เกียวโดนิวส์ รายงานผลสำรวจ พบว่าชาวญี่ปุ่นเกือบ 60% เชื่อว่าราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นคนใหม่ ต่อจากผู้ดำรงตำแหน่งก่อน ทาคุ เอโตะ ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังเล่นมุกว่าเขาไม่ทราบราคาข้าว เพราะได้ฟรีเป็นของขวัญจากเกษตรกรเยอะมาก แต่ประชาชนที่แบกรับค่าครองชีพที่แพงขึ้นอย่างมาก กลับไม่ขำด้วย และออกมาประณามถึงผลงานอันล้มเหลวของอดีรัฐมนตรีคนดังกล่าว
จากการสำรวจซึ่งเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา (24 พ.ค. 68) มีผู้ตอบแบบสอบถาม 59.8% คาดหวังว่า ราคาข้าวน่าจะลดลง หากญี่ปุ่นได้รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ คนใหม่ ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถาม 35.1% กลับไม่เชื่อว่ามีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกิดขึ้น ภายใต้การนำของนายชินจิโร โคอิซูมิ ในตำแหน่งหัวหน้ากระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง
นายโคอิซูมิ ชินจิโร ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตรคนใหม่ของญี่ปุ่น ให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้น โดยการปล่อยข้าวสารสำรองของรัฐบาลและ จัดหาข้าวสำรองให้โดยไม่จำกัดหากจำเป็น ซึ่งจะดำเนินการอย่างรวดเร็วและพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังเปรยว่าจะประกาศแผนที่จะเปลี่ยนมาใช้สัญญาโดยตรงกับผู้ซื้อรายบุคคลแทนเพื่อแก้ปัญหาราคาข้าวในประเทศ
ว่าที่รัฐมนตรีกรระทรวงเกษตรคนใหม่ ชินจิโร โคอิซูมิ ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีจุนอิจิโร โคอิซูมิ ซึ่งเคยรับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมมาก่อน เขาถือเป็นผู้สร้างความหวังในตำแหน่งผู้นำรุ่นใหม่ในพรรครัฐบาล เสรีประชาธิปไตย และเป็นนักการเมืองดาวรุ่งที่ชาวญี่ปุ่นอยากเห็นเป็นผู้นำประเทศ ในโพลที่เคยสำรวจมาก่อนหน้านี้ จนมีฉายาว่าเป็นตัวเต็งนายกฯ หนุ่มของญี่ปุ่นในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด
ปัจจุบัน ราคาข้าวเฉลี่ยที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่นยังคงอยู่ที่ระดับสูงเกือบสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเก็บเกี่ยวที่ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไรนักตั้งแต่ฤดูร้อนของปี 2023 โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,268 เยน ต่อ 5 กิโลกรัม แม้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการตอบโต้ เช่น การปล่อยสต็อกสินค้าเพื่อรักษาเสถียรภาพของอุปทานก็ตาม
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสอบถาม 44.7% เชื่อว่าราคาข้าวควรลดลงต่ำกว่า 3,000 เยนต่อ 5 กิโลกรัม ซึ่งต่ำกว่าที่นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะให้คำมั่นไว้เมื่อไม่นานนี้ว่า อาจลดลงไม่ถึง 2,000 เยน ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถาม 45% เชื่อว่าการปรับลดราคาข้าวตามเป้าหมายเดิมของรัฐบาลนั้นเหมาะสมดีแล้ว ส่วนอีก 7.6% มองว่าต้องเพิ่มราคาข้าวขึ้นอีก เพื่อเป็นการช่วยเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
ผู้ประกอบการเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตของญี่ปุ่นหลายรายเดินหน้าขายข้าวที่ปลูกในต่างประเทศ เนื่องจากมีราคาที่ถูกกว่าข้าวในประเทศที่ชาวญี่ปุ่นนิยมบริโภคเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวที่สูงขึ้น และความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนอาหารหลักของประเทศ
บริษัท Aeon ซูเปอร์มาร์เก็ตญี่ปุ่น จะเริ่มจำหน่ายข้าวจากแคลิฟอร์เนียในวันที่ 6 มิถุนายนที่ร้านค้าของบริษัท โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตเมือง ในราคา 2,894 เยน สำหรับข้าว 4 กิโลกรัม เมื่อแปลงเป็นหน่วยขายทั่วไปในญี่ปุ่นที่ 5 กิโลกรัมแล้ว ราคาจะอยู่ที่ 3,618 เยน ซึ่งถูกกว่าราคาเฉลี่ยที่กระทรวงเกษตรคำนวณไว้สำหรับข้าวที่ปลูกในญี่ปุ่นในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วประเทศ
บริษัทได้เปิดขายข้าวผสมที่ปลูกในสหรัฐอเมริกาและในประเทศไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผู้ค้าปลีกอาหารคู่แข่งอย่าง Ito-Yokado Co. และ Seiyu Co. ก็ได้ขายข้าวจากแคลิฟอร์เนียและไต้หวันเช่นกัน โดยบริษัทกล่าวว่า การตัดสินใจขายข้าว Calrose ของแคลิฟอร์เนียสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของผู้บริโภค เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถซื้อข้าวญี่ปุ่นได้เหมือนอย่างเคย ด้วยราคาที่สูงเกินไป
ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวผ่านรัฐบาล ซึ่งมีหน้าที่ต้องซื้อข้าวจำนวนหนึ่งจากประเทศอื่นภายใต้ข้อตกลงขององค์การการค้าโลก หรือผ่านบริษัทเอกชนซึ่งจ่ายภาษีศุลกากรให้กับรัฐบาล สำหรับ Aeon มีแผนที่จะซื้อข้าวผ่านการนำเข้าของเอกชนและขายข้าวประมาณ 14,000 ตันในช่วงระยะเวลาสามเดือน
ทั้งนี้ ข้าวพันธุ์ Calrose ขนาดกลางที่ปลูกในแคลิฟอร์เนีย มีความเหนียวน้อยกว่าและมีรสชาติกลาง ๆ มากกว่าข้าวญี่ปุ่น ข้าวอเมริกาพันธุ์นี้จึงเหมาะสำหรับใช้ในริซอตโต้ ข้าวอบ สตูว์ และซุป ด้านนายจอร์จ กลาส เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า การขายข้าวที่ปลูกในสหรัฐฯถือเป็นเรื่องแห่งประวัติศาสตร์ สำหรับเกษตรกรชาวอเมริกัน เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับข้าวเป็นอย่างยิ่ง และอาจเป็นผู้บริโภคที่พิถีพิถันที่สุดเมื่อเป็นเรื่องของคุณภาพอาหาร