ไฟป่าแอลเอฯ เผาวอด ที่แท้เป็นฝีมือ ‘คนคลั่งไฟ’ โดนโทษจำคุก 20 ปี
เผาวอดลอสแอนเจลิส ดับหลายสิบ
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ตั้งข้อหาชายคนหนึ่งที่ก่อเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 มกราคมปี 2025 ซึ่งไม่กี่วันต่อมาก็ลุกลามกลายเป็นเพลิงไหม้ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส และยังทำลายพื้นที่ส่วนใหญ่ของย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อัยการสหรัฐฯ แถลงว่า นายโจนาธาน รินเดอร์เนชท์ วัย 29 ปี ได้จุดไฟในวันปีใหม่ แม้ว่าเบื้องต้นสามารถดับได้แล้ว แต่เชื้อเพลิงยังคงปะทุอยู่ใต้ดิน ก่อนจะลุกไหม้ขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อมีลมพัดแรง ขณะนั้น รินเดอร์เนชท์หลบหนีจากที่เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งแรก แต่กลับมายังเส้นทางเดิมเพื่อดูเพลิงไหม้ และเขาโกหกเรื่องที่อยู่ โดยอ้างว่าเขาอยู่ใกล้จุดต่ำสุดของเส้นทางเดินป่า
เพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม คร่าชีวิตผู้คนไป 12 ราย และทำลายบ้านเรือนและอาคารกว่า 6,000 หลังในย่านแปซิฟิกพาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านชายฝั่งอันมั่งคั่งของลอสแอนเจลิส ไฟได้ลุกลามไปทั่วย่านต่าง ๆ บนเนินเขา ทำลายคฤหาสน์หลังงามที่สามารถมองเห็นวิวทะเลและย่านดาวน์ทาวน์ลอสแอนเจลิส
ถูกนำตัวสู่กระบวนการยุติธรรม
รินเดอร์เนชท์ ถูกจับกุมหลังจากถูกกล่าวหาว่า “จงใจ” จุดไฟเผาป่าแปซิฟิกพาลิเซดส์ในลอสแองเจลิส เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำรินเดอร์เนชท์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 มกราคม ตามคำร้องทุกข์อาญา เขาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม และไม่พบใครอีกเลยในเวลานั้น
ด้านเจ้าหน้าที่สอบสวนตัดความเป็นไปได้อื่น ๆ ออกไป เช่น ดอกไม้ไฟ ฟ้าผ่า และสายไฟฟ้า เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบด้วยว่าบุหรี่เป็นสาเหตุของเพลิงไหม้หรือไม่ แต่สรุปว่าไม่ใช่สาเหตุตามคำร้องเรียน
ล่าสุด รินเดอร์เนชท์ขึ้นศาลครั้งแรกในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สอบสวนสรุปว่า ไฟดังกล่าวถูกจุดขึ้นโดยเจตนา คาดว่าใช้ไฟแช็กจุดใบไม้แห้งหรือกระดาษ
แม้เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงไม่สามารถระบุสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งที่สองที่เรียกว่าไฟป่าอีตัน แต่เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเเมื่อวันเดียวกันในชุมชนอัลตาดีนาและมีผู้เสียชีวิต 18 ราย ไฟไหม้ทั้ง 2 จุดลุกลามต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้พื้นที่ในแต่ละช่วงตึกเหลือเพียงเศษซากสีเทาและสีดำ
เหตุการณ์ดังกล่าว จุดกระแสให้ชาวอเมริกันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานกู้ภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า มีความล่าช้าในปฏิบัติการควบคุมเพลิงและช่วยชีวิตผู้คนหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจสอบที่เผยแพร่ในเดือนกันยายนพบว่า การขาดทรัพยากรและนโยบายที่ล้าสมัยในการส่งการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน ส่งผลให้คำเตือนการอพยพล่าช้า ผู้บังคับบัญชาเทศมณฑลลอสแอนเจลิสยังระบุถึงจุดอ่อนหลายประการ เช่น “นโยบายที่ไม่ทันสมัย แนวทางปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องกัน และช่องโหว่ด้านการสื่อสาร” เป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการดังกล่าว
เหตุจูงใจของ “คนหลงใหลเพลิงไหม้”
ตามคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร นายโจนาธาน รินเดอร์เนชท์ ระบุว่า เขามีอายุ 29 ปี ทำอาชีพขับรถ Uber และอาศัยอยู่ที่แปซิฟิกพาลิเซดส์ ไม่ไกลจากพื้นที่เดินป่ายอดนิยมตามแนว เทเมสคอล ริดจ์ แต่ภายหลังพบว่าข้อมูลส่วนใหญ่ไม่เป็นความจริง
เจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐบาลกลางระบุว่า ในวันเกิดเหตุ รินเดอร์เนชท์ ขับ Uber ส่งผู้โดยสารลงในพื้นที่ดังกล่าว และต่อมาได้วางเพลิงเมื่อวันที่ 1 มกราคม เขาเป็นคนเดียวที่อยู่ในบริเวณเส้นทางเดินป่าในขณะนั้น จากข้อมูลโทรศัพท์มือถือและกล้องที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
ผู้สืบสวนกล่าวว่าพวกเขายังพบหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ารินเดอร์เนชท์หลงใหลในเรื่องไฟและการทำลายล้าง โดยอ้างถึงประวัติออนไลน์ของเขา รวมถึงคำเตือนใน ChatGPT ที่เขาใช้หาข้อมูลในการวางเพลิง
เจ้าหน้าที่สอบสวนชี้ว่านายรินเดอร์เนชท์มีความชื่นชอบเพลงแร็ปฝรั่งเศสชื่อ “Un Zder, Un Thé” ของศิลปิน Josman ซึ่งบรรยายถึงความสิ้นหวังและความรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งต่อมา เขาบอกกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า เขาเติบโตในฝรั่งเศสและพูดภาษาฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ได้ฟังเพลงนี้ถึงเก้าครั้งในช่วงสี่วันก่อนเกิดเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 1 มกราคม นอกจากนี้ เขายังได้ชมมิวสิควิดีโอของเพลงนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นศิลปินจุดไฟเผาสิ่งของต่าง ๆ
เขาถูกตั้งข้อหาอะไร? และบทลงโทษสาสมหรือไม่
นายรินเดอร์เนชท์ได้ขับรถอยู่ใกล้ ๆ บริเวณแปซิฟิกพาลิเซดส์ในวันส่งท้ายปีเก่า จากนั้นเขาจึงเดินป่าไปยังบริเวณที่เกิดไฟไหม้ขนาดเล็กขึ้นหลังเที่ยงคืนเล็กน้อยของวันที่ 1 มกราคม อัยการรัฐบาลกลางกล่าวว่าเขาจุดไฟโดยใช้เปลวไฟโดยตรงและใช้ไฟแช็ก
ตามคำให้การของนายรินเดอร์เนชท์ เขาพยายามโทรแจ้ง 911 หลายครั้งก่อนที่จะติดต่อได้ในที่สุด เจ้าหน้าที่ระบุว่า เขาถ่ายวิดีโอบริเวณจุดเริ่มต้นเส้นทางเดินป่า และเสนอตัวที่จะช่วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟ เมื่อเขาพบเจ้าหน้าที่ ขณะที่กำลังออกจากที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงท้องถิ่นเชื่อว่าไฟป่าขนาดเล็กกว่าอย่างไฟป่าแลชแมน ได้ถูกดับลงแล้วภายในวันที่ 2 มกราคม แต่ในวันที่ 7 มกราคม พายุลมแรงผิดปกติได้จุดไฟที่มองไม่เห็นขึ้นมาอีกครั้ง ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สืบสวน เปลวไฟเหล่านั้นลุกลามอย่างควบคุมไม่ได้และกลายเป็นไฟป่าพาลิเซดส์
อัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า “ความประมาทของคนเพียงคนเดียวทำให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของลอสแอนเจลิส” หากถูกตัดสินว่ามีความผิด นายรินเดอร์เนชท์รินเดอร์เนชท์ จะถูกจำคุก 20 ปี เจ้าหน้าที่สืบสวนจากสำนักงานแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาวุธปืน และวัตถุระเบิด กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า พวกเขาได้ตรวจสอบหลักฐานมากกว่า 13,000 ชิ้น และข้อมูลบันทึกการโทรศัพท์มากกว่า 1 ล้านรายการ
อัยการได้ตั้งข้อหานายรินเดอร์เนชท์ “โดยเจตนา” ก่อไฟจนสร้างความเสียหายและทำลายทรัพย์สินของรัฐบาลกลาง เหตุเพลิงไหม้ในวันปีใหม่ที่พวกเขากล่าวหาว่าเขาเป็นคนก่อขึ้น ซึ่งรู้จักกันในชื่อไฟป่าแลชแมน ได้เผาผลาญที่ดินของรัฐบาลกลางในเขตสันทนาการแห่งชาติเทือกเขาซานตาโมนิกา รวมถึงที่ดินที่รัฐเป็นเจ้าของและกลุ่มอนุรักษ์ ซึ่งทั้งสองแห่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง
