อินไซต์เศรษฐกิจ

ไทยเที่ยวจีน ฟรีวีซ่าถาวร เริ่ม 1 มี.ค.67 ส่วนปี 66 ต่างชาติเข้าไทย 28 ล้านคน

2 ม.ค. 67
ไทยเที่ยวจีน ฟรีวีซ่าถาวร เริ่ม 1 มี.ค.67 ส่วนปี 66 ต่างชาติเข้าไทย 28 ล้านคน
ไฮไลท์ Highlight
 “วันนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีว่า จีนจะมีการยกถาวร โดยเริ่มต้นวันที่ 1 มีนาคม 67 แสดงว่าไป-กลับทั้งสองประเทศไม่ต้องมีวีซ่าซึ่งกันและกัน เป็นการยกระดับความสัมพันธ์ ยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทยให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาทั้ง 2ประเทศ โดยมีการชี้แจงไปยังกรมประชาสัมพันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์ว่า เราพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศและจะดูแลนักท่องเที่ยวของ 2ประเทศให้ดีด้วย” นายเศรษฐากล่าว

415855423_307935698906608_910

นายกยกระดับพาสปอร์ตไทยสำเร็จ ยกเลิกวีซ่านทท.ไทย-จีนถาวร

ล่าสุด วันที่ 2 ม.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยถึงข่าวดี เรื่องโยบายการยกระดับของพาสปอร์ตไทยสำเร็จ

หลังจากเมื่อเดือนที่ผ่านมา จีนยกเว้นการเข้าประเทศให้กับ 5 ประเทศเป็นการชั่วคราว (ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ สเปน และมาเลเซีย ) แต่กลับไม่พบรายชื่อประเทศไทยก่อนหน้านี้ ซึ่งนายเศรษฐา ได้กล่าวว่า เหตุผลที่ตอนนั้นยังไม่มีรายชื่อประเทศไทย เนื่องจาก ขณะนั้นเป็นช่วงระหว่างการเจรจา หารือเรื่องยกเลิกวีซ่าอยู่

 “วันนี้ ถือว่าเป็นข่าวดีว่า จีนจะมีการยกถาวร โดยเริ่มต้นวันที่ 1 มีนาคม 67 แสดงว่าไป-กลับทั้งสองประเทศไม่ต้องมีวีซ่าซึ่งกันและกัน เป็นการยกระดับความสัมพันธ์ ยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทยให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากจะเข้ามาทั้ง 2ประเทศ โดยมีการชี้แจงไปยังกรมประชาสัมพันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์ว่า เราพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศและจะดูแลนักท่องเที่ยวของ 2ประเทศให้ดีด้วย” นายเศรษฐากล่าว

จากนโยบายยกระดับของพาสปอร์ตไทย ยกเลิกวีซ่านทท.ไทย-จีนถาวร ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยว และสร้างสัมพันธไมตรีอันดีให้แก่ 2 ประเทศ

ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายเดือนม.ค – ก.พ. 67 นายเศรษฐา จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อลงนามในข้อตกลงระหว่างไทย-จีน

istock-1089915242

นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เฉียด 8 แสนคน  

หลังจากการเฉลิมฉลองปีใหม่ ต้อนรับปีมังกรทอง 2567 เคาท์ดาวน์ประเทศไทยได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ๋ แต่อีกหนึ่งไฮไลท์เคาท์ดาวน์ ที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศไทย เเละจุดถ่ายทอดสดเคาท์ดาวน์สำคัญที่ ทาง CNN เลือกนั้นก็คือ วัดอรุณราชวราราม ที่ทางททท. ได้จัดกิจกรรม ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  “Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ”

การที่ประเทศไทยกลายเป็น หนึ่งใน Global Countdown ของชาวต่างชาติ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างเดินทางเข้ามาในประเทศไทยกว่า 789,643 คน ร่วมเฉลิมฉลองตั้งแต่เทศกาลคริสต์มาส ไปจนถึง เคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (25-31 ธ.ค. 66)

แม้ว่าจะเป็นตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ปรับลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้ในภาพรวมสัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 789,643 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 7,165 คน หรือลดลง 0.90% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 112,807 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ มาเลเซีย (123,540 คน) จีน (101,003 คน) รัสเซีย (52,893 คน) เกาหลีใต้ (41,830 คน) และอินเดีย (39,630 คน)

นักท่องเที่ยวต่างชาติ เข้าไทยทะลุ 28 ล้านคนในปี 66

น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ตั้งแต่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 66 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,042,131 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 151% สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 ล้านล้านบาท

5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทยสูงสุด

  1. มาเลเซีย 4,563,020 คน

  2. จีน 3,519,735 คน

  3. เกาหลีใต้ 1,658,688 คน

  4. อินเดีย 1,626,720 คน และ

  5. รัสเซีย 1,481,878 คน

ทั้งนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยกว่า 28 จัดว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้กำหนดไว้ ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยปี 2566 ให้ได้ประมาณ 25 - 28 ล้านคน

แนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยว ปี 67 ตั้งเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ตั้งโจทย์วางแนวทางกระตุ้นการท่องเที่ยว ปี 2567 โดยดึงดูดการท่องเที่ยวทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ประเทศเป็น High Season ตลอดทั้งปี เพิ่มการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว เชื่อมต่อการเดินทาง และสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น

พร้อมเพิ่มเป้าหมายสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาท (จากเดิม 3 ล้านล้านบาท) แบ่งเป็นรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 1 ล้านล้านบาท และรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านล้านบาท

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT