วันที่ 9 พ.ค.68 พลเมืองดีต้องวิ่งห้ามกันจ้าละหวั่นแล้วนำตัวนายสงคราม อายุประมาณ 60 ปี ที่อยู่ในอาการเมามายอย่างหนักออกจากถนน หลังจากวิ่งลงไปทำท่าจะให้รถชน จนรถกระบะหักหลบไปชนกันเสียหาย จากนั้นจึงแจ้งตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ เพราะนายสงคราม พูดจาไม่รู้เรื่อง เกรงว่าจะคลุ้มคลั่งก่อเหตุอีก
ในขณะที่นางพร (นามสมมติ) ภรรยาของนายสงครามเองก็เมามายนอนไม่ได้สติอยู่บนฟุตบาธริมถนน และมีอาการเริ่มจะชักเกร็ง จนพลเมืองดีต้องเอาน้ำมาราดมือราดตัวลดอาการ พร้อมทั้งโทรเรียก 1669 เพื่อขอรถพยาบาลมารับตัว
สอบถามเบื้องต้นนายสงคราม ที่กระดกเหล้าขาวโชว์นักข่าว ก่อนที่จะพูดด้วยกลิ่นเหล้าที่คละคลุ้ง จับใจความได้ว่ามาตลาดซื้อดอกไม้กับเมีย เลยแวะซื้อเหล้าขาวแล้วจอดดื่มที่ริมถนนตรงจุดเกิดเหตุ ดื่มตั้งแต่เช้าจนเมา
เมื่อถามว่าเดินไปกลางถนนจนทำให้รถคนอื่นชนกันรู้ตัวหรือเปล่า นายสงครามก็บอกว่าไม่ได้เดินไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
นักข่าว สอบถามนางพร (นามสมมติ) ผู้เป็นเมีย ว่าอาการเป็นยังไง นางพรก็บอกว่าน่าจะแย่ เพราะตนเองเป็นโรคไต แต่กระดกเหล้าขาวประชดผัวไปหลายอึก เพราะผัวไม่ยอมพากลับบ้าน แถมด่าว่าตนเองเป็นผู้หญิงไม่ดี ทำให้อาการโรคไตกำเริบ ซึ่งระหว่างรอรถพยาบาลนายสงคราม ก็พยายามจะอุ้มเมียหนีกลับบ้าน อ้างว่าถ้ามันไปโรงพยาบาล ผมก็ต้องเสียเวลาไปเยี่ยมอีก กลับบ้านดีกว่ามันไม่เป็นไรหรอก ตำรวจจึงต้องรีบจับแยกออกจากนางพร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ 1669 นำตัวนางพรขึ้นรถพยาบาลส่งให้ถึงมือแพทย์ ก่อนที่อาการจะหนักหรือเกิดเรื่องเศร้า
ส่วนตัวนายสงครามเองก็เมาไม่เหลือสภาพ ตำรวจต้องขี่รถจักรยานยนต์ของนายสงครามไปส่ง ส่วนตัวนายสงครามให้นั่งท้ายกระบะรถตำรวจไปส่งบ้าน เพราะคงกลับเองไม่ได้แน่
ส่วนเจ้าของรถที่หลบนายสงครามไปชนกันก็ได้แต่กุมขมับ เพราะไม่รู้จะเรียกร้องค่าซ่อมรถจากใคร นายสงครามจะรับผิดชอบให้หรือเปล่าก็ยังไม่รู้
Advertisement