Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ไทยสมรสเท่าเทียม: ช่องทางสมหวังของคู่รักต่างชาติ
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ไทยสมรสเท่าเทียม: ช่องทางสมหวังของคู่รักต่างชาติ

25 ม.ค. 68
09:39 น.
แชร์

“ก่อนหน้านี้ เราก็กำลังตัดสินใจกันอยู่ว่าจะไปจดทะเบียนกันที่ประเทศไหนดี ที่กฎหมายรับรองการแต่งงานเพศเดียวกัน พอเราได้ข่าวว่าเมืองไทยกำลังจะอนุญาตให้มีสมรสเท่าเทียม… ลงตัวเลย!” 

เมื่อพูดประโยคนี้จบ เคเซนเนีย ชาวรัสเซียดีดนิ้วและยิ้มอย่างพอใจ ขณะเล่าให้ Spotlight ฟังว่าทำไมเธอและภรรยาถึงตัดสินใจข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากรัสเซีย และเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จดทะเบียนสมรส เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างเป็นทางการ

เคเซนเนียและเอเลน่า คู่สมรสชาวรัสเซีย
เคเซนเนียและเอเลน่า คู่สมรสชาวรัสเซีย
เคเซนเนียและเอเลน่า คู่สมรสชาวรัสเซีย และเพื่อน ๆ ที่มาเป็นพยานรัก
เคเซนเนียและเอเลน่า คู่สมรสชาวรัสเซีย และเพื่อน ๆ ที่มาเป็นพยานรัก

เคเซนเนียและเอเลน่า เป็นชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในพัทยามาเป็นเวลา 8 เดือนแล้ว ด้วยความที่หลงรักอากาศและอาหารของเมืองไทย และเคยเดินทางมาหลายรอบแล้ว จึงตัดสินใจมาทำธุรกิจที่เมืองติดชายทะเล แถมยังเป็นเมืองที่ชาวรัสเซียอยู่กันเยอะ ซึ่งวันพฤหัสที่ 23 มกราคมที่ผ่านมานี้ ทั้งคู่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อมาจดทะเบียนสมรสใน “Marriage Equality สมรสเท่าเทียม” จัดขึ้น ณ พารากอนฮอลล์ พร้อมกับกลุ่มเพื่อนที่มาเป็นพยานรักด้วย

23 มกราคม พ.ศ. 2568 นับเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่ความเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศก้าวหน้าไปอีกหนึ่งขั้น เนื่องจากเป็นวันแรกที่สมรสเท่าเทียมมีผลทางกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 บรรยากาศในเขตอำเภอทั่วประเทศมีคู่รัก LGBTQ หลั่งไหลเข้ามาจดทะเบียนสมรสพร้อมกับเพื่อน ๆ และญาติสนิทที่มาร่วมเฉลิมฉลอง ซึ่งมีคู่รักที่มาจดทะเบียนทั่วประเทศ 2,799 คู่ ในจำนวนนี้เป็นคู่สมรสเพศเดียวกัน 1,839 คู่ และมีผู้ที่เดินทางมาจดทะเบียนที่งานสมรสเท่าเทียม ณ สยามพารากอน ทั้งหมด 185 คู่ ซึ่งภาครัฐขนทีมงานมาอำนวยความสะดวกให้ ณ ศูนย์การค้าแห่งนี้ 

ในจำนวนตัวเลขนี้ มีคู่สมรสไม่น้อยเลยที่คนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติและอีกคนเป็นคนไทย เช่นเดียวกับคู่ของคุณนพรัตน์ เดวาหมัด และคุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์ ที่คบหาดูใจและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาแล้ว 22 ปี ทั้งคู่ตัดสินใจมาจดทะเบียนสมรสที่สยามพารากอนเช่นกัน และเลือกที่จะจดทะเบียนในวันแรกที่กฎหมายอนุญาตเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ เมื่อถามความรู้สึกที่ได้ขยับสถานะทางกฎหมายจากคนโสดสู่คู่สมรส ทั้งคู่รู้สึกดีใจและตื้นตันใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยคาดฝันว่าวันนี้จะมาถึงเสียที และยังมีอีกความรู้สึกหนึ่งคือความรู้สึก “อุ่นใจมากขึ้น” 

“เราก็จะมีความกังวลใจว่า ถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา เราจะมีสิทธิ์ในการตัดสินใจทางการแพทย์ให้เขาไหม หรือถ้าอีกคนเป็นอะไรไป ทรัพย์สินทางมรดกที่เรามีร่วมกันจะเป็นอย่างไร และก่อนหน้านี้ ผมเองก็มีการซื้อคอนโดด้วย ก็จะติดปัญหาเอกสาร เราก็จะเจอกับความยุ่งยากต่าง ๆ ในเอกสารมาโดยตลอด วันนี้ก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้นครับ ที่ได้จดทะเบียนสมรสเป็นคู่ชีวิตกันตามกฎหมาย” คุณนพรัตน์กล่าว ก่อนที่จะไปถ่ายภาพคู่พร้อมทะเบียนสมรส กับเพื่อน ๆ ชาวต่างชาติที่มาเซ็นเป็นพยานให้กับคู่รัก และร่วมเดินพาเหรดพรมแดงสีรุ้งพร้อมกับบรรดาคนดังแนวหน้าในไทยจากทุกวงการ

คุณนพรัตน์ เดวาหมัด และคุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์
คุณนพรัตน์ เดวาหมัด และคุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์
คุณนพรัตน์ เดวาหมัด และคุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์
คุณนพรัตน์ เดวาหมัด และคุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์
คุณนพรัตน์ เดวาหมัด คุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์  และเพื่อน ๆ ชาวอเมริกันและชาวอินโดนีเซียซึ่งสมรสกันในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้
คุณนพรัตน์ เดวาหมัด คุณปีเตอร์ เบซิล เดอซูซา ชาวสิงคโปร์ และเพื่อน ๆ ชาวอเมริกันและชาวอินโดนีเซียซึ่งสมรสกันในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้

เส้นทาง “สมรสเท่าเทียม” ที่ยังต้องสู้ต่อไปในเวทีนานาชาติ

เมื่อสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสในวันนี้ มีปัญหาหรือติดขัดอย่างไรบ้างไหม สำหรับคุณนพรัตน์และคุณปีเตอร์รู้สึกว่าขั้นตอนในวันจดทะเบียน ณ สยามพารากอน เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีในการยื่นเอกสาร กรอกข้อมูลและเซ็นเอกสารจนเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน แต่สิ่งที่ยากที่สุดในกระบวนการจดทะเบียนสมรสของทั้งคู่ คือการเตรียมเอกสารในฝั่งของคุณปีเตอร์ โดยเฉพาะใบรับรองสถานะสำหรับการแต่งงานกับชาวต่างชาติ ซึ่งจะต้องยื่นขอจากสถานทูตสิงคโปร์

“ขั้นตอนที่ยากจริง ๆ คือการขอเอกสารจากสถานทูตสิงคโปร์ เนื่องจากว่ากฎหมายของสิงคโปร์ เขายังไม่รับรองการแต่งงานของเพศเดียวกัน ซึ่งต้องบอกว่าเราเตรียมเอกสารมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ก็คือประมาณ 3-4 เดือนเลย และเราก็เพิ่งได้เอกสารจากสถานทูตมาไม่กี่วันมานี้เอง ก็ลุ้นและโทรตามกันอยู่ครับ แต่ก็ต้องขอบคุณทางสถานทูตที่ช่วยอำนวยความสะดวก จนเราสามารถนำเอกสารต่าง ๆ มายื่นในวันนี้ได้”

แม้เส้นทางการต่อสู้ด้านกฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทยจะใช้เวลายาวนานกว่า 10 ปี นับตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการร่างกฎหมาย พ.ร.บ.คู่ชีวิต ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี พ.ศ. 2556 แต่ก็นับว่าเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในด้านการยอมรับความหลากหลายทางเพศในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เนื่องจากประเทศไทยนับเป็นชาติที่ 3 ในเอเชีย และชาติแรกในอาเซียนที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ขณะที่สิงคโปร์ก็ขยับตัวมาในทิศทางที่ดีขึ้น โดยรัฐสภาสิงคโปร์ได้ยกเลิกกฎหมายลงโทษการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายเมื่อปี พ.ศ. 2565 

ความเข้มข้นของสิทธิเสรีภาพด้านความหลากหลายทางเพศที่ไม่เท่ากันนี้เอง เป็นหนึ่งในอุปสรรคของคู่รัก LGBTQ ต่างชาติที่อยากจะเข้ามาจดทะเบียนสมรสในประเทศไทย สอดคล้องกับข้อมูลของ คุณจิตวิภา เบญจศีล ผู้อำนวยการกองสังคม กรมองค์กรระหว่างประเทศ ที่กล่าวในเวทีเสวนา “เช็กความพร้อม: สมรสเท่าเทียมและก้าวต่อไป” ระบุว่าบางประเทศยังมีกฎหมายที่ลงโทษประชาชนด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ หรือมีการเลือกปฏิบัติ

อย่างไรก็ตาม คุณจิตวิภาเปิดเผยว่า ความคืบหน้าในไทยที่ผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมในปีที่แล้ว สร้างบทบาทผู้นำในการขับเคลื่อนสิทธิเสรีภาพในเวทีระหว่างประเทศ โดยไทยเป็นชาติแรกในเอเชีย ที่ได้อยู่ในกลุ่ม Equal Rights Coalition (ERC) บนเวทีพหุภาคีของสหประชาชาติ ทำหน้าที่คุ้มครองและส่งเสริมสิทธิของกลุ่ม LGBTQIA+ นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะกระทวงต่างประเทศและสถานทูตต่าง ๆ ยังพร้อมให้การอำนวยความสะดวกแก่คู่รัก LGBTQ ต่างชาติทุกคู่ที่ต้องการจดทะเบียนสมรสในไทย 

เวทีเสวนา “เช็กความพร้อม: สมรสเท่าเทียมและก้าวต่อไป”
เวทีเสวนา “เช็กความพร้อม: สมรสเท่าเทียมและก้าวต่อไป”

กฎหมายผ่านได้ เพราะสังคมไทยมีความพร้อม

เคเซนเนียและเอเลน่า เป็นชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากรัสเซียทั้งคู่ แม้คนใดคนหนึ่งไม่ใช่คนไทย แต่กฎหมายก็อนุญาตให้พวกเขาแต่งงานกันได้ในดินแดนแห่งนี้ได้ หากเทียบกับกับกฎหมายและสังคมของประเทศรัสเซีย ที่นี่น่าจะทำให้พวกเขาแสดงความรักต่อกันได้อย่างเปิดเผยและสบายใจกว่าประเทศบ้านเกิด ซึ่งสำนักข่าวเอพี รายงานว่า รัฐบาลรัสเซียได้ออกกฎหมายการห้าม "การโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่เป็นไปตามขนบธรรมเนียม" ในปีพ.ศ. 2565 ส่งผลให้กิจกรรม LGBTQ+ ในที่สาธารณะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และในปีเดียวกันนั้นเอง มีการจับกุมตัวคู่รักเพศเดียวกันที่ออกมาเดินขบวนต่อต้านกฎหมายเลือกปฏิบัติดังกล่าว

นอกจากด้านกฏหมายไทยที่อนุญาตให้เคเซนเนียและเอเลน่าเป็นคู่ชีวิตกันได้แล้ว สังคมไทยยังโอบรับและพร้อมให้ความช่วยเหลือด้วย โดยส่วนใหญ่คู่รักต่างชาติที่มาจดทะเบียน จะมีฝ่ายหนึ่งเป็นคนไทย จึงสื่อสารและแปลภาษากันได้สะดวกกับเจ้าหน้าที่ แต่สำหรับคู่รักชาวรัสเซียคู่นี้ไม่ได้มีล่ามแปลภาษามาด้วย และไม่สามารถอ่านเขียนภาษาไทยได้ แต่โชคดีที่ได้คุณเปรมปรีดา ปราโมช นักวิจัยและนักเคลื่อนไหวความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงเพื่อน ๆ ของเธอตั้งใจมาร่วมงานในวันนี้ เพื่อเป็นอาสาสมัครให้ความช่วยเหลือในการเซ็นเป็นพยานสำหรับคู่รักที่ไม่มีเพื่อนหรือญาติมาด้วย และเธอได้กลายมาเป็นล่ามอาสา ช่วยแปลภาษาระหว่างคู่รักกับเจ้าหน้าที่ ทำให้การจดทะเบียนของพวกเขาในวันนี้สะดวกขึ้นมาก 


เรื่องราวมุมเล็ก ๆ ข้างต้นเป็นสิ่งสะท้อนว่าสังคมไทยยอมรับและให้การสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ รวมถึงคุณนรีลักษณ์ แพไชยภูมิ ผู้อำนวยการกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กรมคุ้มครองและเสรีภาพ มองว่าสังคมไทยให้การยอมรับความหลากหลายทางเพศมากขึ้น หากเทียบกับเมื่อ 15 ปีก่อน คนไทยส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจ เห็นความสำคัญของการไม่เลือกปฏิบัติ  บวกกับภาครัฐที่ไฟเขียวในเรื่องขั้นตอนการแก้กฎหมาย และภาคเอกชนที่พร้อมปรับตัวในเรื่องสิทธิของ LGBTQ ในองค์กร โดยเฉพาะการมอบสวัสดิการต่าง ๆ เมื่อทุกภาคส่วนมองไปในทิศทางเดียวกันเช่นนี้ ทำให้วันนี้ไทยมี “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ในที่สุด


แชร์
ไทยสมรสเท่าเทียม: ช่องทางสมหวังของคู่รักต่างชาติ