ธุรกิจการตลาด

Ernie แชทบอทจีนคู่แข่ง ChatGPT มีผู้ใช้งาน 200 ล้านคนแล้ว AI ช่วยคนเขียนโค้ดไม่เป็น สร้างแชทบอทได้

18 เม.ย. 67
Ernie แชทบอทจีนคู่แข่ง ChatGPT  มีผู้ใช้งาน 200 ล้านคนแล้ว AI ช่วยคนเขียนโค้ดไม่เป็น สร้างแชทบอทได้

หลังจากเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนสิงหาคม ล่าสุด Ernie แชทบอทของบริษัทสัญชาติจีน Baidu มีผู้ใช้งานเกิน 200 ล้านคนเป็นที่เรียบร้อย โดยมีลูกค้าองค์กรจำนวนถึง 85,000 ราย ที่ใช้งานเพื่อสร้างแอปพลิเคชัน AI 190,000 รายการ

ปัจจุบัน Ernie ตอบคำถามจากผู้ใช้งานมากถึง 50 ล้านรายการทุกวัน และโปรแกรมคอมพิวเตอร์เข้าถึงการใช้งาน 200 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งก็หมายความว่า ผู้ใช้งานมีการใช้แชทบอทจำนวนหลายครั้งต่อวัน โดยจำนวนผู้ใช้งานของ Ernie เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า จากการอัปเดตล่าสุดของบริษัทเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

Robin Li ซีอีโอ Baidu กล่าวว่า Ernie เริ่มทำรายได้ให้กับบริษัทตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา และคาดว่าในปีนี้ การพัฒนา AI และ Ernie จะสามารถทำรายได้มากขึ้นเช่นกัน โดย Baidu มีกําหนดจะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกในวันที่ 16 พฤษภาคม

Li ยังเสริมว่า ในประเทศจีนทุกวันนี้ มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 1 พันล้านคน โมเดลรากฐานที่แข็งแกร่ง และระบบอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก ทำให้ทุกคนสามารถเป็นนักพัฒนาได้

นอกจากนี้ Baidu ยังได้ประกาศเปิดตัวเครื่องมือ AI ที่ช่วยกลุ่มคนที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ด สามารถสร้างแชทบอท AI ที่สร้างขึ้นสําหรับใช้งานฟังก์ชันเฉพาะได้ ซึ่งสามารถรวมเข้ากับเว็บไซต์ เซิร์ชเอนจิ้นของ Baidu หรือพอร์ทัลออนไลน์อื่นๆ ต่างจากแชทบอทของ OpenAI ที่อยู่ภายในอินเทอร์เฟซ ChatGPT

ไม่เพียงเท่านี้ Baidu ยังเปิดตัวโมเดล AI Ernie ทั้ง 3 รุ่นในชื่อว่า ‘Speed,’ ‘Lite,’ และ ‘Tiny’ ที่นักเขียนโค้ดสามารถเลือกใช้งานได้ พิจารณาจากความซับซ้อนของเนื้องาน

ความเร่งรีบในการพัฒนา Generative AI ทั่วโลก ทำให้เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนทั่วโลก โดยเฉพาะ GPUs ของ Nvidia ที่ช่วยประมวลผลทในการใช้และฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่ของ AI ซึ่งการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ จากช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้จํากัดจีนในการเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับไฮเอนด์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม Baidu มีแพลตฟอร์มที่สามารถเข้าถึงพลังของชิปหลายประเภท

จากการประมาณการของ Barclays  ขนาดตลาด AI ของจีน ซึ่งประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์เป็นหลัก และตามมาด้วยซอฟต์แวร์และบริการ กำลังจะแตะมูลค่าเกิน 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 เพิ่มขึ้นจากระดับที่ต่ํากว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

ในขณะที่หลายคนมองว่าจีนล้าหลังสหรัฐฯ ในด้าน AI อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของตลาดจีนอยู่ที่การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่รววดเร็วและแข็งแรง ยกตัวอย่างเช่น ระบบอีคอมเมิร์ซ และฟู้ดเดลิเวอรี่ที่จัดส่งภายใน 30 นาที ซึ่งมีนักวิเคราะห์ประเมินว่าการใช้จ่ายของจีนใน digital transformation จะเติบโต 19.2% ระหว่างปี 2023 ถึง 2026 ซึ่งแซงหน้าการเพิ่มขึ้นทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้ที่ 15.6%

ที่มา CNBC

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT