ธุรกิจการตลาด

Apple ล้มแผนทำรถ EV โยกพนักงานบางส่วนลุยธุรกิจ AI คาดถูกเลย์ออฟกว่า 1,000 คน

28 ก.พ. 67
Apple ล้มแผนทำรถ EV โยกพนักงานบางส่วนลุยธุรกิจ AI  คาดถูกเลย์ออฟกว่า 1,000 คน

Apple ล้มแผนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ “Project Titan” ปิดฉากความพยายาม 10 ปี เพื่อย้ายกำลังคนและเงินทุนไปลงกับธุรกิจระบบปฏิบัติการและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพราะมองว่ามีศักยภาพในการสร้างรายได้และทำกำไรมากกว่า คาดพนักงานกว่า 1,000 คนถูกเลย์ออฟ ขณะที่บางส่วนย้ายไปทำงานในแผนกอื่นๆ ของบริษัท

ข่าวนี้นับเป็นข่าวใหญ่ของวงการเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เพราะรถยนต์ไฟฟ้าของ Apple หรือที่เรียกกันว่า Apple Car เป็นที่จับตามองของทั้งอุตสาหกรรมมายาวนาน ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผลิตภัณฑ์ดาวเด่นของบริษัท และขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญของผู้เล่นในตลาด เช่น Tesla, BYD และผู้ผลิตอื่นๆ จากความสามารถในการพัฒนาระบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศของ Apple

การล้มแผนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ Apple ในครั้งนี้จึงเป็นการส่งสัญญาณว่าอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ากำลังจะขาดคู่แข่งที่น่ากลัวไปอีกหนึ่งราย และ Apple จะมุ่งย้ายเงินทุนและทรัพยากรคนไปพัฒนาสินค้าและบริการอื่นๆ แทน โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ และสินค้าอื่นๆ เช่น iPhone, iPad, MacBook และ Vision Pro ที่สามารถผสานกำลังจากปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้

ทั้งนี้ แม้นักวิเคราะห์บางส่วนจะมองว่าการตัดสินใจในครั้งนี้อาจเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะอุตสาหกรรมรถยนต์ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ข่าวนี้กลับเป็นข่าวดีของนักลงทุน เพราะหุ้น Apple ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 0.81% ซึ่งอาจเป็นเพราะว่านักลงทุนมองว่าการที่ Apple เอาเงินไปลงทุนกับผลิตภัณฑ์แกดเจ็ตและระบบปฏิบัติการนั้นน่าจะส่งผลดีกับผลประกอบการของ Apple มากกว่าการพยายามข้ามอุตสาหกรรมไปผลิตรถยนต์ซึ่ง Apple ไม่เชี่ยวชาญ

ยุบทีม 2,000 คน ฝ่ายซอฟต์แวร์ไปต่อ ฮาร์ดแวร์เสี่ยงเลย์ออฟ

จากการรายงานของบลูมเบิร์ก ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Jeff Williams รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการของ Apple และ Kevin Lynch หัวหน้าโปรเจค ได้ประกาศข่าวนี้กับพนักงานในทีมพัฒนา Apple Car ชื่อว่า Special Project Groups หรือ SPG ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 2,000 คน หลังจากผ่านการประชุมหารืออย่างเข้มข้นมาหลายเดือน 

โดยหลังมีการประกาศยุบโครงการ พนักงานประมาณ 1 ใน 3 ของทีมปัจจุบันจะได้ย้ายไปทำงานในแผนกอื่น โดยเฉพาะพนักงานกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ ระบบ Cloud และ AI ที่จะได้ย้ายไปทำงานในแผนกพัฒนาระบบปฏิบัติการและ AI ของ Apple ขณะที่ พนักงานที่ดูแลฮาร์ดแวร์ เช่น ดีไซน์รถ และการตกแต่งภายในและนอกรถ จำนวนมากกว่า 1,000 คน เสี่ยงถูกเลย์ออฟสูง เพราะไม่จำเป็นต่อการดำเนินการในด้านอื่นๆ ของ Apple อีกต่อไป

นอกจากนี้ พนักงานบางส่วนยังอาจถูกโยกย้ายไปทำงานในส่วนของการพัฒนา Vision Pro แว่นตาความจริงเสมือนสุดไฮเทคของ Apple ที่ทางบริษัทหมายมั่นปั้นมือว่าจะเป็นสินค้าดาวเด่นตัวถัดไป แม้สินค้าตัวนี้จะยังได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดีนักจากผู้บริโภค และยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นสินค้าขายดีของ Apple ในเร็วๆ นี้ เพราะใช้ยากและราคาแพงเกินไป

