การเงิน

เก็บเงินหลักพันทุกเดือน ก็มีเงินล้านแรกในชีวิตได้

28 พ.ค. 66
เก็บเงินหลักพันทุกเดือน ก็มีเงินล้านแรกในชีวิตได้

อยากมีเงินล้านแรกในชีวิต อาจดูเป็นเป้าหมายที่ไกลตัวโดยเฉพาะคนที่รู้สึกว่าตนเองยังมีรายได้น้อยอยู่ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า หากเก็บเงินในทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าแค่การหยอดกระปุก ก็สามารถมีเงินล้านได้ด้วยการเก็บเงินเดือนละไม่กี่บาท ภายในเวลาแค่ไม่กี่ปีได้

 อยากมีเงินล้าน ต้องหยอดกระปุกเดือนละเท่าไร 

การทยอยเก็บเงินไว้เฉยๆ โดยไม่ได้รับดอกบี้ยหรือผลตอบแทนเลย หากต้องการมีเงินล้านภายใน 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี ต้องเก็บหรือหยอดกระปุกเดือนละ 8,333 บาท 4,167 บาท และ 2,778 บาทตามลำดับ ซึ่งหากเทียบเงินที่ต้องสะสมกับรายได้ของคนทั่วไปในแต่ละช่วงวัยก็ถือว่าหลายๆ คนสามารถมีเงินล้านได้ไม่ยากเลย เช่น คนวัย 30 ปี หากมีเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท การเก็บออมไม่ถึง 10%ของรายได้ หรือเดือนละ 2,778 บาท ก็มีเงินล้านได้ภายใน 30 ปี เป็นต้น

แต่ในชีวิตจริง คนเราไม่ได้เก็บเงินหยอดกระปุกออมสิน แต่อย่างน้อยก็มักเก็บไว้ในเงินฝากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยบ้าง เช่น เงินฝากออมทรัพย์ ที่ดอกเบี้ยทั่วไปอยู่ที่ 0.25%ต่อปี ก็ทำให้เก็บเงินน้อยลงอยู่ที่เดือนละ 2,675 บาท รวม 30 ปี เก็บเงินอยู่ที่ 963,073 บาท และได้ดอกเบี้ยรวม 36,927 บาท

 อยากมีเงินล้าน ต้องลงทุนเดือนละเท่าไร 

ผลตอบแทนและดอกเบี้ยเงินฝากที่มากขึ้น ช่วยให้การถึงเป้าหมาย 1 ล้านบาทในระยะเวลาที่เท่าเดิม ใช้เงินน้อยลง เช่น เงินฝาก e-Savings ที่ส่วนใหญ่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.5%ต่อปี หากฝาก 30 ปี ก็ต้องฝากเงินอยู่ที่เดือนละ 2,201 บาท รวม 30 ปี อยู่ที่ 792,433 บาท และได้ดอกเบี้ยรวม 207,567 บาท

หรือหากเป็นทางเลือกการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากขึ้น เช่น เฉลี่ย 5%ต่อปี หากเป็นการลงทุน 30 ปี ก็จะลงทุนอยู่ที่เดือนละ 1,202 บาท รวม 30 ปี ใช้เงินลงทุนรวมเพียง 432,558 บาท หรือหากเป็นการลงทุนในทางเลือกผลตอบแทนเฉลี่ย 7%ต่อปี จะลงทุนอยู่ที่เพียงเดือนละ 820 บาท เงินลงทุนรวม 30 ปี อยู่ที่ 295,089 บาท และได้รับผลตอบแทนรวมมากถึง 704,911 บาท

หรือหากเปลี่ยนจากการเก็บเงินด้วยการหยอดกระปุกเดือนละ 2,778 บาท เป็นการลงทุนในทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7%ต่อปี เป็นเวลา 30 ปี จากเดิมที่จะมีเงิน 1 ล้านบาท ด้วยผลตอบแทนที่สะสมตลอดการลงทุนก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นมีเงิน 3,388,808 บาทได้เลยทีเดียว

อยากมีเงินล้านเก็บเงินเท่าไหร่

 ลงทุน ทางเลือกไหนดี 

สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ลงทุนมาก่อน หรือยังมีเงินเก็บไม่มากนัก สามารถเลือกเริ่มต้นเก็บเงินในทางเลือกที่อาจเรียกได้ว่าไม่มีความเสี่ยงเลยก็ได้ นั่นคือทางเลือก เงินฝาก e-Savings ซึ่งเป็นเงินฝากออมทรัพย์ประเภทหนึ่งที่หลายธนาคารมีให้บริการ ส่วนใหญ่ให้ดอกเบี้ยที่ 1.5%ต่อปีขึ้นไป โดยต่างจากออมทรัพย์ทั่วไปหลักๆ ตรงที่ ไม่มีสมุดคู่ฝาก แต่สามารถดูรายการย้อนหลังบนแอปพลิเคชันธนาคาร ไม่สามารถทำธุรกรรมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร แต่ก็สามารถ โอน/จ่าย ผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร ฝาก/ถอน ผ่านตู้อัตโนมัติธนาคารได้ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่เราหลายคนทำกันอยู่แล้วในปัจจุบันโดยแทบไม่ต้องไปที่สาขาธนาคารเลย

สำหรับคนที่ไม่มีเวลาติดตามการลงทุนและพอรับความเสี่ยงได้หรือมั่นใจว่าจะลงทุนระยะยาวได้โดยไม่จำเป็นต้องดึงเงินที่ลงทุนไปออกมาใช้จ่ายในช่วง 3-5 ปีนี้ อาจเลือกลงทุนในกองทุนรวมผสม ที่อาจคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยได้ที่ 5%-7%ต่อปี ขึ้นกับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีกองทุนมากก่อน ปัจจุบันแอปพลิเคชันของแทบทุกธนาคารก็สามารถเปิดบัญชีกองทุนและลงทุนได้ทันทีบนมือถือแล้ว ส่วนคนที่มีเวลาติดตามเงินลงทุนหรือรับความเสี่ยงได้สูง อาจเลือกลงทุนในหุ้นหรือกองทุนหุ้น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้

แม้การลงทุนมีความเสี่ยงที่จะขาดทุน แต่ด้วยระยะเวลาการลงทุนที่นานพอจะช่วยให้ผลขาดทุนนั้นหายไปหรือกลับมากำไรได้ในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น กองทุน ASP-GLTF-T ซึ่งมีผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปีสูงสุด ในกองทุนหุ้นไทยกลุ่ม Equity Large-Cap (ข้อมูล ณ 26 พ.ค. 66 จาก Morningstar Thailand) โดยเคยมีผลขาดทุนสูงสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ 34.55% แต่ใช้เวลาเพียง 8 เดือน 19 วัน (ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 66 จากเอกสาร fund fact sheet) ก็กลับมาเท่าทุนและกำไรในที่สุด เป็นต้น 

เงินล้านมีได้ไม่ยาก หากวันนี้เริ่มต้นเก็บเงินและทยอยเก็บอย่างต่อเนื่อง แต่หากเลือกลงทุนในทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนเหมาะสมกับความเสี่ยงหรือความต้องการของตนเองด้วยแล้ว การมีเงินมากกว่า 1 ล้าน ก็ไม่ใช่เป้าหมายที่ไกลตัวเลย

เก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท

ราชันย์ ตันติจินดา

ราชันย์ ตันติจินดา

นักวางแผนการเงิน CFP

advertisement

SPOTLIGHT