สำนักบริการป่าไม้แห่งสหรัฐฯ (U.S. Forest Service - USFS) ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ของชาวอเมริกัน เนื่องจากนโยบายการลดพนักงานราชการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ทีมดับเพลิงท้องถิ่นขาดบุคลากรสำคัญที่จะช่วยควบคุมไฟป่าหรือไม่ โดยเฉพาะปีนี้ที่ทั่วประเทศเผชิญปัญหาไฟป่าหนักหน่วงที่สุดในรอบทศวรรษ
แม้ว่าหน่วยดับเพลิงกลางจะออกมาปฏิเสธ และยืนยันว่าหน่วยงานของพวกเขามีบุคลากรเพียงพอก็ตาม แต่หน่วยงานที่ทำงานร่วมกันอย่างกรมป่าไม้แห่งสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยสวนทาง โดยพนักงานที่ยังปฏิบัติงานอยู่และเกษียณอายุแล้วกว่า 10 คน ระบุว่า หน่วยดับเพลิงกำลังประสบปัญหาการบรรจุตำแหน่งที่สำคัญ หลังจากที่พนักงานประมาณ 5,000 คน หรือประมาณ 15% ของกำลังคนทั้งหมด ได้ลาออกไปในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา
คำบอกเล่าจากนักดับเพลิงในรัฐออริกอนและนิวเม็กซิโก รวมถึงหัวหน้าหน่วยดับเพลิงที่กำลังสรรหาเจ้าหน้าที่สนับสนุนในพื้นที่แปซิฟิกนอร์ธเวสต์ ระบุว่า ตำแหน่งงานว่างทำให้บุคลากรไม่สามารถสนับสนุนการดับเพลิงในแนวหน้าได้ เนื่องจากต้องไปทำหน้าที่ธุรการอื่น ๆ
หัวหน้าทีมดับเพลิงในเหตุไฟไหม้ที่ออริกอนกล่าวว่า ทีมของเธอไม่มีน้ำและอาหารสนับสนุนการทำงานอยู่หลายวัน อีกทั้งยังขาดแคลนเวชภัณฑ์ และต้องหาเศษเชื้อเพลิงเองสำหรับเลื่อยยนต์ด้วย หลังจากที่เจ้าหน้าที่สนับสนุนลาออกจากหน่วยงานในช่วงที่มีโครงการ "ทางแยก" (fork in the road) ที่เปิดให้พนักงานรับเงินชดเชยเพื่อลาออกถึงสองรอบ เธอกล่าวว่า "ลูกทีมของฉันบางคนต้องเข้านอนทั้งที่ยังหิวโหย หลังจากทำงานมา 16 ชั่วโมง ในเหตุการณ์ไฟไหม้ Alder Springs Fire”
เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ทั้งระดับประเทศและระดับท้องถิ่น กล่าวว่า ได้เตรียมแผนรับมือและกำลังพลไว้อย่างเต็มที่ หน่วยงานได้เตรียมความพร้อมสำหรับไฟป่าในปีนี้ ซึ่งจะรุนแรงกว่าค่าเฉลี่ยของไฟป่าในแต่ละปี โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย, แปซิฟิกนอร์ธเวสต์ และตอนเหนือของเทือกเขาร็อกกี้
อิซาเบลลา อิซัคเซน เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกรมป่าไม้แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเรารู้สึกมั่นใจมากกับกำลังพลที่จะรับมือกับฤดูไฟป่าครั้งนี้ ทั้งนี้ เธอเปิดเผยว่าไฟป่าอัลเดอร์สปริงส์ที่มีปัญหาเรื่องการเสิร์ฟอาหารให้เจ้าหน้าที่นั้น มาจากผู้จัดเลี้ยงรายใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งปัญหานี้ก็ได้รับการแก้ไขแล้ว รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ เลื่อยยนต์ และอุปกรณ์อื่นๆ พร้อมใช้งานสำหรับไฟป่าขนาด 3,400 เอเคอร์ ซึ่งนำไปสู่การอพยพผู้คนในสองเทศมณฑล
รัฐบาลทรัมป์ให้คำมั่นว่า จะไม่ตัดตำแหน่งงานดับเพลิงและงานด้านความปลอดภัยสาธารณะอื่น ๆ ในกรณีการเลิกจ้าง การลาออกโดยสมัครใจ และการเกษียณอายุก่อนกำหนด ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกรมป่าไม้สหรัฐฯ ซึ่งบริหารจัดการพื้นที่ 193 ล้านเอเคอร์ แต่พนักงานภาคปฏิบัติหลายคนเปิดเผยว่า แม้แรงงานในหน่วยฉุกเฉินไม่ลาออกหรือถูกไล่ออก แต่มาตรการดังกล่าวทำให้การสูญเสียนักป่าไม้ นักชีววิทยา คนทำถนน ส่งผลกระทบต่อการทำงานหน่วยดับเพลิงในภาพรวม
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่เพียงแต่ต้องมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่ว่างในสถานีพิทักษ์ป่าเท่านั้น แต่ยังสูญเสียเพื่อนร่วมงานอีกหลายร้อยคนอีกด้วย ซึ่งในแต่ละปีพวกเขาต้องเปลี่ยนจากงานประจำมาทำหน้าที่สนับสนุนการดับเพลิงในช่วงฤดูไฟไหม้ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายทอม ชูลท์ซ หัวหน้ากรมป่าไม้สหรัฐฯ ได้แจ้งต่อผู้บริหารหน่วยงานให้จัดสรรเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติผ่านการอบรมด้านดับเพลิงระดับสูงเพิ่มเติม เนื่องจากปีนี้นับเป็นปีแห่งความท้าทายในการรับมือกับไฟป่า นับตั้งแต่ต้นปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถูกเรียกตัวไปดับไฟป่าเกือบ 41,000 จุด ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งปีนี้ ไฟป่าได้เผาพื้นที่ไปแล้ว 2.9 ล้านเอเคอร์
เมื่อเดือนที่แล้ว ชูลท์ซแจ้งต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ ว่า เขากำลังพยายามจ้างพนักงานสนับสนุนที่มีคุณสมบัติผ่านการอบรมด้านดับเพลิงระดับสูงจำนวน 1,400 คน กลับมาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร บรู๊ค โรลลินส์ ซึ่งกำกับดูแลกรมป่าไม้สหรัฐฯ กล่าวในเดือนมิถุนายน ในการประชุมของผู้ว่าการรัฐทางภาคตะวันตกของรัฐนิวเม็กซิโกว่า หน่วยงานมีเป้าหมายที่จะจ้างนักดับเพลิงจำนวน 11,300 อัตรา ภายในกลางเดือนกรกฎาคม ซึ่งสูงกว่าการจ้างงานในช่วงสามปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ณ วันที่ 29 มิถุนายน มีผู้ได้รับการจ้างงานแล้ว 11,236 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 99 ของจำนวนดังกล่าว
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ประจำรัฐนิวเม็กซิโก มาร์ติน ไฮน์ริช วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์ที่ไล่ออกและจ้างพนักงานฝึกหัดของกรมป่าไม้สหรัฐฯ กลับมาทำงานใหม่ 3,400 คน โดย 3 ใน 4 คนถูกไล่ออก รวมไปถึง การเลือกจ้างพนักงานทั้งหน่วยงานแบบไม่เลือกหน้า เขากล่าวอย่างประชดประชันว่า “ฤดูไฟป่าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และต้องขอบคุณ DOGE และโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้กรมป่าไม้ของสหรัฐฯ ถูกทำลายล้าง ส่งผลให้ชุมชนต่างๆ ขาดอุปกรณ์ที่จำเป็นในการต่อสู้กับไฟป่าอันร้ายแรง”
สตีฟ เอลลิส ประธานสมาคมผู้เกษียณอายุราชการแห่งชาติของกรมป่าไม้ กล่าวว่า การตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในรัฐโอเรกอนไม่พบรายงานเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่อดอาหารหรือมีปัญหาด้านการช่วยเหลืออื่นๆ แต่ริวา ดันแคน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่าในนิวเม็กซิโก กล่าวว่า แม้แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ยังถูกใช้เพื่ออุดช่องว่างที่เกิดจากการสูญเสียงาน ส่งผลให้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในการควบคุมรถดับเพลิงที่มีมายาวนานรุนแรงยิ่งขึ้น
ดันแคน อดีตหัวหน้าดับเพลิงของกรมป่าไม้สหรัฐฯ ระบุว่า “พวกเขากำลังรับโทรศัพท์ที่แผนกต้อนรับ หรือทำความสะอาดห้องน้ำในสนามกางเต็นท์ หรือตัดหญ้าที่ไซต์งานของหน่วยงาน”