ปัจจุบัน Apple มีแผนที่จะพัฒนาความสามารถ AI ใหม่ๆ มากมายในแอปพลิเคชั่นและอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงการสร้างอุปกรณ์อัตโนมัติสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์สำหรับสรุปข่าว ที่มีข่าวว่าจะถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกใน iOS 18 ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาในเดือนกันยายนนี้พร้อมกับไอโฟนรุ่นใหม่

อย่างไรก็ตาม แม้ Apple จะมีศักยภาพในการพัฒนาและผลิต AI สูง หลายๆ คนก็ยังกังขาว่าธุรกิจ AI จะสามารถสร้างรายได้และกำไรให้กับ Apple ได้เมื่อไหร่ เพราะ Apple น่าจะต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่น และฟีเจอร์ที่ใช้ AI และมีข้อจำกัดในแง่ระบบปฏิบัติการที่เป็นระบบปิด ทำให้ Apple สามารถแข่งขันได้ยากกับผู้พัฒนา AI เจ้าอื่นที่มุ่งพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้ได้กับทุกอุปกรณ์

ย้อนรอย Project Titan อนาคตที่ไม่มีวันมาถึง

Apple ประกาศเริ่ม Project Titan หรือโปรเจคพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองตั้งแต่ปี 2014 หรือประมาณ 10 ปีมาแล้ว โดยเป็นโปรเจคที่เรียกได้ว่าเข้ามาเขย่าวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพราะ Apple ตั้งใจจะสร้างระบบขับขี่อัตโนมัติ 100% ด้วยการใช้ AI ที่มีประสิทธิภาพทั้งด้านสมรรถนะ และการประหยัดพลังงาน

จากวิสัยทัศน์นี้ หาก Apple สามารถพัฒนายานยนต์อย่างที่ตั้งใจไว้ได้จริง Apple ก็จะสามารถเข้ามาแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในฐานะผู้นำตลาดได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เส้นทางการพัฒนาอีวีของ Apple กลับไม่สวยหรู เพราะตลอด 10 ปีที่ผ่านมาโครงการนี้ประสบปัญหาในการพัฒนามาตลอด โดยมีสัญญาณปัญหาเริ่มตั้งแต่ปี 2016 ที่ Steve Zadesky อดีตหัวหน้าโปรเจคลาออกด้วยปัญหาบางอย่าง ทำให้ Apple ต้องพักการพัฒนา Apple Car ไว้ก่อน และไม่มีข่าวคราวเคลื่อนไหวอะไรออกมาอีกเลย จนมีคนคิดว่า Apple ล้มโปรเจคไปแล้ว ก่อนที่ในปี 2017 Apple จะมีการตั้งแล็บทดลองขับรถขึ้นมา ทำให้คนรู้ว่า Apple ยังไม่ได้ล้มเลิกโครงการนี้ แค่ดำเนินการอยู่เงียบๆ

หลังจากนั้น Apple ก็เจอปัญหาใหญ่อีกหลายครั้งที่ทำให้วันเปิดตัว Apple Car ถูกเลื่อนออกไปอีกเรื่อยๆ ทั้งอุบัติเหตุกับรถยนต์บนทางด่วนในปี 2018 การระบาดของโควิดในปี 2020 ที่ทำให้การพัฒนา Apple Car ชะลอลง จนการคาดการณ์ที่ว่า Apple Car จะได้เปิดตัวในปี 2023 ถูกเลื่อนเป็นปี 2024 ก่อนจะถูกเลื่อนอีกเป็นปี 2025 หลังมาถึงปี 2022 แล้วรถยนต์ของ Apple ยังไม่มีความพร้อม และไม่มีแม้แต่การเปิดเผยดีไซน์หรือสเปคของรถเบื้องต้น

จนในเดือนมกราคม ก็มีข่าวคราวของออกมาอีกครั้งว่าการเปิดตัว Apple Car จะถูกเลื่อนไปเป็นปี 2028 พร้อมกับการปรับเป้าการพัฒนารถจากแบบอัตโนมัติ 100% มาเป็นขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 4 ก่อนที่ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จะมีการประกาศยุบโปรเจคอย่างเป็นทางการ ปิดฉากความพยายาม 10 ปี ของ Apple ที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์



ที่มา: Bloomberg, Mac Rumors

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT