ธารน้ำแข็งในสวิสฯ ถล่ม ทั้งหมู่บ้านจมโคลน โลกรวนอาจมีส่วน
เมื่อวันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 15.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสวิตเซอร์แลนด์ เกิดเหตุธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ถล่มลงมาในหุบเขาที่หมู่บ้านแบลทเทิน รัฐวาเลส์ ทางตอนใต้ของประเทศ ฝังทั้งหมู่บ้านไว้ใต้กองหิมะ น้ำแข็ง โคลน และหินจำนวนมหาศาล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประชากรราว 300 คนและสัตว์เลี้ยงได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เนื่องจากความกังวลเรื่องดินถล่มเหนือตัวหมู่บ้านและความไม่มั่นคงของธารน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม ยังคงมีรายงานผู้สูญหาย 1 ราย ขณะนี้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพสวิสและสมาชิกของรัฐบาลกลางกำลังเดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ
แรงสั่นสะเทือนจากธารน้ำแข็งถล่มครั้งนี้รุนแรงมากจนสามารถตรวจวัดได้เทียบเท่าแผ่นดินไหวขนาด 3.1 แมกนิจูด สื่อสวิสเผยแพร่วิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าหมู่บ้านส่วนใหญ่ รวมถึงโบสถ์ ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ชาวบ้านจำนวนมากเกรงว่าบ้านของตนอาจพังเสียหายจนไม่เหลือซาก โดยคืนก่อนเกิดเหตุก็มีน้ำแข็ง หิมะ น้ำ และหินไหลลงสู่หุบเขาแล้วเป็นจำนวนมาก
นอกจากธารน้ำแข็งเบิร์ชแล้ว ยังมีมวลวัสดุอีกประมาณ 9 ล้านตันที่เคยถูกธารน้ำแข็งพยุงเอาไว้พังทลายลงมาพร้อมกัน
ไขสาเหตุธารน้ำแข็งละลาย
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่รัฐวาเลส์เคยประเมินไว้แล้วว่าธารน้ำแข็งแห่งนี้อยู่ในภาวะไม่มั่นคง หลังพบว่าความเร็วของธารน้ำแข็งเพิ่มขึ้นจาก 0.8 เมตรต่อวัน เป็น 1.5–2 เมตรต่อวัน ทำให้หมู่บ้านแบลทเทินตกอยู่ในเขตเสี่ยง และมีการประเมินว่า มีหินถึง 3 ล้านลูกบาศก์เมตรแตกออกมาและกลิ้งลงสู่ธารน้ำแข็งแล้ว
แม้สาเหตุที่แท้จริงของการถล่มของธารน้ำแข็งใกล้ยอดเขาเคลย์เนส เนสทฮอร์น (Kleines Nesthorn) จะยังไม่แน่ชัด แต่นักธรณีวิทยา ฟาเบียน ไรสต์ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งทำให้ธารน้ำแข็งทั่วโลกละลาย อาจเป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัย โดยอาจมีปัจจัยด้านธรณีวิทยาอื่น ๆ และเหตุการณ์ทางสภาพอากาศร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม บทบาทของภาวะโลกร้อนในการทำให้ธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอลป์ไม่มั่นคงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ อุณหภูมิที่สูงขึ้นทำให้ธารน้ำแข็งสูญเสียน้ำแข็งและเสถียรภาพ อีกทั้งการละลายของน้ำแข็งถาวร (permafrost) ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกาวยึดหินในภูเขา ก็ยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์
การถล่มแบบที่เกิดขึ้นในแบลทเทินอาจกลายเป็นเรื่องปกติในอนาคต เมื่อภาวะโลกร้อนยิ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศที่เปราะบางของพื้นที่ภูเขาสูง
ปี 2025 ซึ่งเป็น “ปีแห่งธารน้ำแข็งและขั้วโลกสากล” (International Year of Glaciers and Polar Regions) ถือเป็นช่วงเวลาที่ประชาคมโลกหันมาให้ความสำคัญกับธารน้ำแข็งในฐานะองค์ประกอบสำคัญของระบบภูมิอากาศโลกและแหล่งน้ำจืด เหตุการณ์ในแบลทเทินครั้งนี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการวิจัยผลกระทบของโลกร้อนต่อภูมิทัศน์ธรรมชาติที่อ่อนไหว และเร่งหามาตรการในการป้องกันและปรับตัว
ภูเขาหลักยังไม่มั่นคง – เตรียมพร้อมอพยพเพิ่มเติม
เนินเขาหลักที่เคยเป็นสาเหตุความกังวลในช่วงต้นยังคงไม่มั่นคง และอาจเกิดดินถล่มเพิ่มเติม ซึ่งอาจก่อให้เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นอีก
รายงานจาก Neue Zürcher Zeitung (NZZ) และ SRF ระบุว่ารัฐวาเลส์ได้ขอความช่วยเหลือจากกองทัพ รวมถึงปั๊มน้ำเพื่อรักษาแนวแม่น้ำ เครื่องจักรกลสำหรับเคลียร์พื้นที่ อุปกรณ์อพยพ และเฮลิคอปเตอร์ขนส่งทางอากาศ โดยมีหน่วยลาดตระเวนลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์แล้ว
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะมีการอพยพเพิ่มเติมในหุบเขาโลตเชนทาล (Lötschental) และคาดว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในไม่ช้า เนื่องจากภูเขาลูกใหญ่ยังคงมีความไม่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง
