาติพลเมืองกัมพูชาที่ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลนั้น รวดเร็วกว่าการส่งคำร้องกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ไปที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เสียอีก เขายังย้ำว่า "การถอดสัญชาติชาวกัมพูชาผู้รักชาติอย่างแท้จริง ไม่สามารถถอดความรักชาติออกจากจิตใจของพวกเขาได้"

ประเด็นการถอดสัญชาตินี้เกิดขึ้นหลังรัฐสภากัมพูชาแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีการรับสัญชาติ-และสูญเสียสัญชาติได้ แม้รัฐบาลจะอ้างว่ากฎหมายนี้มีขึ้นเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและจัดการกับผู้ที่ทรยศชาติ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนและฝ่ายค้านเชื่อว่า กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่ถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาล

Amnesty International และองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า การออกกฎหมายเพิกถอนสัญชาติในลักษณะนี้เป็นการ ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำให้บุคคลนั้นกลายเป็นคนไร้สัญชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องห้ามภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

สั่งตาย ‘ลิม กิมยา’ ในกรุงเทพฯ แผลสดที่โดนเปิดโปง

คดีของลิม กิมยา อดีต ส.ส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งถูกสังหารในประเทศไทย ได้รับการรายงานจากสำนักข่าวหลายแห่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 นายลิม กิมยาถูกยิงเสียชีวิตจากกระสุนปืน โดยมือปืนเป็นอดีตทหารเรือไทย ตำรวจไทยได้ระบุตัวผู้บงการว่าคือ นายลี รัตนัค รัศมี ชาวกัมพูชา ที่ยังคงหลบหนีอยู่ในขณะนี้

คดีดังกล่าวถูกยกระดับว่าอาจเป็นการคำสั่งสังหารของผู้นำกัมพูชา หลัง Al Jazeera เผยแพร่สกู๊ปพิเศษ ภายใต้ชื่อ Cambodia: Was the killing of ex-MP Lim Kimya a political assassination? | 101 East Documentary พร้อมมีการปล่อยคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงสั่งตายของฮุน เซน ที่ให้ลอบฆ่าฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซาก ในภายหลัง รัฐบาลกัมพูชาพยายามปฏิเสธโดยอ้างว่าเป็นคลิปเสียงที่ทำจาก AI เท่านั้น 


แชร์
เปิดแผล 'ฮุน เซน' คดีไหนโดนนานาชาติจับตา เขมรแดง-ฆ่าศัตรู-ล่าฝ่ายค้าน