
วันที่ 21 พ.ย. 68 นาย สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาข้าวในปีนี้ โดยยืนยันว่า ราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ดี และสอดคล้องกับเสียงสะท้อนจากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิที่ระบุว่า ราคาข้าวหอมมะลิ ราคาที่ไม่คิดความชื้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 13 บาท 20 สตางค์ ถือว่าสูงจนชาวนาพอใจอย่างมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่บางช่วงตกต่ำเหลือเพียง 7–9 บาทต่อกิโลกรัม
โฆษกรัฐบาล ชี้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาข้าวปีนี้ฟื้นตัวชัดเจน มาจากมาตรการของรัฐบาลในการเร่งระบายสต็อกข้าวอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังไม่มีข้าวจากกัมพูชาเข้ามาตีตลาดไทยเหมือนในอดีต ส่งผลให้ระบบราคาเริ่มกลับสู่ภาวะสมดุล
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐบาลเลือกใช้นโยบายที่สอดคล้องกับกลไกตลาดโลก ไม่ย้อนกลับไปสู่แนวทางที่บิดเบือนราคา เช่น การจำนำหรือการประกันราคาระดับสูง จึงออกมาตรการ สินเชื่อชะลอการขายข้าว สำหรับเกษตรกรที่ต้องการรอให้ราคาปรับตัวขึ้น โดยรัฐจัดงบสนับสนุนให้เกษตรกรกู้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เมื่อขายข้าวได้แล้วจึงนำเงินมาคืน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการฝากข้าวในยุ้งฉาง โดยรัฐจะแปรรูปข้าวส่วนหนึ่งเป็นข้าวสารเพื่อเพิ่มมูลค่าในระบบ
โฆษกรัฐบาล ระบุด้วยว่า ปีนี้ไทยส่งออกข้าวลดลงจากปีก่อนพอสมควร ประกอบกับนโยบายภาครัฐเมื่อช่วงต้นปี ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลชุดก่อน ที่ส่งสัญญาณให้ทำการเพาะปลูกเต็มที่เนื่องจากปีนี้น้ำเยอะ และยังสนับสนุนให้ทำนาปรังเพิ่ม ส่งผลให้ผลผลิตข้าวทั้งเก่าและใหม่จำนวนมากไหลเข้าตลาด จนทำให้ราคาข้าวตกในช่วงก่อนหน้า รัฐบาลจึงต้องเร่งแก้ด้วยการระบายสต็อกและหนุนเกษตรกรชะลอขายเพื่อดันราคาให้กลับมาดีขึ้น
สำหรับทิศทางหลังฤดูกาลนาปี โฆษกรัฐบาล ระบุว่า รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมเกษตรกรที่ปรับไปปลูกพืชชนิดอื่นชั่วคราว โดยให้เงินสนับสนุนไร่ละ 2,000 บาท ไม่ได้มีเจตนาให้เลิกปลูกข้าวถาวร แต่ต้องการบริหารดุลยภาพดีมานด์-ซัพพลายของประเทศ
นายสิริพงศ์ ยังกล่าวถึงพืชเศรษฐกิจศักยภาพสูง เช่น กล้วยหอมทองที่ญี่ปุ่นต้องการมาก แต่ไทยยังผลิตไม่พอ รวมถึงทุเรียนและมะพร้าว ซึ่งล้วนเป็นผลไม้ที่มีศักยภาพและตลาดรองรับ หากเกษตรกรสนใจปรับเปลี่ยนชนิดพืชปลูก หน่วยงานรัฐพร้อมสนับสนุนองค์ความรู้และระบบตลาดเต็มที่
“เราคาดหวังว่าจะมีพื้นที่ประมาณ 1 ล้านไร่ ที่เกษตรกรปรับไปปลูกพืชอื่นในรอบการผลิต ไม่ใช่ตลอดไป” โฆษกรัฐบาลกล่าว พร้อมย้ำว่า รัฐบาลเพียงเสนอทางเลือก ไม่ได้สั่งให้ชาวนาเปลี่ยนพืชปลูก แต่ต้องการให้พิจารณาอย่างรอบด้านตามหลักการตลาดและรายได้ที่มั่นคงขึ้นของเกษตรกรเอง
Advertisement