ธุรกิจการตลาด

42% ของซีอีโอสหรัฐฯ มอง AI อาจมาแทนที่มนุษย์ในอีก 5-10 ปี

15 มิ.ย. 66
42% ของซีอีโอสหรัฐฯ มอง AI อาจมาแทนที่มนุษย์ในอีก 5-10 ปี

สำรวจของมหาวิทยาลัยเยลเผย ซีอีโอบริษัทใหญ่ในสหรัฐฯ ถึง 42% มองว่า ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ AI จะเข้ามาทำลายมนุษยชาติ และแทนที่มนุษย์ในอีก 5-10 ปี หากปล่อยให้มีการพัฒนาและใช้ AI จนฉลาดและมีความสามารถเหนือมนุษย์อย่างไร้การควบคุม 

ในโลกยุคใหม่ คำถามหนึ่งที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก ก็คือ คำถามที่ว่า AI จะเข้ามาส่งผลกระทบอย่างไรบ้างกับมนุษย์ โดยบางฝ่ายก็มองว่า AI จะเข้ามาแย่งงาน หรือแม้กระทั่งพัฒนาจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ควบคุมมนุษย์ได้ แต่บางฝ่ายก็มองว่า ข้อกังวลนั้น เป็นความกังวลที่เกินเหตุไป และ AI จะเข้ามาเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความสะดวกสบาย และเจริญรุดหน้าขึ้นต่างหาก

จากการสำรวจในงาน Yale CEO Summit ของมหาวิทยาลัยเยล ข้อถกเถียงนี้ก็ปรากฎในหมู่ผู้บริหารระดับสูงในสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน เพราะจากการสำรวจความเห็นเรื่อง AI ของซีอีโอระดับสูง 119 คนที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น James Quincy ซีอีโอของโคคาโคลา และ Doug McMillion ซีอีโอของ Walmart มีผู้ตอบถึง 42% มองว่า AI เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติ และอาจจะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในอีก 5-10 ปี ในขณะที่ 58% มองว่า เหตุการณ์นั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และพวกเขาไม่กังวลว่ามันจะเกิดขึ้น

นอกจากนี้ จากการสำรวจเดียวกัน ยังมีซีอีโอถึง 42% มองว่าอันตรายจาก AI เป็นสิ่งที่คนเอามาตีเรื่องให้ดูน่ากลัวเกินจริงไปเอง ในขณะที่ 58% มองว่าอันตรายจาก AI เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริง และยังมองอีกว่า 3 สาขาอาชีพที่เสี่ยงจะถูก AI เข้าไป disrupt มากที่สุด ก็คือ งานด้านการแพทย์ งานด้านไอที และงานด้านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นข่าว บทความ และคอนเทนต์อื่นๆ เช่น ภาพยนตร์ ซีรีส์ เพลง 

ผลสำรวจนี้ออกมาไม่นานหลังจากมีผู้นำในวงการ AI หลายสิบคน รวมไปถึง Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ผู้พัฒนาแชทบอท ChatGPT ตัวดัง และ Geoffrey Hinton นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ผู้ได้ชื่อว่าเป็น “ปู่ของ AI” และอดีตผู้บริหารระดับสูงของ Microsoft และ Google ออกมาลงชื่อในจดหมายเตือนถึงอันตรายของ AI ว่าอาจถูกพัฒนาจนมีความสามารถในการชักจูงและควบคุมมนุษย์ได้ และการกำกับควบคุมการพัฒนาและการใช้ AI ไม่ให้เกิดภัยต่อมนุษย์ เป็นเรื่องสำคัญที่ทั่วโลกต้องร่วมกันหารือ ในระดับเดียวกับการหาวิธีแก้ไขและป้องกันปัญหาโรคระบาด และสงครามนิวเคลียร์

จากความเห็นของ Hinton ผู้มีอำนาจและผู้เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการกำหนดว่า AI ควรจะถูกพัฒนาหรือนำไปใช้ในสถานการณ์ใดได้บ้าง เพราะหากไม่มีการจำกัดเลย ความสามารถของ AI จะพัฒนาขึ้นไปได้อย่างไม่มีจุดสิ้นสุด และฉลาดจนอาจหลอก และหาทางเลี่ยงได้แม้แต่ข้อจำกัดที่เรากำหนดไว้ให้พวกมัน

โดยถึงแม้ AI จะไม่ได้เข้ามาทำให้มนุษยชาติสูญพันธุ์ หรือหายไปจากโลกในเวลาอันใกล้นี้ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือ บทบาทของ AI ในการเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ รวมไปถึงบทบาทในการควบคุมและนำเสนอข้อมูล ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะสังคมมนุษย์คงอยู่ได้ด้วยการส่งต่อข้อมูลระหว่างกัน และหาก AI ทำผิดพลาดหรือจงใจบิดเบือนข้อมูล มนุษย์ก็อาจไว้ใจและหลงเชื่อไปได้ว่าข้อมูลที่ AI สร้างให้นั้นเป็นความจริง 

 

ที่มา: CNN

 

advertisement

SPOTLIGHT