ธุรกิจการตลาด

ส่องสเปค iPhone 14 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra ดีกว่ากันตรงไหน

7 ก.พ. 66
ส่องสเปค iPhone 14 Pro Max vs Samsung Galaxy S23 Ultra ดีกว่ากันตรงไหน

iPhone 14 Pro Max ก็สวยสะดุดตา Samsung Galaxy S23 Ultra ก็โฉบเฉี่ยวโดนใจ! บรรดาคุณแฟนแสนดีที่ต้องการเปย์สมาร์ทโฟนซักเครื่องให้กับคนรัก ก่อนที่จะรีบไปจอง ไปซื้อสมาร์ทโฟนตัวท้อปเครื่องใหม่ Spotlight ได้รวบรวมสเปคเด่นๆ จุดที่เป็นไฮไลต์ของทั้งสองเครื่อง เพื่อมาเป็นตัวช่วยตัดสินใจก่อนคุณออกไปช้อป



เทียบชัดๆ iPhone 14 Pro Max VS Samsung Galaxy S23 Ultra เครื่องไหน เด่นเรื่องอะไร

 

หลังจากที่ปล่อยให้ Apple ได้แต้มต่อ ปล่อย ‘iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max’ ออกมาเรียกกระแสก่อนตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2565 ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ Samsung ก็ได้ตีตื้นมาด้วยลูกคนสุดท้องของตระกูลเรือธง Galaxy กับ Galaxy S23, S23+ และรุ่นอภิมหาท้อป S23 Ultra ซึ่งหากจับสองรุ่นใหญ่ 14 Pro Max กับ S23 Ultra มาเทียบกันแบบหมัดต่อหมัด สองรุ่นนี้มีสเปคที่นับว่าสูสีกันมาก

 

เทียบ iPhone 14 Pro Max vs S23 Ultra



ราคา

 

ในด้านราคานั้น iPhone ยังคงชนะไปอีกเช่นเคย (ชนะ ที่แปลว่า แพงกว่า) ดังเช่นทุกรุ่นที่ผ่านมา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 36,200 บาทสำหรับเครื่องติดสัญญาค่ายมือถือ และ 44,900 สำหรับเครื่องเปล่า ซึ่งจะได้ความจุ 128 GB แต่หากใครรู้สึกว่าไม่สะใจ กลัวหวานใจใส่รูปคู่ของเราสองไม่พอแล้วล่ะก็ สามารถอัพเดกรดเป็นระดับความจุตั้งแต่ 256 GB, 512 GB ไปจนสุดที่ 1 TB ก็ได้ สนนราคาน่ารักที่ไม่เกิน 63,800 บาทสำหรับเครื่องติดสัญญา และ 69,900 บาท สำหรับเครื่องเปล่า กำเงินมา ‘7 หมื่น’ มีทอนแน่นอน แต่ถ้าใครอยากเก็บเงินไว้บางส่วน ก็อาจยอมลดขนาดหน้าจอ หันไปซื้อรุ่น iPhone 14 Pro ซึ่งราคาต่างกันราว 3,000 บาทในแต่ละระดับความจุ

ฟาก Samsung แม้ราคาเริ่มต้นจะถูกกว่า แต่สเปคไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย โดยในเว็บไซต์ Samsung ประเทศไทย จำหน่าย S23 Ultra เครื่องเปล่า ไม่ติดสัญญาที่ 43,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ 256 GB ไล่ไปจนถึง 49,900 บาท ที่ความจุ 1 TB ส่วนผู้ให้บริการค่ายมือถืออย่าง AIS มีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลาย ส่งผลให้ราคาระดับเริ่มต้นของ Samsung Galaxy S23 Ultra อยู่ที่ 32,400 บาท สำหรับรุ่น 256 GB และเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงราคาสูงสุด 45,900 บาท สำหรับเครื่องที่มีความจุ 1 TB ฟากนี้กำมา 5 หมื่นมีทอน ซึ่งนอกจาก S23 แล้ว พี่น้องท้องเดียวกันยังมีอีก 2 รุ่น คือ S23+ และ S23 ซึ่งจะมีสเปคลดหลั่นกันไป

 

iPhone 14 Pro


ไฮไลต์

 

คำถามใหญ่ก่อนที่ผู้ซื้อจะตัดสินใจเปลี่ยนโทรศัพท์ใหม่ก็คือ “รุ่นนี้เจ๋งกว่ารุ่นก่อนอย่างไร?” ทางฝั่ง iPhone 14 Pro Max นั้น มาพร้อมกับดีไซน์รอยบากแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘Dynamic Island’ ที่มีเฉพาะในรุ่น Pro เท่านั้น ซึ่งมีขนาดเล็กลง แยกจากขอบจอลงมา และมีสารพัดลูกเล่นซึ่งจะเปลี่ยนไปตามแอปที่เปิด ด้านการถ่ายวิดีโอนั้น iPhone นับว่าเป็นเบอร์ต้นของตลาดอยู่แล้ว แต่ใน iPhone 14 ทั้ง 4 รุ่น นี้ยังได้เพิ่ม ‘Cinematic Mode’ หรือโหมดภาพยนตร์ ยกระดับให้การถ่ายวิดีโอของคุณ ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้นไปอีกขั้น และอีกหนึ่งไฮไลต์ คือการเพิ่มระดับความสว่างของจอจากรุ่นก่อนถึง 2 เท่า สว่างที่สุดในตลาดสมา์ทโฟนตอนนี้ แก้ Pain point ของผู้ที่ต้องใช้งานโทรศัพท์กลางแจ้งได้เป็นอย่างดี

จุดที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับ Samsung Galaxy S23 Ultra ได้มากที่สุด เห็นจะเป็นอานุภาพการ ‘ซูม 100 เท่า แบบไม่สั่น’ ซึ่งอัพเกรดจากในรุ่นที่ผ่านมา ทำให้ S23 Ultra เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีระบบการซูมที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ เหมาะอย่างยิ่งหากแฟนของคุณเป็นติ่งศิลปินที่แม้จะได้นั่งที่ไกล แต่ก็ใกล้ชิดกับศิลปินได้ด้วย S23 ไม่เพียงเท่านั้น S23 ยังมาพร้อมปากกา S-Pen ซึ่งเป็นผู้สืบทอดเจตนารมรณ์มาจากซีรีส์ Galaxy Note ที่ปิดตัวลงไป ทำให้เป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถถ่ายรูปได้ และโน้ตได้อย่างคล่องตัว อีกหนึ่งไฮไลต์คือ ดีไซน์ขอบจอโค้ง และมุมเครื่องแบบเหลี่ยม ซึ่งตรงจุดนี้ทำให้แฟนคลับเสียงแตก มีทั้งคนชอบ และคนไม่ชอบ

 

Samsung Galaxy S23 Ultra



สำหรับสเปคด้านอื่นๆ ของสองสมาร์ทโฟนเรือธง ตัวท้อปจาก Apple และ Samsung มีดังนี้

 

กล้องถ่ายภาพ - วิดีโอ

 

Apple iPhone 14 Pro Max

 

กล้องหลัก 48 MP ƒ/1.78
เลนส์ซูม (Telephoto) 12 MP ƒ/1.78
เลนส์กว้าง (Ultrawide) 12 MP ƒ/2.2
เซนเซอร์วัดระยะ TOF 3D LiDAR scanner

กล้องหน้า 12 MP ƒ/1.9

 

Samsung Galaxy S23 Ultra



กล้องหลัก 200 MP ƒ/1.7
เลนส์ซูม (Telephoto) 10 MP ƒ/2.4
เลนส์ซูม (Periscope) 10 MP ƒ/4.9
เลนส์กว้าง (Ultrawide) 12 MP ƒ/2.2
เซนเซอร์วัดระยะ TOF 3D LiDAR scanner

กล้องหน้า 12 MP ƒ/2.2

 

iPhone 14 Pro Max



จอแสดงผล



Apple iPhone 14 Pro Max

 

LTPO OLED 24-bit (16 ล้านสี)
Super Retina XDR
กว้าง 6.7 นิ้ว
ความละเอียด 1290 x 2796 px (460 ppi)
Refresh Rate 120 Hz

 

Samsung Galaxy S23 Ultra

 

Dynamic AMOLED 2X 24-bit (16 ล้านสี)
กว้าง 6.8 นิ้ว
ความละเอียด 1440 x 3088 px (501 ppi)
Refresh Rate 120 Hz

 

S23 Ultra



หน่วยประมวลผล และความจุ

 

Apple iPhone 14 Pro Max

 

A16 Bionic
Hexa Core 3.46 GHz
RAM 6 GB
ROM 128 GB | 256 GB | 512 GB | 1 TB

 

Samsung Galaxy S23 Ultra

 

Snapdragon 8 Gen 2
Octa Core 3.2 GHz
RAM 8 GB | 12 GB
ROM 256 GB | 512 GB | 1 TB

 

iPhone 14



สี

 

Apple iPhone 14 Pro Max

 

4 สี ได้แก่ Deep Purple, Gold, Silver, Space Black

 

Samsung Galaxy S23 Ultra

 

4 สี ได้แก่ Green, Phantom Black, Lavender, Cream
และ 4 สีพิเศษ สั่งจองได้เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ได้แก่
Graphite, Sky Blue, Lime, Red

 

S23 Ultra สี



อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้โทรศัพท์สเปคเทพตัวท้อป แต่งบจำกัด คือการ ‘ซื้อรุ่นก่อนหน้า’ ซึ่งจะมีสเปคใกล้เคียงกัน แต่จะมีโปรโมชั่นพิเศษ ซึ่งอาจได้รับส่วนลดมากถึง 6,000 - 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับช่องทางการจัดจำหน่าย

 

ก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วว่า อยากจัดหนักจัดเต็ม ด้วยการซื้อสมาร์ทโฟนตัวท้อป อัพเกรดแบบจัดเต็มให้คนรู้ใจ หรือลดสเปคลงมาเล็กน้อย แล้วแบ่งเงินบางส่วนไปแปลงเป็นแกดเจ็ท เช่น หูฟัง สมาร์ทวอทช์ เคส หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเป็นของขวัญในช่วงวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงนี้

 

ที่มา : Apple, Samsung, Siamphone, AIS, GSM Arena, XDA

advertisement

SPOTLIGHT